อุดรธานี - ชาวอุดรธานีที่เห็นด้วยกับแนวทางของเครือข่ายหยุดทำร้ายประเทศไทย หยุดใช้ความรุนแรง ร่วมใจประกาศปฏิญญาประชาชน “หยุดทำร้ายประเทศไทย” ด้าน “ถ่อยขวัญชัย” โผล่ นำคนเสื้อแดง 500 เข้าร่วม
วันนี้ (4 พ.ค.) ที่ ลานหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี ชาวอุดรธานีกว่า 3,000 คน ได้มารวมตัวกันประกาศปฏิญญาประชาชน หยุดทำร้ายประเทศไทย โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี นายอำนาจ ผการัตน์ นำกล่าวคำปฏิญญาณ
คำปฏิญานมีใจความว่า เราประชาชนซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของชาติมีความเห็นพ้องต้องกันว่า ความขัดแย้งแบ่งฝ่าย แบ่งสีที่เกิดขึ้นอันนำไปสู่ความรุนแรงที่ผ่านมา ได้ก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงแก่ภาพลักษณ์ของชาติในทางระหว่างประเทศ ทั้งยังเป็นเหตุสำคัญที่ซ้ำเติมเศรษฐกิจซึ่งมีปัญหาจากเศรษฐกิจโลกอยู่แล้วให้ทรุดหนักลงไปอีก นอกจากนั้น ความขัดแย้งรุนแรงทางการเมืองนี้ก็ยังสร้างรอยร้าวทางสังคมลึกลงไปยังภูมิภาคต่างๆ จนถึงในครอบครัว
เราเห็นว่า หากปล่อยให้การณ์ยังคงเป็นเช่นนี้ สังคมไทยก็จะแตกเป็นเสี่ยง ทั้งยังอาจเกิดสงครามกลางเมืองที่คนไทยลงมือเข่นฆ่าคนไทยด้วยกันเอง ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของราชอาณาจักรและชาติไทยก็จะสูญสลาย นำความพ่ายแพ้ สูญเสียยับเยินมาสู่คนไทยทุกคนทั้งชาติ
เราทั้งหลายจึงไม่อาจนิ่งดูดาย ปล่อยให้สยามรัฐนาวาที่รุ่งเรืองมาได้นับพันปีต้องมาล่มสลายลงในชั่วอายุของเรา เราทั้งหลายจึงร่วมกันประกาศปฏิญญาประชาชน “ไม่ทำร้ายประเทศไทย ไม่ใช้ความรุนแรง” ดังนี้
ข้อ 1.เราขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหยุดทำร้ายประเทศไทย หยุดใช้ความรุนแรงทั้งทางกาย ทางวาจา ความเห็นแตกต่างกันทางการเมืองเป็นเรื่องปกติในระบอบประชาธิปไตย แต่ต้องไม่ใช้ความรุนแรง
ข้อ 2.เราขอยืนยันว่า การชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธตามรัฐธรรมนูญเป็นสิ่งที่กระทำได้ เราขอวิงวอนให้ทุกฝ่ายเคารพเสรีภาพของผู้อื่นและกฎหมาย ไม่อ้างเสรีภาพในระบอบประชาธิปไตยของตน มาละเมิดเสรีภาพของผู้อื่น และไม่เคารพกฎหมายของบ้านเมือง
ข้อ 3.เราขอเรียกร้องให้คู่กรณีที่ขัดแย้งกันหาทางออกให้ความขัดแย้งนี้โดยสันติวิธี เราขอให้ผู้นำทางการเมืองทั้งในอดีตและปัจจุบัน พรรคการเมือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา และบุคคลทั้งหลายที่กำลังทำตนเป็นผู้ปลุกปั่นประชาชนให้เกิดความเกลียดชังซึ่งกันและกัน เพื่อประโยชน์ทางการเมืองของตนและกลุ่ม หยุดการกระทำนอกวิถีประชาธิปไตยที่จะนำชาติไทยไปสู่หายนะ
