ศรีสะเกษ- ชาวศรีสะเกษ 4 ตำบล ชายแดนไทย-กัมพูชา ยกพลบุกปิดล้อมที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เรียกร้องคืนที่ดินทำกินเดิมหลังถูกประกาศเขตอุทยานฯ ทับที่ทำดินเดือดร้อนมานาน และให้ย้าย หน.อุทยานฯ กับลูกน้องคนสนิทภายใน 15 วัน
วันนี้ ( 20 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้มีชาวบ้านจาก 4 ตำบลในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประกอบด้วย ต.รุง ต.เสาธงชัย ต.ละลาย และ ต.ภูผาหมอก ประมาณ 200 คน นำโดยนายวิชิต ดวงแก้ว อายุ 45 ปี และ นายทองคำ กันทะวงษ์ อายุ 74 ปี มารวมตัวกันปิดล้อมที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารและปราศรัยผ่านเครื่องขยายเสียงติดตั้งบนรถกระบะ โจมตีการจับกุมขับไล่ชาวบ้านออกจากที่ทำกินมาหลายชั่วอายุคน หลังจากประกาศเขตอุทยานฯทับที่ทำกินสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านมานานหลายปี
โดยมี พ.ต.ท.ทิพย์พงษ์ ทิพย์เกสรสารวัตรใหญ่ สภ.บึงมะลู นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมารักษาความสงบเรียบร้อย
นายวิชิต ดวงแก้ว อายุ 45 ปี ตัวแทนเกษตรกร แกนนำชาวบ้านในครั้งนี้ กล่าวว่า การประกาศแนวเขตทอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ปี 2541 ไม่ชัดเจน ทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารผิดพลาด ในการขับไล่จับกุมชาวบ้าน ทั้งที่เขตอุทยานฯ ไปทับที่ทำกินของชาวบ้านซึ่งได้เข้าทำกินมาก่อนหลายชั่วอายุคน
ดังนั้น พวกเราจึงขอเรียกร้องให้ส่วนราชการที่กี่ยวข้องดำเนินการดังนี้คือ 1. ขอที่ดินทำกินที่เป็นร่องรอยการทำกินมาก่อนปี 2540 2. ให้ทางราชการจัดหาที่ดินทำกินใหม่ในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ 3. ให้ทำการปักปันเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารใหม่เพื่อไม่ให้ทับที่ดินทำกินของประชาชน 4. ให้ย้ายนายสุวรรณ วัฒนพิทักษ์พงษ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารและนายสวัสดิ์ เจ้าหน้าที่อุทยานฯออกจากเขตพื้นที่อุทยานฯ ภายใน 15 วัน และ 5. ให้สร้างป่าเศรษฐกิจชุมชนร่วมกับประชาชนและร่วมกันป้องกันพิทักษ์ป่าให้สมบูรณ์
ทางด้าน นายวีระยุทธ ดวงแก้ว กำนันตำบลเสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ชาวบ้าน 4 ตำบล ได้พากันเข้าไปทำกินบริเวณตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร มานานแล้ว แต่เมื่อมีการประกาศเป็นเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารในปี 2541 ทำให้ที่ดินทำกินของชาวบ้านต้องสูญหายไป ชาวบ้านทุกคนต้องการเพียงที่ดินทำกินเดิมเท่านั้นและไม่ประสงค์จะรุกล้ำเข้าไปในเขตอุทยานฯเพิ่มเติมแต่อย่างใด
“ปัญหาเรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าเห็นใจชาวบ้านมาก เพราะเป็นเรื่องปากท้องของชาวบ้าน จึงขอวอนให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือชาวบ้าน 4 ตำบลนี้ด่วนด้วย” นายวีระยุทธ กล่าว
ต่อมา จ.อ.เกริกชัย ผ่องแผ้ว ปลัดอาวุโสอำเภอกันทรลักษ์ ได้เดินทาง รับหนังสือข้อเรียกร้องนจากตัวแทนของชาวบ้านและกล่าวกับชาวบ้านที่มาชุมนุมว่า จะนำข้อเรียกร้องทั้งหมดรายงานให้นายอำเภอกันทรลักษ์เพื่อได้เสนอรายงานให้ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษทราบถึงปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านโดยด่วนต่อไป เนื่องจากเป็นเรื่องที่ต้องมีการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ และจะได้แจ้งผลการดำเนินการให้ชาวบ้านที่มาชุมนุมทราบโดยด่วนต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม ว่า หลังได้รับฟังการชี้แจงแล้วทำให้ชาวบ้านพอใจและพากันเดินทางกลับเพื่อรอฟังผลการพิจารณาดำเนินการของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง