xs
xsm
sm
md
lg

ทหารเรือวางพวงมาลา น้อมรำลึกในวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ “เสด็จเตี่ย” บิดาทหารเรือไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา - ทหารเรือวางพวงมาลา น้อมรำลึกในวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ “เสด็จเตี่ย” บิดาทหารเรือไทย

วันนี้ (19 พ.ค.) ซึ่งเป็นวันครบรอบ 86 ปี กองทัพเรือได้กำหนดให้เป็นวันอาภากร หรือวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ของ “พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์” องค์บิดา ผู้ทรงสถิตสถาพรอยู่ในใจของทหารเรือไทย และประชาชนชาวไทยตลอดมา ซึ่งในวันนี้หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง กองทัพเรือ ได้ทำพิธีวางพวงมาลา ณ หน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยมี พลเรือตรีจักรชัย ภู่เจริญยศ ผู้บัญชาการ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง เป็นประธานจุดธูปเทียนถวายเครื่องบวงสรวง เครื่องสังเวย และวางพวงมาลา โดยมีทหารหมู่ปืนเล็กยิงสลุตถวายสักการะ จำนวน 19 นัด

ทั้งนี้ ยังได้จัดให้มีพิธีสงฆ์ โดยได้นิมนต์พระสงฆ์จากวัดรังสีสุนทร กม.5 จำนวน 10 รูป มาสวดเจริญพระพุทธมนต์ ฉันท์ภัตราหารเช้า ณ ศาลากรรเชียง หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ในการนี้ได้มี ผู้บังคับบัญชาหน่วยขึ้นตรง ข้าราชการในสังกัดและครอบครัว ได้พร้อมใจเข้าร่วมพิธีเพื่อนน้อมรำลึก และถวายเป็นพระราชกุศลแด่ ดวงพระวิญญาณ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ (เสด็จเตี่ย)

สำหรับประวัติโดยย่อของ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ ประสูติเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2423 และสิ้นพระชนม์ เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2446 ทรงเป็นพระเจ้าลูกยาเธอ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และเจ้าจอมมารดาโหมด ในปีพุทธศักราช 2436 ได้เสด็จไปศึกษาวิชาการทหารเรือ ณ ประเทศอังกฤษ ผลการศึกษาปรากฏอยู่ในขั้นดีเยี่ยม มีพระวิริยะอุตสาหะ พระจริยวัตรที่งดงาม เป็นที่รักใคร่ของครู อาจารย์ และเป็นที่ยอมรับของชาวอังกฤษ เมื่อจบการศึกษาได้เสด็จกลับเข้ารับราชการในกระทรวงทหารเรือ รับพระราชทานยศเป็น นายเรือโทผู้บังคับการ ในตำแหน่งนายธงผู้บัญชาการทหารเรือ

เมื่อปีพุทธศักราช 2448 ทรงดำรงตำแหน่งเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารเรือ ทรงได้ปรับปรุงการศึกษาของโรงเรียนนายเรือให้เจริญก้าวหน้า ดังปรากฏทำให้ทหารเรือไทยมีความรู้ ความสามารถ ความชำนาญ สามารถเป็นครูและผู้บังคับบัญชาทหารเรือได้โดยไม่ต้องพึ่งพาชาวต่างประเทศ และเมื่อปี พุทธศักราช 2450 ทรงเป็นผู้บังคับการเรือหลวงมกุฎราชกุมาร นำนักเรียนนายเรือ และนักเรียนช่างกล ไปฝึกภาคต่างประเทศได้ทรงนำเรือและที่ประเทศสิงคโปร์ เปลี่ยนสีเรือจากสีขาวเป็นสีหมอกให้เหมือนเรือรบต่างประเทศ เพื่อให้กลมกลืนกับลักษณะของสีน้ำทะเลและภูมิประเทศอีกด้วย

นอกจากนี้ พระองค์ท่านยังได้ทรงศึกษาตำราหมอยาไทยอย่างจริงจัง จนมีความรู้แตกฉาน ทรงเป็นหมอยาไทย รับรักษาประชาชนทั่วไป ด้วยน้ำพระทัยโอบอ้อมอารี จนได้รับพระสมัญญาว่า “หมอพร” แห่งราชนาวีไทย



กำลังโหลดความคิดเห็น