ศูนย์เชียงใหม่ - ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเชียงใหม่ยังผจญปัญหาไม่เสร็จสิ้น ล่าสุด ททท.ล้มประมูล ระบุหากมีการเปิดประมูลใหม่ คาดโดนรายเดิมฟ้องร้องได้ ด้านเอกชนเผยหากเกิดการฟ้องร้องกันจริงเชื่อว่าศูนย์ประชุมฯ ไม่ได้เกิดแน่
นายวีระยุทธ สุขวัฑฒโก ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทราบข้อมูลว่าโครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งภาคเอกชนจังหวัดเชียงใหม่ร่วมผลักดันมานานนับสิบปี และมีการเปิดประมูลได้ผู้รับเหมาก่อสร้างไปแล้วนั้น ล่าสุด รัฐยกเลิกการประมูลดังกล่าวที่ บริษัท เบญจมาศ จำกัด เป็นผู้ชนะการประมูล ทำให้ทางภาคเอกชนจังหวัดเชียงใหม่มีความเป็นห่วงมาก ทั้งนี้ เนื่องจากเกรงว่าโครงการนี้จะต้องล่าช้าออกไปอีก ทั้งๆ ที่ก็ล่าช้ามานานแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่ผู้รับเหมาที่ชนะการประมูล อาจจะทำการฟ้องร้องต่อศาล ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นแล้วเป็นห่วงว่าการดำเนินโครงการนี้จะยิ่งล่าช้าออกไปอีกหลายปีจนกว่าศาลจะมีคำตัดสินเป็นที่สิ้นสุด
ในส่วนของภาคเอกชนจังหวัดเชียงใหม่นั้น เตรียมที่จะมีการนำประเด็นดังกล่าวนี้เข้าหารือในการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน (กกร.) จังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 15 พ.ค.52 นี้ ด้วย เพื่อหาข้อสรุปและแนวทางร่วมกัน ที่จะเสนอต่อภาครัฐในการผลักดันโครงการนี้ต่อไป
ก่อนหน้านั้นโครงการนี้ได้ดำเนินการที่ใช้งบประมาณไปแล้วทั้งสิ้นจำนวน 286 ล้านบาท ประกอบด้วยใช้งบประมาณในส่วนค่าชดเชยที่ดินให้กับกระทรวงกลาโหม รวมทั้งค่าขนย้ายรื้อถอนอาคารที่ใช้สำหรับฝึกนักศึกษาวิชาทหาร เพื่อไปสร้างยังที่แห่งใหม่ไปแล้วถึง 230 ล้านบาท การออกแบบรายละเอียดการก่อสร้าง และการปรับแบบดำเนินโครงการร่วมกับศูนย์ส่งเสริมการพัฒนาและกระจายสินค้าวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมภาคเหนืออีกกว่า 50 ล้านบาท ทำให้สูญเสียงบในส่วนนี้ไปแล้วเกือบ 300 ล้านบาท ทำให้สภาพที่แท้จริงในขณะนี้ของพื้นที่ก็คือมีสิ่งก่อสร้างที่เป็นอาคารเดิมของศูนย์ฝึกนักศึกษาวิชาทหาร ที่ย้ายไปแล้วปล่อยเป็นอาคารรกร้างว่างเปล่าที่ถูกทุบทิ้งบ้างไม่ได้ทุบทิ้งบ้าง
นายณรงค์ ตนานุวัฒน์ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นผู้ติดตามเรื่องนี้มาตลอดกล่าวว่า เป็นเรื่องที่ทำให้เชียงใหม่สูญเสียโอกาสเป็นอย่างยิ่งหากโครงการศูนย์ประชุมฯถูกชะลอไปอีก เพราะทางภาคเอกชนได้เรียกร้องเรื่องนี้มาเป็นระยะเวลานานกว่า 15 ปีแล้ว จนเหลือเพียงขั้นตอนสุดท้าย คือ งบประมาณการก่อสร้างตามที่ได้มีการประมูลกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วมาเท่านั้นเอง แต่ก็ต้องมีการชะลอออกไปอีกโดยไม่มีกำหนดที่แน่นอนว่าโครงการนี้จะมีการรื้อฟื้นขึ้นมาทำได้อีกหรือไม่ และหากปล่อยระยะเวลานานออกไปอีกเชื่อว่างบประมาณการก่อสร้างต่าง ๆจะเพิ่มขึ้นไปทุกปีปีละไม่ต่ำกว่า 10% เนื่องจากราคาวัสดุก่อสร้างจะต้องเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
นอกจากนี้แล้วโครงการอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับศูนย์ประชุมฯเพราะจะต้องใช้โครงข่ายคมนาคมและสาธารณูปโภคพื้นฐานร่วมกันต่างก็ชะลอไปกันหมดและคาดว่าหากมีการเปิดประมูลใหม่จริงก็ต้องกลับมาปรับแบบแปลนการก่อสร้างใหม่อีกเพื่อให้ได้ราคาที่เหมาะสม
“โครงการนี้คาดว่าคงจะไม่เกิดได้ง่าย ๆ เพราะตราบใดที่มีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลบ่อย ๆ โครงการใหญ่ ๆ แบบนี้ก็คงต้องชะลอไปอีกอย่างแน่นอน และหากมีการฟ้องร้องกันขึ้นมาอีกก็เชื่อว่าคนเชียงใหม่คงหมดหวังกับโครงการนี้ประกอบกับภาคเอกชนในเชียงใหม่โดยเฉพาะภาคโรงแรมขณะนี้ต่างก็สร้างและขยายห้องประชุมสัมมนาเพิ่มขึ้นกันเอง ไม่รอคอยโครงการของรัฐกันแล้ว”
นายวีระยุทธ สุขวัฑฒโก ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทราบข้อมูลว่าโครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งภาคเอกชนจังหวัดเชียงใหม่ร่วมผลักดันมานานนับสิบปี และมีการเปิดประมูลได้ผู้รับเหมาก่อสร้างไปแล้วนั้น ล่าสุด รัฐยกเลิกการประมูลดังกล่าวที่ บริษัท เบญจมาศ จำกัด เป็นผู้ชนะการประมูล ทำให้ทางภาคเอกชนจังหวัดเชียงใหม่มีความเป็นห่วงมาก ทั้งนี้ เนื่องจากเกรงว่าโครงการนี้จะต้องล่าช้าออกไปอีก ทั้งๆ ที่ก็ล่าช้ามานานแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่ผู้รับเหมาที่ชนะการประมูล อาจจะทำการฟ้องร้องต่อศาล ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นแล้วเป็นห่วงว่าการดำเนินโครงการนี้จะยิ่งล่าช้าออกไปอีกหลายปีจนกว่าศาลจะมีคำตัดสินเป็นที่สิ้นสุด
ในส่วนของภาคเอกชนจังหวัดเชียงใหม่นั้น เตรียมที่จะมีการนำประเด็นดังกล่าวนี้เข้าหารือในการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน (กกร.) จังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 15 พ.ค.52 นี้ ด้วย เพื่อหาข้อสรุปและแนวทางร่วมกัน ที่จะเสนอต่อภาครัฐในการผลักดันโครงการนี้ต่อไป
ก่อนหน้านั้นโครงการนี้ได้ดำเนินการที่ใช้งบประมาณไปแล้วทั้งสิ้นจำนวน 286 ล้านบาท ประกอบด้วยใช้งบประมาณในส่วนค่าชดเชยที่ดินให้กับกระทรวงกลาโหม รวมทั้งค่าขนย้ายรื้อถอนอาคารที่ใช้สำหรับฝึกนักศึกษาวิชาทหาร เพื่อไปสร้างยังที่แห่งใหม่ไปแล้วถึง 230 ล้านบาท การออกแบบรายละเอียดการก่อสร้าง และการปรับแบบดำเนินโครงการร่วมกับศูนย์ส่งเสริมการพัฒนาและกระจายสินค้าวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมภาคเหนืออีกกว่า 50 ล้านบาท ทำให้สูญเสียงบในส่วนนี้ไปแล้วเกือบ 300 ล้านบาท ทำให้สภาพที่แท้จริงในขณะนี้ของพื้นที่ก็คือมีสิ่งก่อสร้างที่เป็นอาคารเดิมของศูนย์ฝึกนักศึกษาวิชาทหาร ที่ย้ายไปแล้วปล่อยเป็นอาคารรกร้างว่างเปล่าที่ถูกทุบทิ้งบ้างไม่ได้ทุบทิ้งบ้าง
นายณรงค์ ตนานุวัฒน์ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นผู้ติดตามเรื่องนี้มาตลอดกล่าวว่า เป็นเรื่องที่ทำให้เชียงใหม่สูญเสียโอกาสเป็นอย่างยิ่งหากโครงการศูนย์ประชุมฯถูกชะลอไปอีก เพราะทางภาคเอกชนได้เรียกร้องเรื่องนี้มาเป็นระยะเวลานานกว่า 15 ปีแล้ว จนเหลือเพียงขั้นตอนสุดท้าย คือ งบประมาณการก่อสร้างตามที่ได้มีการประมูลกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วมาเท่านั้นเอง แต่ก็ต้องมีการชะลอออกไปอีกโดยไม่มีกำหนดที่แน่นอนว่าโครงการนี้จะมีการรื้อฟื้นขึ้นมาทำได้อีกหรือไม่ และหากปล่อยระยะเวลานานออกไปอีกเชื่อว่างบประมาณการก่อสร้างต่าง ๆจะเพิ่มขึ้นไปทุกปีปีละไม่ต่ำกว่า 10% เนื่องจากราคาวัสดุก่อสร้างจะต้องเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
นอกจากนี้แล้วโครงการอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับศูนย์ประชุมฯเพราะจะต้องใช้โครงข่ายคมนาคมและสาธารณูปโภคพื้นฐานร่วมกันต่างก็ชะลอไปกันหมดและคาดว่าหากมีการเปิดประมูลใหม่จริงก็ต้องกลับมาปรับแบบแปลนการก่อสร้างใหม่อีกเพื่อให้ได้ราคาที่เหมาะสม
“โครงการนี้คาดว่าคงจะไม่เกิดได้ง่าย ๆ เพราะตราบใดที่มีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลบ่อย ๆ โครงการใหญ่ ๆ แบบนี้ก็คงต้องชะลอไปอีกอย่างแน่นอน และหากมีการฟ้องร้องกันขึ้นมาอีกก็เชื่อว่าคนเชียงใหม่คงหมดหวังกับโครงการนี้ประกอบกับภาคเอกชนในเชียงใหม่โดยเฉพาะภาคโรงแรมขณะนี้ต่างก็สร้างและขยายห้องประชุมสัมมนาเพิ่มขึ้นกันเอง ไม่รอคอยโครงการของรัฐกันแล้ว”