ข้อ 4.เราขอเรียกร้องให้ยุติการจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ และยุติการใช้สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นข้ออ้างเพื่อประโยชน์ทางการเมืองส่วนตนหรือส่วนกลุ่ม เพราะพระมหากษัตริย์ ทรงอยู่เหนือความขัดแย้งทางการเมืองทั้งปวง
ข้อ 5.เราขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ของรัฐทำหน้าที่ของตนเองตามกฎหมาย ไม่นิ่งดูดาย ไม่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ของตน และการบังคับใช้กฎหมายต้องเป็นไปด้วยความเสมอภาค ไม่เลือกปฏิบัติ มีมาตรฐานเดียวในการใช้กฎหมายกับทุกฝ่าย ทุกผู้ ให้สมกับที่เจ้าหน้าที่เหล่านั้นได้เงินเดือนเลี้ยงชีพจากภาษีอากรของประชาชนทุกคนในประเทศนี้
ข้อ 6.เราขอวิงวอนให้สื่อมวลชนรักษาจรรยาบรรณ โดยไม่ใช้สื่อซึ่งเป็นพาหะนำข่าวสารที่ถูกต้องไปยังประชาชน ไปเพื่อประโยชน์ทางการเมืองหรือเศรษฐกิจของตนเองหรือของกลุ่ม และละเว้นการแสดงความคิดเห็นในลักษณะที่สร้างความเกลียดชังให้เกิดขึ้นในหมู่ประชาชนด้วยกันเอง
ข้อ 7.เราขอเรียกร้องให้ผู้สนับสนุนทางการเงินหรือประโยชน์อื่น ยุติการปลุกปั่นประชาชนให้เกิดความเกลียดชัง แบ่งฝ่าย ยุติการให้การสนับสนุนทางการเงินหรือประโยชน์อื่นแก่ผู้ปลุกปั่นประชาชนให้เกิดการแบ่งขั้ว
ข้อ 8.เราขอเรียกร้องให้รัฐบาลทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา โปร่งใสในวิถีทางรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ไม่เลือกปฏิบัติ มีมาตรฐานเดียวในการรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของนิติธรรม และต้องเปิดโอกาสให้สังคมสามารถตรวจสอบการ กระทำทุกอย่างที่ถูกกล่าวหาหรือถูกตั้งข้อสงสัยได้อย่างเต็มที่
ข้อ 9.เราขอให้ประชาชนทุกคน ทุกผู้ซึ่งมีความรักชาติที่เห็นด้วยกับแนวทางนี้ เผยแพร่ปฏิญญาฉบับนี้ไปยังเครือข่ายและผู้ที่รู้จักมักคุ้นและร่วมกันลงชื่อในปฏิญญาประชาชนฉบับนี้ในบัญชีแนบท้าย เพื่อนำปฏิญญาประชาชน และรายชื่อผู้สนับสนุนส่งไปยังบุคคลทุกฝ่ายที่กำลังขัดแย้งกัน
เราเชื่อว่า เจตนารมณ์อันแน่วแน่ของประชาชนส่วนใหญ่ในสังคม ที่ไม่นิ่งดูดายเท่านั้นที่จะระงับยับยั้งเภทภัย และหายนะของบ้านเมืองที่กำลังคืบคลานเข้ามาได้ ในทางตรงข้าม ถ้าประชาชนส่วนใหญ่ในสังคมยังเพิกเฉย เมื่อหายนะและความรุนแรงที่นำมาซึ่งการหลั่งเลือดและน้ำตาเกิดขึ้น ผู้ที่รับผลร้ายก็คือประชาชนทั้งประเทศ ไม่เว้นแม้แต่ผู้เดียว
หลังจากได้อ่าน ประกาศปฏิญญาประชาชน เสร็จแล้วชาวอุดรฯ ที่เข้าร่วมพิธีก็ได้ร่วมกันร้องเพลงชาติพร้อมกัน และเป็นที่หน้าสังเกตว่าในพิธีดังกล่าว นายขวัญชัย สาราคำ แกนนำชมรมคนรักอุดร ได้นำคนเสื้อแดงจำนวนกว่า 500 คน มาร่วมพิธีในครั้งนี้ด้วย