เชียงราย – เวทีคอนเสิร์ตเสื้อแดงเชียงรายบางตา มีคนร่วมแค่ 100 คน เช่นเดียวกับแกนนำที่หรอมแหรมเต็มที “วิภูแถลง” อ้างเรื่องเก่าสื่อไม่เป็นกลาง แต่กลับไร้หลักฐานยืนยันข้อกล่าวหาทุกประเด็น แถมมาแปลกเรียกร้องให้พันธมิตรฯ ร่วมมือ นปช.ไล่อำมาตย์ฯ ขณะที่ศิลปินหลงทาง ทำได้แต่กล่าวโจมตีการสลายการชุมนุม แต่เลือกที่จะไม่พูดถึงพฤติกรรม “หางแดง” ที่ทั้งเผารถเมล์ – ยึดรถแก๊ส – รุมทำร้ายนายกฯ – ยิงชาวบ้านนางเลิ้ง ฯลฯ
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่าหัวค่ำวานนี้ (15 พ.ค.)กลุ่มพลังมวลชนเชียงราย ซึ่งเป็นกลุ่มคนเสื้อแดงที่พึ่งเข้ามามีบทบาทใหม่หลังเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา นำโดยนายธนิต บุญญนสินีเกษม อดีตแกนนำกลุ่มคนเจียงฮายฮักประชาธิปไตยเชียงราย ซึ่งย้ายมาอยู่กลุ่มใหม่ ได้จัดงานคอนเสิร์ตชื่อว่า "สันติวิธี เพลงกวีศรีประชา "สัจจัง เว อมตา ปลุกขวัญให้คืนกลับมา" ขึ้น ณ ลานเอนกประสงค์ติดกับแม่น้ำกกสายใน ชุมชุนดอยทอง เทศบาลนครเชียงราย อ.เมือง ซึ่งอยู่ใกล้กับสนามฝึกนักศึกษาวิชาทหาร จทบ.เชียงราย
โดยคอนเสิร์ตดังกล่าวเป็นกิจกรรมครั้งแรกของกลุ่มคนเสื้อแดงใน จ.เชียงราย นับตั้งแต่เหตุการณ์ปิดถนนจนเป็นเหตุให้ตำรวจต้องดำเนินคดีกับแกนนำไปแล้วจำนวน 13 คน รวมทั้งนายธนิต ด้วย
รวมทั้งเป็นการย้ายสถานที่การจัดคอนเสิร์ตจากเดิมกำหนดเอาไว้ ณ ที่ดินของเอกชนบริเวณใกล้สามแยกหลังโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ถนนพหลโยธินสายเก่า ก่อนถึงชุมชนป่าก่อไทยใหญ่ ในเขตเทศบาลนครเชียงราย เนื่องจากเมื่อมีการขออนุญาตไปยังทางอำเภอแล้วปรากฎว่าไม่ได้รับอนุญาต เพราะหนังสือขออนุญาตระบุว่าเป็นการจัดเพื่อความบันเทิง แต่ในกำหนดการกลับระบุการปราศรัยทางการเมืองเอาไว้ด้วย
สำหรับการจัดคอนเสิร์ตโดยใช้สถานที่สาธารณะครั้งนี้พบว่ามีการจำหน่ายบัตรให้กับคนเสื้อแดงด้วยกันเป็นส่วนใหญ่บัตรละ 50 บาท ซึ่งพบว่ามีคนไปร่วมฟังบางตาประมาณ 100 คน หรืออาจจะใกล้เคียงกับจำนวนที่ไปฟังการปราศรัยของกลุ่มคนเสื้อแดงที่หน้าโรงแรมแสนภูเพลส ถนนบรรพปราการ อ.เมือง เพื่อขนานกับการชุมนุมใหญ่ของแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่ข้างทำเนียบรัฐบาลช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมานั่นเอง
ทั้งนี้พบว่ามีแกนนำของ นปช.เข้าร่วมไม่มากนัก ประกอบไปด้วยนายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย, รศ.ดร.วรพล พรหมิกบุตร, นายวิสา คัญทัพ และนางไพจิตร อักษรณรงค์ สองศิลปินหลงทางในเครือ นปช.
อนึ่งคอนเสิร์ตได้เริ่มเปิดเวทีตั้งแต่เวลา 19.00 น.โดยการร้องเพลงของวิสา คัญทัพ จากนั้น รศ.ดร.วรพล ได้ขึ้นกล่าวปราศรัยโจมตีนโยบายทางเศรษฐกิจของรัฐบาลเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินมาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศในขณะนี้ว่า เป็นสิ่งไม่ถูกต้องและกลับสร้างหนี้ให้กับประชาชน
จากนั้นเป็นการสลับกับการร้องเพลงของไพจิตร อัษรณรงค์ และพบว่านักร้องหญิงรายนี้นอกจากจะร้องเพลงแล้ว ยังออกมาปราศรัยโจมตีการเข้าสลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา โดยไม่ได้ระบุถึงพฤติกรรมของคนเสื้อแดงที่ออกมาเผารถเมล์ ยึดรถแก๊สมาขวางถนน ยิงชาวบ้านนางเลิ้งจนเสียชีวิตไป 2 ราย และเหตุการณ์พยายามฆ่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่กระทรวงมหาดไทย ว่าควรแก่การออกสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่หรือไม่แต่อย่างใด
ต่อมานายวิภูแถลงโฆษกเจ้าเก่าประจำเวที นปช.ได้ปราศรัยในเนื้อหาเดิมคือโจมตีระบอบอำมาตยาธิปไตย เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐไม่อยู่ภายใต้อำนาจนี้ รวมทั้งยังระบุว่าสื่อมวลชนนำเสนอข่าวสารไม่เป็นกลางเพราะถูกอิทธิพลของระบอบเดียวกันนี้ มีการบังคับใช้กฎหมายสองมาตรฐาน การใช้กำลังสลายการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงที่กรุงเทพฯ โดยประเด็นแทรกแซงวื่อนั้นนายวิภูแถลงไม่ได้ระบุว่าเหตุใดในช่วงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยังเป็นนายกรัฐมนตรีและมีการแทรกแซงสื่อโดยเฉพาะสถานีโทรทัศน์ไอทีวีที่ถูกถือหุ้นใหญ่โดยกลุ่มทุนของระบอบทักษิณ
ขณะเดียวกันนายวิภูแถลง ก็ไม่สามารถหาหลักฐานมาแสดงได้ว่า ข้อกล่าวหาที่ระบุว่าสื่อมวลชนนำเสนอข่าวอย่างไม่เป็นกลางมีอะไรบ้าง โดยเฉพาะในเหตุการณ์สลายการชุมนุม และไม่ได้ระบุด้วยว่าสื่อมวลชนต่างประเทศ เช่น รอยเตอร์ ซีเอ็นเอ็น ฯลฯ ซึ่งนำเสนอข่าวไปในทิศทางเดียวกับสื่อมวลชนไทยถูกระบอบอำมาตยาธิปไตยครอบงำด้วยหรือไม่ รวมทั้งไม่ได้มีการอธิบายกับกลุ่มผู้ชุมนุมได้รับทราบถึงพฤติกรรมและโทษโดยละเอียดเกี่ยวกับการกระทำของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า แตกต่างจากการชุมนุมอื่นๆ เพราะมีการใช้ความรุนแรงและไร้เหตุผลจึงต้องถูกดำนินคดีดังกล่าว
อย่างไรก็ตามในช่วงท้ายนายวิภูแถลง กลับสร้างเซอไพร์เมื่อออกมาเรียกร้องอย่างหน้าตาเฉยว่าขอให้กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยร่วมกับกับ นปช.ในการขับไล่อำมาตยาธิปไตย
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่าคอนเสิร์ตดังกล่าวจบลงในเวลา 22.45 น.หลังจากสองศิลปินหลงทางคือวิสา คัญทัพ และไพจิตร อักษรณรงค์ ได้ร้องเพลงสลับการเรียกร้องให้ประชาชนต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและชิงกล่าวปิดงานเสียเองในที่สุด
ทั้งนี้ไม่มีรายงานว่าครั้งนี้นายสุนัย จุลพงศธร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเพื่อไทย ได้ไปร่วมในคอนเสิร์ครั้งนี้แต่อย่างใดทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้มีรายชื่ออยู่ในบัตรคอนเสิร์ตด้วยว่าจะไปร่วมด้วย.