xs
xsm
sm
md
lg

พ่อเฒ่าวัย 77 ปี งง ฝากเงินธนาคาร 19 ปี พบบัญชีถูกปิดไปแล้ว 15 ปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ตราด - พ่อเฒ่าวัย 77 ปี ถือสมุดธนาคารกรุงศรีฯ เบิกเงินฝากประจำ 10,000 บาท ที่ฝากไว้ถึง 19 ปี พบบัญชีถูกปิดไปแล้ว 15 ปี แจ้งสื่อช่วย ธนาคารรับเรื่อง แต่โวยทำไมต้องแจ้งสื่อ

วันนี้ (21 พ.ค.) นายหยิม ธรรมธุระสาร อายุ 77 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1033 หมู่ 1 ต.คลองใหญ่ อ.แหลมงอบ จ.ตราด พร้อม นางนงลักษณ์ อรุณมาตร อายุ 44 ปี ภรรยาได้เดินทางไปพบนางทัศนีย์ คชินทร ผู้จัดการธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด สาขาตราด เพื่อสอบถามถึงเงินฝากในบัญชีเงินฝากประจำ หลังเคยเดินทางมาธนาคารครั้งหนึ่งแล้ว เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2552 แต่พบว่า เจ้าหน้าที่ธนาคารได้แจ้งว่าบัญชีเงินฝากได้ถูกปิดไปแล้ว วันนี้ จึงเดินทางมาเพื่อติดตามสอบถาม และยืนยันว่า บัญชีเงินฝากถูกปิดไปด้วยสาเหตุใด และใครเป็นผู้ปิดบัญชีธนาคาร

ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ธนาคารผู้ช่วยเข้ามาต้อนรับและสอบถามถึงเหตุที่เดินทางมาพับกับผู้จัดการ และพบว่า มีเจ้าหน้าที่ธนาคารอาวุโสมาต้อนรับ และสอบถาม เมื่อรู้ว่ามีผู้สื่อข่าวเดินทางมาด้วย เจ้าหน้าที่ธนาคารผู้ชายจึงออกมาห้ามไม่ให้สื่อมวลชนบันทึกภาพ และขอให้สื่อมวลชนออกจากธนาคารไป รวมทั้งต่อว่า นายหยิม และ นางนงลักษณ์ ว่า เงินแค่นี้ต้องแจ้งสื่อมวลชนด้วย

ต่อมา เวลา 11.00 น.ทั้ง 2 คนเดินทางออกจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด สาขาตราด โดยบอกกับสื่อมวลชน ว่า ทางธนาคารได้แจ้งว่าบัญชีเงินฝากประจำเล่มดังกล่าวมีการปิดบัญชีมาแล้วเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2537 แต่ไม่ได้แจ้งว่าใครเป็นผู้ปิดบัญชี และขอเวลาในการตรวจสอบรายละเอียดระยะหนึ่งแล้วจะแจ้งให้ทราบ

สำหรับบัญชีเงินฝากประจำของ นายหยิม ธรรมธุระสาร ได้เปิดบัญชีร่วมกับ นางอบเชย ธรรมธุระสาร ที่เป็นภรรยา (จดทะเบียน) โดยเปิดเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2533 จำนวน 10,000 บาท และไม่ได้มาติดต่อกับธนาคารเลยตั้งแต่วันที่ฝากจนถึงวันที่ 6 พฤษภาคม 2552 เป็นเวลากว่า 19 ปี

นายหยิม กล่าวกับสื่อมวลชนว่า เงินที่นำมาฝากเป็นเงินจากการรับจ้างขับรถไถดินได้ค่าจ้างวันละ 70 บาท วันไหนทำงานดีนายจ้างก็ให้เพิ่มเป็น 100 บาท และเก็บเงินมาตลอด 7 เดือน ได้เงินจำนวนหนึ่งและเจ้าหน้าที่ธนาคารมาชวนให้ฝากเงินในบัญชีประจำนานหลายปี ซึ่งฝากไว้ 10,000 บาท พร้อมภรรยา โดยให้เป็น ชื่อของภรรยาด้วย ซึ่งไม่ได้ติดตามทวงถามใดๆ เลย กระทั่งภรรยาเสียชีวิตไปเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา จึงไปรื้อเอกสารต่างๆ พบสมุดบัญชีธนาคารจึงได้พบว่ามีเงินฝากอยู่จึงได้มาเบิกเงิน

“ชีวิตไม่ได้เดือดร้อนอะไร มีสวนยางพารา, มีบ้านที่ดิน และทรัพย์สินอีกหลายอย่าง ลูกหลานก็ไม่มี มีแต่ญาติของภรรยา มีรายได้ไม่เดือดร้อนเงินที่ฝากไว้จึงไม่ได้สนใจอะไร เมื่อภรรยาเสียชีวิตไป 2 ปี ก็เพิ่งแต่งงานใหม่ อายุ 44 ปี เพื่อดูแลกันยามแก่ ผมนำทอง 2 บาทไปสู่ขอซึ่งเขาก็ดูแลเป็นอย่างดี ส่วนเงิน 10,000 บาท หากไม่ได้ ก็ไม่เอาอีกแล้ว และจะไม่ฝากธนาคารอีก เพราะกลัวถูกโกง ตอนฝากก็ถามแล้วว่าจะถูกโกงหรือไม่ก็บอกว่าไม่โกง”

นายหยิม กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า จะเดินทางมาที่ธนาคารอีกครั้งในสัปดาห์หน้า เพื่อขอความชัดเจนจากธนาคารที่บอกว่าจะติดตามเรื่องให้และจะแจ้งให้ทราบ และยังบอกว่าหากธนาคารฯพบว่าเรื่องข้างต้นเป็นเท็จ จะฟ้องร้องดำเนินคดีกับตนเองด้วย

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด สาขาตราด แต่ยังไม่ได้รายละเอียดชัดเจน

กำลังโหลดความคิดเห็น