เชียงราย – ราคาหมูไม่ตก กลุ่มผู้ผลิตเหล้าพื้นบ้านได้ที หลังนำส่าเหล้ามาทำอาหารหมู ช่วยลดต้นทุนการเลี้ยง เพิ่มสัดส่วนกำไรได้อีกทาง
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า วันนี้ (30 เม.ย.) สภาพตลาดต่างๆ ของผู้จำหน่ายเสื้อสุกรหรือหมูใน จ.เชียงราย กลับเข้าสู่ภาวะปกติหลังจากก่อนหน้านี้มีกระแสเรื่องไข้หวัดหมูและทำให้ประชาชนแตกตื่นเกรงว่าจะติดจากหมูสู่คนคล้ายกับไข้หวัดนกที่ติดจากสัตว์ปีกสู่คน แต่เมื่อมีการประชาสัมพันธ์ทางสื่อต่างๆ มากขึ้น ประกอบกับเปลี่ยนจากชื่อไข้หวัดหมูเป็นไข้หวัดเม็กซิโกทำให้ประชาชนผู้บริโภคมีความเข้าใจมากขึ้น
ด้าน นายชวลิต หอประเสริฐวงศ์ ที่ปรึกษาวิสาหกิจชุมชุนเหล้าพื้นบ้านแห่งประเทศไทย จ.เชียงราย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดเม็กซิโกที่ผ่านมานั้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อผู้เลี้ยงหมูมากนัก เพราะตามปกติผู้ผลิตและจำหน่ายสุรากลั่นพื้นบ้านก็คือผู้ที่ประกอบอาชีพเลี้ยงหมูด้วยนั่นเอง ดังนั้นราคาเนื้อหมูจึงยังคงสูงซึ่งเป็นผลดีต่อการสร้างงานและรายได้ให้กับผู้ผลิตและจำหน่ายสุราควบคู่กับการเลี้ยงหมูอย่างยิ่ง ทั้งนี้ จากการสำรวจตลาดพบว่าปัจจุบันราคาหมูเป็นที่ต้นทางจำหน่ายกิโลกรัมละ 50-62 บาท ซึ่งทำให้ผู้เลี้ยงมีกำไรดี
นายชวลิตกล่าวอีกว่า ผู้ที่ผลิตและจำหน่ายสุรากลั่นพื้นบ้านจะได้เปรียบกว่าผู้เลี้ยงหมูทั่วไป เพราะไม่ต้องใช้ต้นทุนค่าอาหารที่สูงเนื่องจากตามปกติผู้เลี้ยงหมูทั่วไปมักจะใช้อาหารสัตว์ที่ทำจากข้าวโพด ปลาป่น ฯลฯ การเลี้ยงดูช่วงที่มีอากาศร้อนยังทำให้การดูแลมีความยุ่งยาก แต่สำหรับผู้ที่ผลิตและจำหน่ายสุรากลั่นแล้วจะมีการนำเอาปลายข้าวหรือข้าวสารไปหมักเพื่อทำเป็นแป้งสุรา จากนั้นเมื่อกลั่นเสร็จแล้วกากของข้าวเหล่านี้ซึ่งเรียกว่าส่าเหล้าจะยังคงเหลืออยู่ ซึ่งจากการทดลองพบว่าสามารถนำไปใช้เป็นอาหารให้หมูได้ดี สามารถทำให้หมูเจริญเติบโตได้เร็วและมีเนื้อแดงโดยไม่ต้องใช้สารเร่งแต่อย่างใด
“สาเหตุเพราะยีสต์จากส่าเหล้าช่วยทำให้เนื้อหมูแดงโดยธรรมชาติ ที่ผ่านมาเครือข่ายเหล้าฯ ที่เลี้ยงหมูจึงได้เปรียบและมีรายได้ชดเชยจากการขายเหล้าได้อย่างมาก” นายชวลิต กล่าว