เชียงราย – พม่าจับคนไทยพร้อมอาร์ก้า 2 กระบอก-เครื่องกระสุนอีกเพียบ เผยลักลอบขนกลับไทย หลังขับรถส่งนักเรียนข้ามฝั่ง ขณะที่ จนท.ไทย ประสานขอข้อมูลขยายผลทางคดีแล้ว
รายงานข่าวจาก อ.แม่สาย จ.เชียงราย แจ้งว่า เมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ (4 พ.ค.) เจ้าหน้าที่ด่านพรมแดน อ.แม่สาย ได้รับแจ้งจากทางการ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ว่าเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรท่าขี้เหล็กได้จับกุมตัวคนไทย 1 คน ที่ขับรถยนต์ข้ามไปยังฝั่งท่าขี้เหล็ก แต่ขากลับเจ้าหน้าที่พม่าได้ตรวจพบอาวุธสงครามผิดกฎหมาย ซึ่งไม่อนุญาตให้บุคคลทั่วไปถือครองได้ จึงได้อายัดตัวไว้ทำการสอบสวน เบื้องต้นยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลว่ามีการลักลอบขนอาวุธไปด้วยสาเหตุใด
ขณะที่ทางหน่วยประสานงานชายแดนไทย-พม่า ซึ่งเป็นหน่วยงานสังกัดคณะกรรมการประสานงานชายแดนไทย-พม่า ระดับท้องถิ่นหรือทีบีซี ก็คอยติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า สำหรับคนไทยที่ถูกทางการพม่าจับกุมตัวเอาไว้ดังกล่าวเป็นชายมีชื่อว่านายสุรชัย ชายคำ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 382 หมู่ 1 ต.โป่งผา อ.แม่สาย มีอาชีพเป็นคนขับรถตู้รับส่งนักเรียนไปกลับยังโรงเรียนอนุบาลนิมิตรใหม่ อ.แม่สาย ปกติจะขับขี่รถตู้รับส่งนักเรียนมาจากฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก เพื่อนำมาเรียนหนังสือในฝั่ง อ.แม่สาย เป็นประจำ
กรณีที่ถูกจับกุมครั้งนี้มีรายงานจากทางการท้องถิ่นพม่าว่า เนื่องจากขับขี่รถตู้สีขาวหมายเลขทะเบียน นข 446 เชียงราย ซึ่งเป็นของนายสุรชัย เองที่ใช้สำหรับรับส่งนักเรียนข้าไปมาระหว่างฝั่งไทยและพม่าเป็นประจำ เพราะนักเรียนอนุบาลที่รับส่งจะเป็นชาวพม่ ข้ามเรียนหนังสือในฝั่งไทย และช่วงเกิดเหตุนายสุรชัย ได้ขับรถตู้พร้อมนักเรียนข้ามสะพานลำน้ำสายจะไปยังท่าขี้เหล็ก ตามปกติ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรของพม่าตรวจค้นก็พบว่าภายในรถพบอาวุธปืนสงครามและเครื่องกระสุนภายในรถคันดังกล่าว
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่าทางการท้องถิ่นของพม่าแจ้งว่า พบอาวุธสงครามเป็นปืนอาก้าจำนวน 1 กระบอก อาวุธปืน .38 จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืน .22 จำนวน 1 กระบอก รวมทั้งแม็กกาซีนของอาวุธปืนเอชเค.-เครื่องกระสุนอีกจำนวนหนึ่ง แต่ยังไม่ชัดเจนว่ามีแม็กกาซีนและเครื่องกระสุนจำนวนเท่าใด
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ฝั่งไทยพยายามประสานงานกับทางการท้องถิ่นพม่าเพื่อสอบถามข้อมูลรายละเอียดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะคำให้การของนายสุรชัย ว่า ได้กระทำผิดจริงหรือไม่ และหากเป็นจริงอาวุธพร้อมเครื่องกระสุนดังกล่าวทั้งหมดมาจากไหน
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ฝั่งไทยได้รับข้อมูลบางอย่างจากทางการท้องถิ่นพม่าแล้ว และกำลังขยายผลไปตรวจสอบตามที่อยู่ของนายสุรชัย เพื่อหาข้อมูลอีกทางหนึ่งด้วย