อุดรธานี- นายวิเชียร ขาวขำ ส.ส.พรรคเพื่อไทย อุดรฯ ดอดเข้ามอบตัวกับ ตร.ในคดีชุนนุมหน้าศาลากลางก่อนปลุกระดมเสื้อแดงไปปิดถนนบายพาสอุดรฯ-ขอนแก่น ไง้เงาคนเสื้อแดงให้กำลังใจ
วันนี้ (25 พ.ค.) เวลา 10.00 น. นายวิเชียร ขาวขำ ส.ส.พรรคเพื่อไทย จ.อุดรฯ ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับ พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภราดรศักดิ์ ผบก.ภ.จว.อุดรธานี ในคดีปิดล้อมศาลากลางและปิดถนนบายพาสอุดรฯ-ขอนแก่น ซึ่งได้พูดคุยกับในห้องทำงานกว่าครึ่งชั่วโมง ก่อนที่จะตั้งคณะกรรมมาสอบสวนขึ้นมา 1 ชุด โดยมี พ.ต.อ.นิรันดร์ ไพบูลย์ศิลป์ รอง ผบก.ภจว. เป็นหัวหน้าชุด, พ.ต.อ.ชวิศ ศรีจันทร์ ผกก.ภวจ.อุดรฯ, พ.ต.ท.สุวัฒชัย มะลิทอง รองผกก.สส. และ ร.ต.อ.สรพงษ์ งิมสันเทียะ พนักงานสอบสวน เจ้าของคดี
หลังจากนายวิเชียร ขาวขำ ได้พูดคุยกับ พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภราดรศักดิ์ ผบก.ภ.จว.อุดรธานี แล้วเสร็จได้เดินมาทำการสอบปากคำ โดยมี พ.ต.อ.นิรันดร์ ไพบูลย์ศิลป์ รองผบก.ภจว , พ.ต.อ.ชวิศ ศรีจันทร์ ผกก.ภวจ.อุดรฯ, พ.ต.ท.สุวัฒชัย มะลิทอง รองผกก.สส. และร.ต.อ.สรพงษ์ งิมสันเทียะ ร่วมรับฟังและสอบปากคำ ซึ่งใช้เวลากว่า 5 ชั่วโมง
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากในวันที่ 12 เมษายน 52 เวลา 14.00 น.ได้มีกลุ่มคนเสื้อแดงกว่า 2,000 กว่าคน ได้ไปชุมนุมอยู่หน้าศาลากลางจังหวัดอุดรธานี นำโดย นายขวัญชัย สาราคำ หรือไพรพนา ก่อนที่จะขนคนด้วยรถปิกอัพไปปิดถนนมิตรภาพ บริเวณสี่แยกบายพาสอุดร-ขอนแก่น ต.บ้านจั่น อ.เมือง ซึ่งมีชายฉกรรจ์ ขับรถจักรยานยนต์ นำหน้าไปก่อน แล้วนำยางรถยนต์และแผงกั้นมาวางไว้ที่บริเวณดังกล่าว
ต่อมา นายวิเชียร ขาวขำ ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ก็ได้นำประชาชนเข้ามาร่วมสมทบอีกส่วนหนึ่งด้วย
พ.ต.อ.นิรันดร์ เปิดเผยว่า หลังจากทำการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อส่งฟ้องศาลภายใน15 วัน ซึ่งก่อนหน้านี้ นายขวัญชัยเข้ามามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วในคดีเดียวกัน โดยแจ้งข้อหาเดียวกันกับนายขวัญชัยร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา โดยวิธีการปิดกั้นถนนจราจร อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญหรือมิใช่ เพื่อแสดงความคิดเห็นติชมโดยสุจริต เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง
ผู้กระทำผิดเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการในการกระทำผิด ปิดกั้นทางหลวง หรือนำสิ่งใดมาขวางหรือวางบนทางหลวงหรือกระทำการใดๆ ในลักษณะที่อาจเกิดอันตราย หรือเสียหายแก่ยานพาหนะหรือบุคคลและจอดรถในลักษณะกีดขวาง จากนั้นก็ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป