พัทลุง - บรรยากาศการซื้อขายเนื้อหมูชำแหละในตลาดสดเทศบาลเมืองพัทลุงซบเซา ขณะที่ผู้บริโภคหันไปซื้อเนื้อไก่แทนเพราะราคาถูกกว่า แต่ผู้บริโภคยังไม่วิตกกับเรื่องโรคไข้หวัดหมู
จากสถานการณ์ราคาเนื้อหมูได้ปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดราคาเนื้อแดงอยู่ที่กิโลกรัมละ120 บาท ได้ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค และพ่อค้าแม่ค้าอย่างหนัก ส่วนบรรยากาศการซื้อขายเนื้อหมูในตลาดสดเทศบาลเมืองพัทลุงซบเซา เนื่องจากผู้บริโภคต่างหันมาใช้เนื้อไก่แทน
นางเสาวนีย์ โรจนรัตน์ อายุ 38 ปี แม่ค้าเขียงหมูในตลาดสดเทศบาลเมืองพัทลุง กล่าวว่า ตั้งแต่ตนประกอบอาชีพค้าขายหมูมาประมาณกว่า 10 ปี ซึ่งปีนี้ราคาหมูปรับเพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์ จากหมูเป็นราคาหน้าฟาร์มอยู่ที่ 60 บาทเป็น 67 บาท ส่งผลกระทบโดยตรงไม่ว่าจะเป็นพ่อค้าแม่ค้า เนื่องจากราคาแพงขายไม่ได้ และผู้บริโภคเองก็รับไม่ได้เช่นเดียวกัน เลยหันมาบริโภคโปรตีนที่มีราคาต่ำกว่าคือเนื้อไก่แทน
นางเสาวนีย์ยังกล่าวอีกว่า ปกติ ณ วันนี้ราคาหมูเนื้อแดงควรจะอยู่ที่ 130 บาท แต่ยังไม่สามารถปรับเพิ่มขึ้นได้ เพราะเคยโดนผู้บริโภคโวยวายมาแล้ว แต่ปัญหาจริงๆ แล้วอยู่ที่ห้างยักษ์ใหญ่ในพื้นที่ยังไม่ปรับคาราเพิ่มขึ้น เขาอยู่ได้เพราะผูกขาดสินค้าไว้ในคราวละจำนวนมาก จึงได้เปรียบในการค้า
ด้าน นางพรทิพย์ เกื้อสุข อายุ 48 ปี แม่ค้าเขียงไก่ในตลาดสดเทศบาลเมืองพัทลุง กล่าวว่า ปีนี้เป็นโอกาสทองของพ่อค้าแม่ค้าไก่เนื้อ เนื่องจากราคาเนื้อหมูแพงประชาชนเลยหันมาบริโภคเนื้อไก่แทน ปกติตนขายอยู่ต่อวันประมาณ 100 ตัว แต่วันนี้ต้องขายเพิ่มจากเดิมอีกประมาณ 50 ตัวต่อวัน ในราคากิโลกรัมละ 65 บาท
ด้านนายเกรียงศักดิ์ เสรีรักษ์ยืนยง เลขาสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคใต้ กล่าวว่า จากกรณีข่าวที่มีการระบาดของโรคไข้หวัดหมูในเม็กซิโกนั้น สำหรับในประเทศไทยและจังหวัดพัทลุงขณะนี้ยังไกลตัวอยู่ แต่ทางด้านหน่วยงานที่เกี่ยวก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ สำหรับตนนั้นตอนนี้อยู่ที่ประเทศเวียดนาม เนื่องจากเข้าไปศึกษาข้อมูลต่างๆ ซึ่งจะนำมาเข้าร่วมประชุมที่ประเทศไทย ในระหว่างวันที่ 30 เมษายน ที่จะถึงนี้ เพื่อร่วมกันหาแนวทางป้องกันและแก้ไขต่อไป
อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคในจังหวัดพัทลุงยังไม่มีการวิตกเรื่องโรคไข้หวัดหมูที่กำลังระบาดอยู่ในต่างประเทศขณะนี้ เพียงแต่หันไปบริโภคเนื้อไก่แทนเพราะราคาหมูพุ่งสูงมาก
จากสถานการณ์ราคาเนื้อหมูได้ปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดราคาเนื้อแดงอยู่ที่กิโลกรัมละ120 บาท ได้ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค และพ่อค้าแม่ค้าอย่างหนัก ส่วนบรรยากาศการซื้อขายเนื้อหมูในตลาดสดเทศบาลเมืองพัทลุงซบเซา เนื่องจากผู้บริโภคต่างหันมาใช้เนื้อไก่แทน
นางเสาวนีย์ โรจนรัตน์ อายุ 38 ปี แม่ค้าเขียงหมูในตลาดสดเทศบาลเมืองพัทลุง กล่าวว่า ตั้งแต่ตนประกอบอาชีพค้าขายหมูมาประมาณกว่า 10 ปี ซึ่งปีนี้ราคาหมูปรับเพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์ จากหมูเป็นราคาหน้าฟาร์มอยู่ที่ 60 บาทเป็น 67 บาท ส่งผลกระทบโดยตรงไม่ว่าจะเป็นพ่อค้าแม่ค้า เนื่องจากราคาแพงขายไม่ได้ และผู้บริโภคเองก็รับไม่ได้เช่นเดียวกัน เลยหันมาบริโภคโปรตีนที่มีราคาต่ำกว่าคือเนื้อไก่แทน
นางเสาวนีย์ยังกล่าวอีกว่า ปกติ ณ วันนี้ราคาหมูเนื้อแดงควรจะอยู่ที่ 130 บาท แต่ยังไม่สามารถปรับเพิ่มขึ้นได้ เพราะเคยโดนผู้บริโภคโวยวายมาแล้ว แต่ปัญหาจริงๆ แล้วอยู่ที่ห้างยักษ์ใหญ่ในพื้นที่ยังไม่ปรับคาราเพิ่มขึ้น เขาอยู่ได้เพราะผูกขาดสินค้าไว้ในคราวละจำนวนมาก จึงได้เปรียบในการค้า
ด้าน นางพรทิพย์ เกื้อสุข อายุ 48 ปี แม่ค้าเขียงไก่ในตลาดสดเทศบาลเมืองพัทลุง กล่าวว่า ปีนี้เป็นโอกาสทองของพ่อค้าแม่ค้าไก่เนื้อ เนื่องจากราคาเนื้อหมูแพงประชาชนเลยหันมาบริโภคเนื้อไก่แทน ปกติตนขายอยู่ต่อวันประมาณ 100 ตัว แต่วันนี้ต้องขายเพิ่มจากเดิมอีกประมาณ 50 ตัวต่อวัน ในราคากิโลกรัมละ 65 บาท
ด้านนายเกรียงศักดิ์ เสรีรักษ์ยืนยง เลขาสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคใต้ กล่าวว่า จากกรณีข่าวที่มีการระบาดของโรคไข้หวัดหมูในเม็กซิโกนั้น สำหรับในประเทศไทยและจังหวัดพัทลุงขณะนี้ยังไกลตัวอยู่ แต่ทางด้านหน่วยงานที่เกี่ยวก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ สำหรับตนนั้นตอนนี้อยู่ที่ประเทศเวียดนาม เนื่องจากเข้าไปศึกษาข้อมูลต่างๆ ซึ่งจะนำมาเข้าร่วมประชุมที่ประเทศไทย ในระหว่างวันที่ 30 เมษายน ที่จะถึงนี้ เพื่อร่วมกันหาแนวทางป้องกันและแก้ไขต่อไป
อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคในจังหวัดพัทลุงยังไม่มีการวิตกเรื่องโรคไข้หวัดหมูที่กำลังระบาดอยู่ในต่างประเทศขณะนี้ เพียงแต่หันไปบริโภคเนื้อไก่แทนเพราะราคาหมูพุ่งสูงมาก
