xs
xsm
sm
md
lg

“เคอิโงะ” วิ่งแก้บนหลวงพ่อเพชร ท่ามกลางกองเชียร์นับร้อย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พิจิตร - “เคอิโงะ” วิ่งแก้บนหลวงพ่อเพชรฯ 50 รอบ หลังได้พูดคุยกับพ่อสมใจแล้ว ท่ามกลางกองเชียร์นับร้อยคนรอบวิหาร จากนั้นยังคงใช้ชีวิตเป็นพ่อค้าขายอาหารปลาตามปกติ

หลังจาก ด.ช.เคอิโงะ ซาโต อายุ 9 ขวบ ที่เดินถือภาพถ่ายตามหาพ่อชาวญี่ปุ่นจนกลายเป็นข่าวครึกโครม จนกระทั่งหลายฝ่ายช่วยกันประสานงาน จนทำให้สามารถพบและพูดคุยกับพ่อคือนายคัทซูมิ ซาโต จนสำเร็จ ซึ่งก่อนหน้าที่ “เคอิโงะ” จะมีโอกาสได้พูดคุยกับผู้เป็นพ่อนั้น ได้ไปบนบานศาลกล่าวกับหลวงพ่อเพชร ซึ่งเป็นพระศักดิ์สิทธิ์ คู่บ้านคู่เมือง ประดิษฐานอยู่ที่วัดท่าหลวงพระอารามหลวง อ.เมือง จ.พิจิตร ว่าถ้าตนได้พบเจอพ่อจะวิ่ง 50 รอบพระอุโบสถหลวงพ่อเพชรเพื่อเป็นการแก้บน ซึงเมื่อสมหวังจึงต้องมาทำการแก้บน ซึ่งถือเป็นคำมั่นสัญญา

ล่าสุด วันนี้ (24 พ.ค.) ด.ช.เคอิโงะ แต่งกายชุดนักกีฬาเตรียมพร้อมวิ่งแก้บน เมื่อไปถึงที่บริเวณหน้าพระอุโบสถหลวงพ่อเพชร ด.ช.เคอิโงะ ก็เริ่มวิ่งด้วยเท้าเปล่าไม่ยอมใส่รองเท้าโดยมีเหตุผลว่าพระอุโบสถหลวงพ่อเพชรเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์การใส่รองเท้าเป็นการกระทำที่ไม่สมควร เพราะหลวงตาเคยสอนไว้ บรรดากองเชียร์ไทยมุงและผู้สื่อข่าวจึงต้องตามใจให้วิ่งเท้าเปล่า โดยเริ่มวิ่งออกจากจุดสตาร์ทเมื่อเวลา 09.45 น. รอบแรกๆ ก็ยังฟิต โดยมี ด.ช.มาร์ค กับ ด.ช.ปู สองเพื่อนคู่หูคอยเป็นผู้นับว่า ด.ช.เคอิโงะ วิ่งได้กี่รอบแล้ว หมดยกแรกวิ่งได้ 15 รอบก็ถึงกับหอบลิ้นห้อย เดินเข้าไปกินน้ำในถังน้ำเย็นในพระอุโบสถที่มีเตรียมไว้สำหรับคนทั่วไปท่ามกลางกองเชียร์ที่บอกว่าให้พอก่อนวิ่งแก้บนผ่อนส่งต่อในตอนเย็นก็ได้

แต่ ด.ช.เคอิโงะ ไม่ยอม กล่าวว่า “กลัวว่าหลวงพ่อเพชรจะโกรธถ้าไม่ทำตามสัญญา” จากนั้นก็ลงมือวิ่งต่อไป ท่ามกลางกองเชียร์นับร้อยคนที่คอยปรบมือและมีการมอบรางวัลจนถึงรอบที่ 25 ก็ต้องหยุดพัก โดยด.ช.มาร์ค ซึ่งเป็นเพื่อนคู่หูมาขอแตะมือและช่วยวิ่งแทนให้อีก 10 รอบ รวมเป็น 35 รอบแล้ว จากนั้น ด.ช.เคอิโงะ หายเหนื่อยก็วิ่งต่ออีกจนครบ 50 รอบ เรียกเสียงเฮปรบมือจากกองเชียร์

หลังจากวิ่งเสร็จ ด.ช.เคอิโงะ ก็เดินเข้าไปกราบไหว้หลวงพ่อเพชรแล้วกล่าวว่า “หนูเจอพ่อแล้ว ขอบคุณหลวงพ่อเพชรที่ช่วยหนู วันนี้หนูมาวิ่งแก้บน ตามที่สัญญาแล้วนะครับ”

จากนั้น ด.ช.เคอิโงะ ก็แบกถุงอาหารปลาเดินเร่ขายให้กับนักท่องเที่ยวที่มาท่องเที่ยวภายในวัดท่าหลวง โดยยังใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ โดยการหารายได้จากการขายอาหารปลาและช่วยป้าขายส้มตำ ไก่ย่าง อยู่ที่หน้าวัดท่าหลวง พระอารามหลวง อ.เมือง จ.พิจิตร

กำลังโหลดความคิดเห็น