พิจิตร – พ่อ “เคอิโงะ” ติดต่อผ่านสถานทูตญี่ปุ่นในไทยแล้ว นัดโทรศัพท์หาลูกชาย 22 พ.ค.นี้ แต่ขอเป็นส่วนตัว นักข่าวห้ามจุ้น ขอให้เคารพสิทธิส่วนบุคคล ขณะที่เด็กชายสายเลือดไทย-ญี่ปุ่น ดีใจเนื้อเต้น
นายสมชัย หทยะตันติ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เปิดเผยว่า ตลอด 10 วันที่ผ่านมา ต้องขอขอบพระคุณทุกคนในสังคมไทย และเป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อมที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงห่วงใยพสกนิกรของพระองค์ด้วยเช่นกัน โดยให้ราชเลขาฯ ติดตามความคืบหน้าทุกระยะ รวมถึงบุคคลสำคัญในรัฐบาล ก็ให้ความสำคัญในเรื่องของ ด.ช.เคอิโงะ ซาโต อายุ 9 ขวบ ที่ถือภาพถ่ายของพ่อชาวญี่ปุ่นที่พลัดพรากจากกัน โดยตามหาพ่อตามคำสั่งเสียของแม่ก่อนตายมาเป็นเวลาแรมปี จนในที่สุดก็ตกเป็นข่าวได้รับความสนใจจากสาธารณชนเฝ้าติดตามชีวิตต่อเนื่อง
นายสมชัย บอกว่า ล่าสุด ได้รับหนังสือด่วนที่สุดจากสถานทูตญี่ปุ่นในไทย แจ้งมาแล้วว่า พ่อของ ด.ช.เคอิโงะ ซาโต ยอมรับในตัวบุตร ว่า เป็นสายโลหิตและเป็นทายาทสมบูรณ์ตามนิตินัย เนื่องจากพ่อและแม่มีการจดทะเบียนสมรสกันถูกต้อง รวมถึงตอนให้กำเนิด ด.ช.เคอิโงะ พ่อชาวญี่ปุ่นก็ได้มีการรับรองบุตรในการแจ้งเกิดในคราวนั้นด้วย นอกจากนี้ ถ้า ด.ช.เคอิโงะ ในตอนนี้ หรือในอนาคตจะขอสัญชาติญี่ปุ่นก็มีสิทธิ์จะทำได้ตามที่กฎหมายกำหนด
ในส่วนของการที่ ด.ช.เคอิโงะ จะติดต่อกับพ่อชาวญี่ปุ่นขณะนี้ พ่อของ ด.ช.เคอิโงะ ก็ประสานกับสถานทูตญี่ปุ่นในไทยทุกระยะแล้วว่า พร้อมที่จะโทรศัพท์ หรือใช้เว็บแคม หรือใช้เทคโนโลยีทางการสื่อสารพูดคุยกับลูกชายผ่านล่ามตลอดเวลาได้อีกด้วย แต่ขอร้องว่า ขอให้การพูดคุยกับลูกเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่อยากเป็นข่าว ซึ่งทางราชการที่เป็นผู้ประสานงานก็ต้องปฏิบัติตามคำขอเพื่อให้พ่อลูกได้พบกัน
ทั้งนี้ ตนก็ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเรื่องนี้ และขอเรียนให้ทราบว่า ในเร็ววันนี้ ด.ช.เคอิโงะ จะมีความสุขด้วยการได้เห็นหน้าพ่อ และได้โทรศัพท์คุยกันอีก ทั้งจะมีชีวิตที่สมบูรณ์มีพ่อบังเกิดเกล้าอย่างแน่นอน แต่ต้องขอร้องสื่อมวลชนช่วยปฏิบัติไม่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลตามคำร้องขอของพ่อ ด.ช.เคอิโงะ ที่ขอมาเป็นสำคัญด้วย
รายงานข่าวล่าสุดแจ้งมาแล้วว่า นายคัทซูมิ ซาโต ผู้เป็นพ่อ จะขอนัดคุยทางโทรศัพท์ หรือทางเว็บแคมผ่านล่ามของสถานทูตญี่ปุ่นในไทย ในวันที่ 22 พ.ค.เวลาประมาณ 5 โมงเย็นของเมืองไทย ซึ่งเน้นย้ำมาว่าขณะอยู่ในห้องพูดคุยห้ามสื่อมวลชนเฝ้าฟัง หรือถ่ายภาพติดตามข่าวเนื่องจากมีเรื่องส่วนตัวจะคุยกันระหว่างพ่อลูก
ในส่วนของ เด็กชายเคอิโงะ ซาโต ซึ่งวันนี้ไปเรียนหนังสือตามปกติที่โรงเรียนอนุบาลท่าหลวงสงเคราะห์ อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร ในชั้น ป.4 ห้อง 4/1 หลังจากทราบข่าวว่าพ่อติดต่อผ่านสถานทูตมาแล้วว่าจะโทรศัพท์มาคุยด้วยถึงกับออกอาการตื่นเต้น คุยฟุ้งกับเพื่อนๆ อวดว่าตนเองมีพ่อแล้ว และถ้าเจอพ่อก็จะมอบตุ๊กตาที่เตรียมเอาไว้ให้พ่อเป็นของขวัญ อีกทั้งจะชวนพ่อมาเที่ยวพิจิตรอีกด้วย
นางปัทมา ผู้เป็นป้า กล่าวว่า ดีใจที่หลานจะได้เจอหน้าพ่อ แต่ขอย้ำว่าเด็กชายเคอิโงะคงต้องใช้ชีวิตอยู่ในเมืองไทย ส่วนอนาคตจะขอสัญชาติญี่ปุ่นหรือไม่ ต้องให้โตกว่านี้ หรือบรรลุนิติภาวะ ตัดสินใจได้เองก่อน เป็นเรื่องของอนาคตไม่อยากกังวลถึง คิดแค่พรุ่งนี้ให้เจอหน้าพ่อ เลิกงอแง ตั้งใจเรียน แค่นี้ก็พอใจแล้ว
ส่วนเรื่องทรัพย์สินเงินทองคงไม่ไปยุ่งกับพ่อเขา เพราะทุนการศึกษาที่สมาคมชาวพิจิตรและผู้มีจิตเมตตา รวมถึง นายสมชัย หทยะตันติ ผู้ว่าฯ พิจิตร รวมถึงเหล่ากาชาดหยิบยื่นให้ ประกอบกับรายได้จากการทำมาหากินทุกวันก็พร้อมจะส่งหลานเรียนได้แล้วไม่ต้องเดือดร้อนถึงพ่อเขา
“ที่ผ่านมา ขอกราบใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงห่วงใยให้ราชเลขาฯ โทรศัพท์ถามสารทุกข์สุกดิบไม่ขาดสาย อีกทั้งพี่น้องชาวไทยที่ห่วงอาทรติดตามข่าวมาโดยตลอด ทั้งนี้ หลังเด็กชายเคอิโงะได้เจอกับพ่อแล้วก็คงจะได้กลับมาตั้งใจเรียน โตขึ้นเป็นคนดีของสังคม
ส่วน เด็กชายเคอิโงะ จะมีความกตัญญูรู้คุณต่อพ่อบังเกิดเกล้าในอนาคตอย่างไร ก็ขึ้นอยู่ที่สายสัมพันธ์ของพ่อลูกที่จะเกิดขึ้นในวันต่อไป”
