เชียงราย – พระบารมีล้นเกล้า ข้าราชการ-ประชาชนทั่วไป ร่วมอัญเชิญรอยพระบาทในหลวงล้นหลาม รำลึกเหตุการณ์การต่อสู้กับ ผกค.ในอดีต เมื่อคราวพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมพระบรมวงศานุวงศ์เสด็จเยี่ยมเหล่าทหาร ราษฎรบนดอยพญาพิภักดิ์ (เขต อ.เทิง-ขุนตาล จ.เชียงราย ในปัจจุบัน) ทำให้ ผกค.กลับใจติดธงชาติบนฐานปฏิบัติการ ผกค.ยุติการเคลื่อนไหวในที่สุด
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า พล.ท.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน แม่ทัพภาคที่ 3 ได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีอัญเชิญรอยพระบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากบริเวณด้านหน้าลานผู้กล้า อนุสาวรีย์ผู้เสียสละ ร.17 พัน 3 ในพระองค์สมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนีขึ้นไปประดิษฐานบนดอยโหยดภาย ในค่ายเม็งรายมหาราช เมื่อวานนี้ (5 พ.ค.)
ก่อนการอัญเชิญทางฝ่ายทหารร่วมกับทางฝ่ายปกครองทั้ง 18 อำเภอของ จ.เชียงราย ได้อัญเชิญรอยพระบาทแห่จากในค่ายเม็งรายมหาราชไปตามถนนสายต่างๆ ในเขตเทศบาลนครเชียงราย อ.เมือง เพื่อให้ประชาชนชาวเชียงรายได้ชื่นชมพระบารมี จากนั้นจึงอัญเชิญขึ้นไปบนดอยโหยด ซึ่งมีทิวทัศน์ที่สวยงามสามารถมองเห็นตัวเมืองเชียงรายได้อย่างชัดเจน โดยมีขบวนนำจากทหารและเหล่าทหารหาญตั้งแถวทำความเคารพตลอดแนว
หลังจากการทำพิธีทางศาสนาโดยพระสงฆ์แล้ว พล.ท.ทนงศักดิ์ ได้นำคณะข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในจังหวัด เช่น นายพินิจ หาญพาณิชย์ รองผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย พล.ต.ต.ทรงธรรม อัลภาชน์ ผบก.ภ.เชียงราย รวมทั้งอดีตนายทหารที่เคยปฏิบัติหน้าที่ที่ค่ายเม็งรายมหาราช หัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดร่วมกันอัญเชิญรอยพระบาทเข้าไปประดิษฐานภายในศาลารอยพระบาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชมหาราช จากนั้น พล.ท.ทนงศักดิ์ ได้ถวายพานพุ่มดอกไม้สดสักการะรอยพระบาท ก่อนจะนำกล่าวคำสดุดีรอยพระบาท
สำหรับพิธีครั้งนี้พบว่า นอกจากฝ่ายทหาร ฝ่ายปกครองและตำรวจแล้ว ยังมีข้าราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและประชาชนที่ขึ้นไปร่วมอัญเชิญและสักการะรอยพระบาทบนดอยโหยดอย่างเนืองแน่น อันแสดงถึงพระบารมีที่แผ่ไพศาลในพื้นที่ชายแดนแห่งนี้มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
รวมทั้งในช่วงก่อนและหลังพิธีพบว่ามีแสงแดดจ้าจนทำให้อากาศร้อนอบอ้าวไปทั่ว แต่เมื่อมีการเคลื่อนขบวนแห่ออกจากค่ายเม็งรายมหาราชเพื่อให้ประชาชนได้ชื่นชมพระบารมีไปจนถึงทำพิธีอัญเชิญแล้วเสร็จ ปรากฏว่าท้องฟ้ากลับมืดครึ้ม อากาศเย็นสบายอย่างน่าอัศจรรย์ และหลังพิธีเสร็จ แดดก็ออกมาเจิดจ้าเหมือนเดิม
นายพินิจกล่าวว่า รอยพระบาทดังกล่าวมีความเป็นมาตั้งแต่ปี 2525 ในช่วงที่ประเทศไทยกำลังแก้ไขปัญหาเรื่องการเคลื่อนไหวของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (ผกค.) ซึ่งเคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ชายแดนบนดอยพญาพิภักดิ์ตั้งอยู่ในเขต อ.ขุนตาล และ อ.เทิง จ.เชียงราย ในปัจจุบัน
กระทั่งเมื่อวันที่ 27 ก.พ.2525 เป็นวันประวัติศาสตร์เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมเยียนการปฏิบัติหน้าที่ของทหารและพสกนิกรในพื้นที่ ด้วยพระบารมีจึงทำให้มีผู้กลับมาร่วมพัฒนาชาติไทยเป็นจำนวนมากและมีการติดธงชาติไทยบนฐาน ผกค.ทุกฐานอันเป็นการสิ้นสุดการเคลื่อนไหวของ ผกค.ในพื้นที่ดังกล่าวอย่างสิ้นเชิง
ครั้งนั้น พ.ท.วิโรจน์ ทองมิตร ผู้บังคับกองพัน ร.17 พัน 3 ที่ปฏิบัติหน้าที่ในขณะนั้นได้ขอให้ทรงประทับรอยพระบาทไว้เป็นที่เคารพสักการะ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชานุญาต และทรงประทับรอยพระบาทบนปูนปลาสเตอร์ที่ผสมเตรียมเอาไว้ ต่อมาจึงมีการอัญเชิญรอยพระบาทดังกล่าวไปประดิษฐานภายในค่ายเม็งรายมหาราช
กระทั่งต่อมากองทัพบกได้สร้างศาลารอยพระบาทบนดอยโหยด เมื่อเดือน มิ.ย.2547 และแล้วเสร็จเดือน ก.ย.2551 จึงมีการอัญเชิญรอยพระบาทขึ้นไปประดิษฐานเพื่อให้พสกนิกรทั่วไปได้ร่วมสักการะและรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