แม่ฮ่องสอน - ราษฎรชาวไทยภูเขาเผ่ากะเหรี่ยง 6,000 คน วอนสื่อกระทุ้งรัฐ ปรับถนนเข้าชุมชนใหม่ เปิดทางส่งผลผลิตทางการเกษตรออกสู่ตลาด หลังถนนพังมานานกว่า 5 ปี
นายสวัสดิ์ วงศ์เป็ง กำนันตำบลกองก๋อย หมู่ที่ 1 อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า หมู่บ้านกองก๋อย หมู่ที่ 1 อ.สบเมย เป็นหมู่บ้านชาวไทยภูเขาเผ่ากะเหรี่ยง มีประชากรประมาณ 6,000 คน ได้รับความเดือดร้อนเป็นมานานกว่า 5 ปี เนื่องจากถนนตั้งแต่แยกทางหลวงแผ่นดิ108 แม่สะเรียง-ฮอด แยกบริเวณจุดตรวจบ้านห้วยกุ้ง ต.ป่าโปง อ.สบเมย มายังบ้านกองก๋อย ระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร เป็นถนนลาดยางมีขนาดกว้าง 4 เมตร ก่อสร้างโดยกรมโยธาธิการ กระทรวงมหาดไทย ทรุดโทรมเป็นหลุมบ่อลึกและคับแคบไม่สามารถนำผลผลิตทางการเกษตรออกมาจำหน่ายยังตลาดอำเภอแม่สะเรียง หรือจังหวัดเชียงใหม่ได้
ทั้งที่แต่ละปีผลผลิตทางการเกษตร เช่น ฝักทอง พริกแห้ง ถั่วเหลือง ที่ผลิตได้หลายสิบตัน แต่ต้องตกค้างอยู่ในพื้นที่ หรือหากจะนำออกมาจำหน่าย ยังตลาดแม่สะเรียง หรือเชียงใหม่ จะต้องผ่านเส้นทางตำบลบ่อสะหลี อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ เสียค่าขนส่งเพิ่มขึ้นอีกกิโลกรัมละ 50 สตางค์ หรือ 1 บาท เนื่องจากระยะทางไกลและผ่านหมู่บ้านที่มีถนนคับแคบ สะพานที่ทรุดโทรม เสี่ยงต่ออันตรายในชีวิตและทรัพย์สิน
กำนันตำบลกองก๋อย อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาได้มีหนังสือไปยังส่วนราชการและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพื้นที่ เพื่อขอความช่วยเหลือและขอขยายขนาดความกว้างถนนเพื่อสะดวกในการขนผลผลิตทางการเกษตรออกมาจำหน่าย จากเดิมกว้าง 4 เมตร ขอขยายเป็น 6 เมตร แต่ก็ได้รับการปฏิเสธจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้ในพื้นที่ โดยอ้างว่าอยู่ในเขตป่าอนุรักษ์ ทั้งๆ ที่มีถนนลาดยางเดิมอยู่แล้ว แต่เมื่อถนนสายดังกล่าวเกิดการทรุดโทรมและคับแคบ ก็ไม่สามารถขอดำเนินการปรับปรุงได้ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าแปลกมากๆ
อย่างไรก็ตาม เมื่อส่วนราชการไม่สามารถช่วยเหลือได้ จึงได้ร้องผ่านสื่อในพื้นที่ถึงความเดือดร้อนของราษฏรชาวไทยภูเขาตำบลกองก๋อย อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน
นายสวัสดิ์ วงศ์เป็ง กำนันตำบลกองก๋อย หมู่ที่ 1 อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า หมู่บ้านกองก๋อย หมู่ที่ 1 อ.สบเมย เป็นหมู่บ้านชาวไทยภูเขาเผ่ากะเหรี่ยง มีประชากรประมาณ 6,000 คน ได้รับความเดือดร้อนเป็นมานานกว่า 5 ปี เนื่องจากถนนตั้งแต่แยกทางหลวงแผ่นดิ108 แม่สะเรียง-ฮอด แยกบริเวณจุดตรวจบ้านห้วยกุ้ง ต.ป่าโปง อ.สบเมย มายังบ้านกองก๋อย ระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร เป็นถนนลาดยางมีขนาดกว้าง 4 เมตร ก่อสร้างโดยกรมโยธาธิการ กระทรวงมหาดไทย ทรุดโทรมเป็นหลุมบ่อลึกและคับแคบไม่สามารถนำผลผลิตทางการเกษตรออกมาจำหน่ายยังตลาดอำเภอแม่สะเรียง หรือจังหวัดเชียงใหม่ได้
ทั้งที่แต่ละปีผลผลิตทางการเกษตร เช่น ฝักทอง พริกแห้ง ถั่วเหลือง ที่ผลิตได้หลายสิบตัน แต่ต้องตกค้างอยู่ในพื้นที่ หรือหากจะนำออกมาจำหน่าย ยังตลาดแม่สะเรียง หรือเชียงใหม่ จะต้องผ่านเส้นทางตำบลบ่อสะหลี อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ เสียค่าขนส่งเพิ่มขึ้นอีกกิโลกรัมละ 50 สตางค์ หรือ 1 บาท เนื่องจากระยะทางไกลและผ่านหมู่บ้านที่มีถนนคับแคบ สะพานที่ทรุดโทรม เสี่ยงต่ออันตรายในชีวิตและทรัพย์สิน
กำนันตำบลกองก๋อย อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาได้มีหนังสือไปยังส่วนราชการและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพื้นที่ เพื่อขอความช่วยเหลือและขอขยายขนาดความกว้างถนนเพื่อสะดวกในการขนผลผลิตทางการเกษตรออกมาจำหน่าย จากเดิมกว้าง 4 เมตร ขอขยายเป็น 6 เมตร แต่ก็ได้รับการปฏิเสธจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้ในพื้นที่ โดยอ้างว่าอยู่ในเขตป่าอนุรักษ์ ทั้งๆ ที่มีถนนลาดยางเดิมอยู่แล้ว แต่เมื่อถนนสายดังกล่าวเกิดการทรุดโทรมและคับแคบ ก็ไม่สามารถขอดำเนินการปรับปรุงได้ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าแปลกมากๆ
อย่างไรก็ตาม เมื่อส่วนราชการไม่สามารถช่วยเหลือได้ จึงได้ร้องผ่านสื่อในพื้นที่ถึงความเดือดร้อนของราษฏรชาวไทยภูเขาตำบลกองก๋อย อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน
