ตราด - จังหวัดตราดสั่ง 2 นายอำเภอและประสานทหารเรือคุมเข้มเสื้อแดงในพื้นที่ หลัง “กษิต ภิรมย์” จะเดินทางลงพื้นที่ตราดดูหลักเขตพื้นที่สร้างเขื่อน บริเวณหลักเขตที่ 73
น.อ.เอนก อันสุขสันต์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด เปิดเผยว่า ในเวลา 13.00 น. วันที่ 16 พฤษภาคม 2552 นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ จะเดินทาง มาตรวจพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.ตราด ที่บริเวณหลักเขตที่ 73 บ้านหาดเล็ก ต.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด เพื่อดูปัญหาพื้นที่ทั้งไทย-กัมพูชา ยังหาข้อสรุปในพื้นที่ชายแดนด้านนี้ไม่ได้ เนื่องจากมีปัญหาเรื่องพื้นที่ ทับซ้อนในทะเล ที่ทั้ง 2 ประเทศยังหาข้อสรุปไม่ได้
จากนั้นจะเดินทางไป จ.เกาะกง และเดินทางตรวจดูถนน สาย 48 (เกาะกง-สะแรอัมเปิล) ที่ประเทศไทยให้ทุนในการดำเนินการก่อสร้างให้พร้อมสำรวจพื้นที่ข้างเดียวอีก หลายแห่ง จากนั้นเดินทางกลับขึ้น ฮ.ที่บริเวณจุดผ่านแดนบ้านหาดเล็ก แล้วสำรวจแนวชายแดนและแม่น้ำสตึงนัม ที่กัมพูชาจะก่อสร้างเขื่อนพลังน้ำเพื่อผลิตไฟฟ้าด้วย
ด้าน นายชลอ ใบเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวว่า การที่ นายกษิต ภิรมย์ จะเดินทางมา ตราดอาจจะมีกลุ่มเสื้อแดงอยู่ และอาจจะส่งผลกระทบต่อความไม่เรียบร้อยด้วยขอให้ทางนายอำเภอทั้ง 2 คน ได้ดำเนินการควบคุมมิให้เกิดปัญหาในเรื่องนี้โดยประสานกำลังตำรวจในพื้นที่ดูแลควบคุม หากมีกำลังทหารเรือ (นาวิกโยธิน) ในพื้นที่ดูแลก็จะเป็นเรื่องที่ดี ทั้งนี้ เป็นนโยบายของกระทรวงมหาดไทย หากปล่อยให้เกิดปัญหาขึ้น อาจจะส่งผลกระทบต่อหน้าที่การงานได้
สำหรับพื้นที่ชายแดนที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ เดินทางมาโดยเฉพาะพื้นที่หลักเขต 73 ที่เป็นหลักเขต สุดท้ายที่กินพรมแดนไทย-กัมพูชาด้าน จ.ตราด ที่ยังมีปัญหาความขัดแย้งกัน โดยเฉพาะพื้นที่ทางทะเลที่ทั้ง 2 ประเทศ ต่างยึดหลักเกณฑ์ไม่ตรงกัน ซึ่งกัมพูชาจะยึดตามแนวแผนที่ฝรั่งเศสนำไว้ ซึ่งจะทำให้ อ.เกาะกูด ครึ่งหนึ่ง อยู่ในเขตกัมพูชา
โดยไทยจะยึดตามหลักภูมิศาสตร์หรือไหล่ทวีป และทั้ง 2 ประเทศได้ประกาศพื้นที่ออกไปจนส่ง ผลให้เกิดพื้นที่ทับซ้อนกันมีพื้นที่มากกว่า 30,000 ตารางกิโลเมตร โดยในพื้นที่มีแหล่งก๊าซธรรมชาติและน้ำมัน จำนวนมากในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งเป็นข่าวที่อดีตนายกรัฐมนตรีไทยจะไปลงทุนด้านพลังงานตามที่เป็นข่าวตลอดมา
น.อ.เอนก อันสุขสันต์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด เปิดเผยว่า ในเวลา 13.00 น. วันที่ 16 พฤษภาคม 2552 นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ จะเดินทาง มาตรวจพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.ตราด ที่บริเวณหลักเขตที่ 73 บ้านหาดเล็ก ต.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด เพื่อดูปัญหาพื้นที่ทั้งไทย-กัมพูชา ยังหาข้อสรุปในพื้นที่ชายแดนด้านนี้ไม่ได้ เนื่องจากมีปัญหาเรื่องพื้นที่ ทับซ้อนในทะเล ที่ทั้ง 2 ประเทศยังหาข้อสรุปไม่ได้
จากนั้นจะเดินทางไป จ.เกาะกง และเดินทางตรวจดูถนน สาย 48 (เกาะกง-สะแรอัมเปิล) ที่ประเทศไทยให้ทุนในการดำเนินการก่อสร้างให้พร้อมสำรวจพื้นที่ข้างเดียวอีก หลายแห่ง จากนั้นเดินทางกลับขึ้น ฮ.ที่บริเวณจุดผ่านแดนบ้านหาดเล็ก แล้วสำรวจแนวชายแดนและแม่น้ำสตึงนัม ที่กัมพูชาจะก่อสร้างเขื่อนพลังน้ำเพื่อผลิตไฟฟ้าด้วย
ด้าน นายชลอ ใบเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวว่า การที่ นายกษิต ภิรมย์ จะเดินทางมา ตราดอาจจะมีกลุ่มเสื้อแดงอยู่ และอาจจะส่งผลกระทบต่อความไม่เรียบร้อยด้วยขอให้ทางนายอำเภอทั้ง 2 คน ได้ดำเนินการควบคุมมิให้เกิดปัญหาในเรื่องนี้โดยประสานกำลังตำรวจในพื้นที่ดูแลควบคุม หากมีกำลังทหารเรือ (นาวิกโยธิน) ในพื้นที่ดูแลก็จะเป็นเรื่องที่ดี ทั้งนี้ เป็นนโยบายของกระทรวงมหาดไทย หากปล่อยให้เกิดปัญหาขึ้น อาจจะส่งผลกระทบต่อหน้าที่การงานได้
สำหรับพื้นที่ชายแดนที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ เดินทางมาโดยเฉพาะพื้นที่หลักเขต 73 ที่เป็นหลักเขต สุดท้ายที่กินพรมแดนไทย-กัมพูชาด้าน จ.ตราด ที่ยังมีปัญหาความขัดแย้งกัน โดยเฉพาะพื้นที่ทางทะเลที่ทั้ง 2 ประเทศ ต่างยึดหลักเกณฑ์ไม่ตรงกัน ซึ่งกัมพูชาจะยึดตามแนวแผนที่ฝรั่งเศสนำไว้ ซึ่งจะทำให้ อ.เกาะกูด ครึ่งหนึ่ง อยู่ในเขตกัมพูชา
โดยไทยจะยึดตามหลักภูมิศาสตร์หรือไหล่ทวีป และทั้ง 2 ประเทศได้ประกาศพื้นที่ออกไปจนส่ง ผลให้เกิดพื้นที่ทับซ้อนกันมีพื้นที่มากกว่า 30,000 ตารางกิโลเมตร โดยในพื้นที่มีแหล่งก๊าซธรรมชาติและน้ำมัน จำนวนมากในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งเป็นข่าวที่อดีตนายกรัฐมนตรีไทยจะไปลงทุนด้านพลังงานตามที่เป็นข่าวตลอดมา