บ่ายวันนี้ (13 พ.ค.) กลุ่มชาวบ้านอำเภอพรหมพิรามนับร้อยคนเดินทางมายังศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก เพื่อเรียกร้องให้ชลประทานเขื่อนนเรศวรปล่อยน้ำ จากที่ดำเนินการก่อสร้างวางท่อลอดช้ากว่ากำหนด ส่งผลให้ข้าวกำลังจะแห้งตาย เพราะขาดน้ำหล่อเลี้ยง แม้ว่าฝนจะโปรยลงมาช่วงนี้ แต่ปริมาณน้ำก็ไม่มากพอกับการผันน้ำเข้านา
นางสุนัน พันสีทา อายุ 55 ปี ชาวบ้านทุ่งสาน หมู่ 15 ต.พรหมพิราม อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนทำนาจำนวน 40 ไร่ ข้าวกำลังเติบโตด้วยดี แต่เมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชลประทานเขื่อนนเรศวร บอกว่า จะทำการซ่อมแซมท่อส่งระบายน้ำ ซึ่งตนก็บอกว่า ไม่ควรทำช่วงนี้ เพราะจะต้องปิดคลองส่งน้ำ เพื่อวางท่อ แต่ชลประทานก็ไม่ยอม บอกว่าขอเวลาทำสัก 15 วัน จึงได้ดำเนินการปิดน้ำทั้งระบบ ทำให้นาข้าวหลายพื้นที่ขาดแคลนน้ำ และก็เลยช่วงเวลาก่อสร้างมา 3 วันแล้ว (ปิดวางท่อเมื่อ 23 เมษายน) และล่าสุด การก่อสร้างท่อลอด ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะแล้วเสร็จ ตนและชาวบ้านมะต้อง และทับยายเชียง จึงต้องมาเรียกร้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกช่วยเหลือ
นายวีระยุทธ แช่มจุ้ย กำนันมะต้อง บอกว่า ความเดือดร้อนของชาวบ้านพรหมพิราม ไม่มีน้ำทำนา เพราะชลประทานก่อสร้างท่อลอดล่าช้า กำลังจะส่งผลให้นาข้าวจะแห้งตายกว่าหมื่นไร่ในเขต ต.มะต้อง และทับยายเชียง ซึ่งได้ปรึกษากับนายอำเภอพรหมพิรามแล้ว แต่ไม่สามารถแก้ไขได้ ตนและชาวบ้านจะมาร้องเรียนกับจังหวัด
ล่าสุด หัวหน้าชลประทานเขื่อนนเรศวร ชี้แจงว่า จะถมดินและวางท่อใน 6 วัน และจะปล่อยน้ำให้ในวันที่ 20 พฤษภาคม 2552 ทำให้ชาวบ้านจะพอใจสลายการชุมนุมไป
นายยงยศ เมฆอรุณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า ชลประทานยอมรับว่าการก่อสร้างล่าช้าจริง และขอโทษชาวนาผู้เดือดร้อนทุกคน อย่างไรก็ตามตนได้ให้ชลประทานดำเนินการขุดกลบโครงการโดยเร็วที่สุด ซึ่งทางชลประทานขอเวลา 6 วัน 14-20 พฤษภาคม 2552 จะดำเนินการฝังกลบท่อให้แล้วเสร็จ และจะปล่อยน้ำหล่อเลี้ยงคลองชลประทาน
