ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ตร.โคราชรวบขบวนการขนกัญชาข้ามชาติรายใหญ่ ได้ผู้ต้องหา 3 คนพร้อมของกลางเป็นกัญชาแห้งอัดแท่งอื้อร่วม 500 กิโลกรัมมูลค่าเกือบ 5 ล้าน สารภาพรับจากชายแดนอัดแน่นเต็มรถกระบะไปส่งให้ลูกค้าที่ภาคใต้ ด้าน ผบช.ภาค 3 สั่งตร. 8 จว.อีสานล่างคุมเข้มตั้งจุดสกัดกั้นยาเสพติดมากขึ้น โดยเฉพาะจังหวัดติดแนวชายแดน พร้อมเกาะติดแก๊งโจรกรรมรถข้ามชาติ เผยที่ผ่านมาจับกุมได้มากนำรถกลับมาหลายสิบคันแล้ว
วันนี้ (2 พ.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น.ที่หน้ากองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ท.กฤษฏา พันธุ์คงชื่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) พร้อมด้วย พล.ต.ต.เดชาวัต รามสมภพ รองผบช.ภ. 3 และ พ.ต.ท.กัมปนาท ฐานตุจิรางค์กูล สารวัตรใหญ่ สภ.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมขบวนการลักลอบขนยาเสพติดเข้าประเทศรายใหญ่ ได้ผู้ต้องหา 3 ราย คือ นายนภดล หรือ อ้วน ชัยภักดี อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40 ถ.ช่างกล ต.ท่าข้าม อ.พุนพิน จ.สุราษฏร์ธานี, นายพงษ์สิทธิ์ หรือ พงษ์ เสนจันทร์ฒิไชย อายุ 31 ปี เลขที่ 240 หมู่ 9 ต.นาหัวบ่อ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม และ นายวินัย หรือนัย พิลาทอง อายุ 20 ปี บ้านเลขที่ 18 หมู่ 4 ต.นามะเขือ อ.ปลาปราบ จ.นครพนม
พร้อมของกลาง ประกอบด้วย กัญชาแห้งอัดแท่ง 15 กระสอบ จำนวน 474 แท่งน้ำหนักประมาณ 450 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่ากว่า 4,500,000 บาท , โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง และ รถยนต์กระบะ ยี่ห้อเชฟโลเลต ป้ายแดง ก 1180 สุราษฏร์ธานี จำนวน 1 คัน และ เจ้าหน้าที่ตามยึดทรัพย์ของนายพงษ์สิทธิ์ มาได้อีก 1 คัน คือ รถยนต์กระบะ ยี่ห้องมิตซูบิชิ สีดำ ทะเบียน บต 2352 หนองคาย จำนวน 1 คัน และ ยาบ้า 140 เม็ด
ทั้งนี้สืบเนื่องจาก ช่วงบ่ายเมื่อวานนี้ (1 พ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จอหอ ได้ตั้งจุดตรวจสกัดกั้นยาเสพติด ที่บริเวณจุดกลับรถบ้านหนองออก ถ.มิตรภาพ (บายพาส) ต.จอหอ .เมือง จ.นครราชสีมา พบรถยนต์ยี่ห้อเชฟโรเลต ทะเบียนป้ายแดง จ.สุราษฎร์ธานี บรรทุกดินปุ๋ยมาเต็มคันรถ วิ่งเข้ามาใกล้จุดตรวจ คนขับแสดงพิรุธทำทีจะกลับรถ เจ้าหน้าที่จึงส่งสัญญาณให้หยุดรถชิดขอบทางด้านซ้ายแล้วขอเข้าตรวจค้น
โดยได้สอบถามนายนภดลหรืออ้วน คนขับซึ่งนั่งมาเพียงคนเดียว ทราบว่า ขนดินปุ๋ยเดินทางมาจาก จ.สกลนคร และจะนำไปส่งที่กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจค้นตัว นายนภดล พบยาบ้าจำนวน 140 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋ากางเกง และ ตรวจค้นด้านท้ายกระบะ พบกัญชาแห้งอัดแท่งจำนวน 15 กระสอบ น้ำหนัก 450 กิโลกรัม บรรจุอยู่ในกระสอบปุ๋ยสีขาว ด้านบนทับไว้ด้วยถุงดินปุ๋ยเพื่ออำพรางตาเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จากการสอบสวน นายนพภดล ทราบว่า รับจ้างขนกัญชาในราคาเที่ยวละ 15,000 บาท ทำมาแล้ว 2 ครั้ง โดยมีเป้าหมายไปส่งที่ภาคใต้ และยังมีผู้ร่วมขบวนการอีก 2 คนคือ นายพงษ์สิทธิ์ และ นายวินัย มีหน้าที่ขับรถนำหน้าเพื่อตรวจเส้นทาง ว่ามีด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกอุบายให้นายนภดล โทรศัพท์หาผู้ต้องหาทั้ง 2 คน โดยให้แจ้งว่ารถเสียอยู่ที่บริเวณหน้าวัดหลวงพ่อโต ถ.มิตรภาพ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา จากนั้นผู้ต้องหาทั้ง 2 คนเดินทางมาพบจึงถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้
เจ้าหน้าที่แจ้งตั้งข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” ก่อนควบคุมตัวเพื่อสอบสวนขยายผลหาเพื่อนร่วมแก๊งมาดำเนินคดีตามกฎหมายเพิ่มเติมต่อไป
พล.ต.ท.กฤษฏา พันธุ์คงชื่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 เปิดเผยว่า ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่รับผิดชอบ 8 จังหวัดอีสานตอนล่าง เพิ่มความเข้มงวดในการตั้งจุดตรวจสกัดการลักลอบขนยาเสพติด โดยเฉพาะจังหวัดตามแนวชายแดนต้องตั้งด่านสกัดถี่มากขึ้น ที่ผ่านมาสามารถจับกุมได้อย่างต่อเนื่อง ยาเสพติดส่วนใหญ่ทั้งยาบ้า และกัญชา นำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน และมีเป้าหมายที่ กรุงเทพฯ และภาคใต้
ขณะเดียวกันได้สั่งการให้ติดตามขบวนการโจรกรรมรถข้ามชาติ โดยเฉพาะสภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำประกอบกับช่วงฤดูแล้ง แก๊งนี้จะตระเวนขโมยรถส่งไปขายยังประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น ที่ผ่านมาสามารถจับกุมผู้ต้องหา และนำรถกลับมาแล้วหลายสิบคัน