xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ว่าฯ กาญจน์ปล่อยปลากินปลิงเจ้าปัญหา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กาญจนบุรี – ผู้ว่าฯ กาญจนบุรี นำทีมปล่อยปลากินปลิงชาวบ้านยังหวั่น แก้ปัญหาไม่ได้ วอนเร่งพิสูจน์ให้แน่ว่าเป็นปลิงอะไร ชี้ผลการพิสูจน์ของนักวิชาการยืนยันว่า ปลิงชนิดนี้ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์

เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (13 พ.ค.) ที่ชุมชนบ้านชุกกุ่ม ซ.ลาว เขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี บริเวณท่าน้ำมีสเตอร์ที เกสท์เฮ้าส์ เลขที่ 12 ซ.ลาว อ.เมือง จ.กาญจนบุรี นายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน ได้ร่วมกันปล่อยพันธุ์ปลาตะเพียนขาว จำนวน 1.5 แสนตัว ลงสู่แม่น้ำแควใหญ่ในบริเวณดังกล่าว ภายหลังจากที่ชาวบ้านหวั่นวิตกในเรื่องของความปลอดภัยของผู้ที่ลงเล่นน้ำ และผู้ใช้น้ำจากแม่น้ำแควใหญ่เพื่อการอุปโภคบริโภค รวมทั้งผู้ใช้น้ำประปาของการประปาส่วนภูมิภาคในเขตจังหวัดกาญจนบุรี เนื่องจากในแม่น้ำดังกล่าวมีปลิงขนาดเล็กอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก และเมื่อคนลงไปเล่นน้ำก็จะเกาะติดตามร่างกาย จึงเกรงว่าปลิงดังกล่าวอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้

จนกระทั่งต่อมา ดร.วชิระ กิติมศักดิ์ นักวิชาการประมงชำนาญการศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดกาญจนบุรี พร้อมด้วย ดร.ธงชัย งามประเสริฐวงศ์ อาจารย์ ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายอรุณชัย พุทธเจริญ ประมงจังหวัดกาญจนบุรี และ นายแพทย์บุญนำ ชัยวิสุทธิ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี ได้ออกมายืนยันว่าปลิงชนิดดังกล่าวไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ พร้อมทั้งได้ศึกษาเพื่อหาวิธีกำจัด และในที่สุดก็พบว่า พันธุ์ปลา 4 ชนิด ประกอบด้วย ปลานิล ปลาไน ปลาตะเพียนขาว และปลายี่สกไทย กินปลิงชนิดนี้เป็นอาหาร ซึ่งจะทำให้สามารถควบคุมประชากรปลิงให้อยู่ในสภาวะที่สมดุลตามระบบนิเวศได้

โดย ดร.วชิระ เปิดเผยว่า จากการที่ทีมเจ้าหน้าที่ ประกอบด้วย เทศบาลเมืองกาญจนบุรี ประมง และทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ลงสำรวจตามลำน้ำทั้งแควใหญ่ ซึ่งเป็นจุดที่พบการแพร่ระบาดของปลิงชนิดนี้ ทีมสำรวจยังได้สำรวจในลำน้ำแควน้อยด้วย ซึ่งพบว่ามีปลิงชนิดนี้อาศัยอยู่หลายจุดในลำน้ำแควใหญ่ ตั้งแต่สะพานจินดา ตำบลแก่งเสี้ยน ตลอดลำน้ำแควใหญ่เรื่อยไปจนถึงแม่น้ำแม่กลอง ช่วงก่อนถึงหาดทรายท่าล้อ ตำบลท่าล้อ อำเภอท่าม่วง แต่จะพบว่าจำนวนประชากรปลิงที่พบจะค่อยๆ ลดลงไปตามลำดับตั้งแต่ต้นแม่น้ำแม่กลอง ส่วนในแม่น้ำแควน้อยผลการสำรวจไม่พบปลิงชนิดนี้แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม คงจะต้องทยอยปล่อยพันธุ์ปลาลงในจุดที่พบปลิงอาศัยอยู่ชุกชุม ซึ่งประมาณการในเบื้องต้นว่าจะต้องใช้พันธุ์ปลานับล้านตัวในการควบคุมปลิง

ด้าน นายเริงศักดิ์ เปิดเผยว่า ผลการพิสูจน์ของนักวิชาการยืนยันว่า ปลิงชนิดนี้ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ และอยู่ในบริเวณจำกัดในเขตชุมชุน หรือบริเวณที่คุณภาพน้ำต่ำ และบริเวณที่มีน้ำนิ่ง บริเวณที่มีสาหร่าย ซึ่งปลิงชนิดนี้เพียงแค่สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้เท่านั้น จึงขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงจุดดังกล่าว แต่ตามแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติของจังหวัดกาญจนบุรีส่วนใหญ่เป็นน้ำไหล และพื้นของท้องน้ำเป็นทราย ก็ไม่ปรากฏปลิงชนิดนี้อาศัยอยู่ อย่างไรก็ตาม ขอให้นักท่องเที่ยวสบายใจในการลงเล่นน้ำ หรือเล่นกีฬาทางน้ำ รวมถึงผู้ที่ใช้น้ำประปาก็เช่นเดียวกัน ซึ่งกระบวนการผลิตน้ำประปามีหลายขั้นตอนทั้งระบบกรองและฆ่าเชื้อด้วยคอรีนก่อนที่จะจ่ายน้ำไปยังบ้านเรือนของประชาชน ดังนั้น ขอให้มั่นใจในความปลอดภัย

ด้าน นางศรีสุรัตน์ อินทร์ธิราช อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7 ถ.ลาว ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ประธานชมชนบ้านชุกกุ่ม และ ประธาน อสม.บ้านชุกกลุ่ม กล่าวว่า หลังจากที่ชาวบ้านบ้านชุกกุ่มต้องหวาดผวากับปลิงชนิดดังกล่าว และมาในวันนี้ ทางท่านผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีได้นำผู้เชี่ยวชาญมาพิสูจน์เรื่องปลิงที่พบ จนมาถึงการแก้ไขในการกำจัดปลิงเหล่านี้ ด้วยการนำลูกปลาตะเพียน จำนวน 1.5 แสนตัวมาปล่อยตามจุดที่พบปลิง เพื่อให้ปลาเหล่านั้นกินปลิง ซึ่งก็ทำให้ชาวบ้านอุ่นใจขึ้นมาเล็กน้อย แต่ถ้าจะให้ดีกว่านี้ หน่วยงานหรือผู้เชี่ยวชาญจะต้องพิสูจน์ออกมาให้แน่ชัดว่าปลิงที่พบนั้นมันเป็นปลิงอะไรกันแน่

นางศรีสุรัตน์กล่าวต่อว่า ถึงแม้ว่าทางประมง จะนำปลาตะเพียนมาปล่อยเป็นจำนวนมากเพื่อให้ปลากินปลิง แต่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ตามริมฝั่งแม่น้ำแควใหญ่ ยังไม่มั่นใจกับการแก้ปัญหาเท่าไหร่นัก เนื่องจากว่าการปล่อยลูกปลาตะเพียนนั้น อาจจะเป็นการปล่อยปลาลงสู่แม่น้ำตามธรรมชาติมากกว่า ซึ่งไม่ได้สร้างความมั่นใจให้แก่ชาวบ้านได้เลย แต่อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านก็จะให้ความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่


กำลังโหลดความคิดเห็น