ตาก- กรมการปกครองสั่งคุมเข้ม 9 พื้นที่พักพิงผู้หลบหนีภัยจากการสู้รบชายแดนไทย-พม่า สั่ง อส.เฝ้าระวังเข้มงวด ป้องกันผลกระทบจากปัญหาการเมืองในพม่า หลังรัฐบาลทหารพม่าจับ “ซูจี” ซ้ำ
วันนี้ (20 พ.ค.) นายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก เป็นประธานการประชุมและมอบนโยบายของกรมการปกครองในการให้ อส.ฝ่ายปกครอง ในการดำเนินภารกิจการควบคุมดูแลผู้หนีภัยจากการสู้รบ ของประเทศไทยที่มีพื้นที่พักพิงชั่วคราวผู้หนีภัยการสู้รบ (ศูนย์อพยพ) ชายแดนไทย-พม่า จำนวน 9 แห่ง 8 อำเภอ 4 จังหวัด มีผู้อพยพจำนวนกว่า 118,685 คน โดยมีปลัดอำเภอและ อส.จากพื้นที่ชายแดนกว่า 150 คนเข้าร่วมประชุมที่ อ.แม่สอด จ.ตาก
ผู้ว่าราชการจังหวัดตากระบุว่า ภารกิจกรมการปกครองที่เกี่ยวข้องกับผู้หนีภัยสงคราม เช่น การจัดอัตรากำลังข้าราชการ ในการดูแลรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยในศูนย์อพยพ การจัดกำลังตรวจชายแดน เพื่อสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมือง การทำทะเบียนประวัติและการรายงานผลการปฏิบัติงาน นอกจากนี้ กรมการปกครองยังจัดกำลังควบคุม ตรวจสอบ เฝ้าระวัง ป้องกันผู้อพยพกระทำผิดกฎหมายภายในพื้นที่พักพิง รวมทั้งการจัดเวรยาม
ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก กล่าวว่า อส.ที่ดูแลพื้นที่พักพิงในศูนย์อพยพแต่ละแห่ง ทั้ง 9 แห่ง ตามแนวชายแดนไทย-พม่า จ.ตาก แม่ฮ่องสอน กาญจนบุรี ราชบุรี โดยมีการเฝ้าระวังเข้มงวด ซึ่งสถานการณ์การเมืองในพม่าที่รัฐบาลกักขังตัวนางอ่องซานซูจี ไม่มีผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของชนกลุ่มน้อยในพื้นที่พักพิงตามศูนย์อพยพต่างๆ โดยยืนยันว่าชาวชาวกะเหรี่ยงที่เป็นผู้อพยพไม่มีการเคลื่อนไหวในศูนย์อพยพเพื่อเรียกร้องต่อต้านและต่อสู้เพื่อนางอ่องซานซูจี เพราะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกัน การเมืองในพม่าปัจจุบันไม่มีผลกระทบกับศูนย์อพยพ
รายงานข่าวแจ้งว่า พื้นที่พักพิงผู้หลบหนีภัยสู้รบชาวกะเหรี่ยงในพื้นที่ชายแดนไทย-พม่า ตามจังหวัดต่างๆ มี 9 แห่ง ดังนี้ จังหวัดตาก 3 แห่งคือ ศูนย์อพยพบ้านอุ้มเปี้ยม อ.พบพระ 13,398 คน,ศูนย์อพยพบ้านแม่หละ อ.ท่าสองยาง 32,567 คน, ศูนย์บ้านนุโพ อ.อุ้มผาง จำนวน 10,570 คน, จังหวัดแม่ฮ่องสอน 4 แห่งคือศูนย์อพยพบ้านในสอย อ.เมือง จำนวน 18,998 คน, บ้านแม่สุริน อ.ขุนยวม จำนวน 3,593 คน, บ้านแม่ลาหลวง อ.สบเมย จำนวน 16,328 คน, จ.กาญจนบุรี 1 แห่ง บ้านต้นยาง อ.สังขละบุรี จำนวน 3,453 คน และ จ.ราชบุรี 1 แห่ง บ้านถ้ำหิน อ.สวนผึ้ง จำนวน 4,921 คน รวมผู้อพยพอย่างเป็นทางการ 118,685 คน
รายงานข่าวแจ้งว่า กรมการปกครองและจังหวัดตามแนวชายแดนที่ดูแลศูนย์อพยพทั้ง 9 แห่ง ได้สั่งเพิ่มความเข้มงวดและเฝ้าระวังการเคลื่อนไหวของผู้อพยพไม่ให้กระทำผิดกฎหมายในรูปแบบต่างๆ ด้วย