สระแก้ว - จับไคโยตี้ซ่อนยาไอซ์ใต้นม 248.78 กรัม พร้อมกัน 2 ราย รถเก๋ง 1 คัน สมุดเงินฝากธนาคาร 2 เล่มเป็นเงินร่วมล้านบาท ขณะกำลังลักลอบนำเข้าฝั่งไทย
วันนี้ (29 เม.ย.) หลังจากร้อยทหารพรานที่ 1206 จุดตรวจ อ.05 บ้านคลองลึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เข้าจับกุม นางสาวเอื้องฟ้า ศรีกุมาร เชื้อสายเวียดนาม ซ่อนยาไอซ์ออกมาจากบ่อนกาสิโนสตาร์เวกัส จำนวน 37.47 กรัม ตั้งแต่ช่วงบ่ายเย็นของวันที่ 28 เม.ย.ผ่านมา
ทาง นายศานิตย์ นาคสุขศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว และผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการเร่งปราบปรามยาเสพติดที่ลักลอบนำเข้ามาจากฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา ได้สั่งการระดมสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ ประกอบด้วย พลตรี วลิต โรจน์ภักดี ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา พ.อ.วสุ เจียมสุข ผบ.หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 12 กองกำลังบูรพา พ.ท.เอกรัติ เมธาวัฒนานันท์ รอง ผบ.ฉก.ทพ.12 ร.อ.วิชาญ ว่องไว้เมธี ผบ.ร้อยทหารพรานที่ 1206 จุดตรวจ อ.05 บ้านคลองลึก นายถาวร ไทยจงรักษ์ นายด่านศุลกากรอรัญประเทศ พ.ต.ท.สาคู จั่นจำรัส สวญ.สภ.คลองลึก สนธิกำลังเจ้าหน้าที่รวม 100 นาย กวาดล้างจับกุมขบวนการลักลอบนำยาเสพติดจากประเทศกัมพูชาเข้ามาในเขตไทย ตลอดแนวชายแดน โดยเฉพาะในตลาดการค้าโรงเกลือ ริมการค้าชายแดนฝั่งไทย และขบวนการลักลอบค้ามนุษย์แรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา เพื่อความมั่นคงภายในของประเทศไทย และป้องกันยาเสพติดขยายพันธ์แพร่ระบาดสู่เยาวชนยางรุนแรงมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จนกระทั่ง พ.อ.วสุ เจียมสุข ผบ.หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 12 พ.ท.เอกรัติ เมธาวัฒนานันท์ รอง ผบ.ฉก.ทพ. 12 และ ร.อ.ชาญ ว่องไวเมธี ผบ.ร้อยทหารพรานที่ 1206 ขณะที่กำลังตรวจเฝ้าระวัง พบหญิงต้องสงสัย สวมเสื้อลายดอกสีแดงแขนสั้น สวมกางเกงยีนส์ขายาว ยืนถือกระเป๋าหิ้วแบบหญิง อยู่บริเวณท้ายตลาดขายผลไม้ ตลาดการค้าริมชายแดนโรงเกลือฝั่งไทย จึงเรียกขอตรวจค้นเบื้องต้นพบตรวจ ปัสสาวะมีสารเสพติดเข้มสีม่วง พร้อมตรวจพบ ยาไอซ์ชนิดเกล็ดสีขาวบรรจุถุงพลาสติกสีขาว พันด้วยผ้าเทปกาวสีน้ำตาลซ่อนอยู่ใต้ฐานนม โดยสวมยกทรงปิดทับไว้ข้างละ 1 ก้อนๆ ข้างซ้ายของฐานนมมีน้ำหนัก 104 กรัม ก้อนข้างขวา มีน้ำหนักจำนวน 102 กรัม ร่วมเป็นยาไอซ์น้ำหนัก 206 กรัม นำตัวมาสอบสวน
เบื้องต้นทราบชื่อภายหลังว่า นางสาวนริศรา ใจอ่อน อายุ 24 ปี บ้านเลขที่ 52/ หมู่ 2 ตำบลพะทาย อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม มีอาชีพเป็นไคโยตี้แสดงทั่วไป และอยู่ประจำสตาร์แม็กฮอลิวูดล์ ที่อยู่ติดกับบ่อนคาสิโนสตาร์เวกัสฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา พร้อมยอมรับว่า รับยาไอซ์มาจากนายทุนในบ่อนกาสิโนแกรนด์ไดมอนด์ซิตี้ เพื่อนำส่งโรงแรมรอยัลพระราม 9 โดยมี นางสาว มนัสวี ธรรมวงษ์ อายุประมาณ 42 ปี บ้านเลขที่ 37/105 หมู่ 4 ลาดพร้าว กทม.เป็นผู้ว่าจ้างนำส่งก้อนละ 2 หมื่นบาท ร่วมเป็นเงิน 4 หมื่นบาท นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตรวจพบสมุดเงินฝากธนาคารกรุงเทพ สาขาหัวหมาก พบมีเงินเข้าล่าสุดของวันที่ 27 เม.ย.2552 จำนวน 314,806.59 บาท พร้อมยอมรับว่า ทำงานเดินส่งยาให้นายทุนมาหลายครั้ง เนื่องจากตนทำงานเป็นไคโยตี้อยู่ประจำสตาร์แม็กปอยเปต
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ชุดเดิม ได้จับกุม นายจิรศักดิ์ รัตนรัตน์ อายุ 38 ปี บ้านเลขที่ 105 หมู่ 9 ตำบลหนองผือ อำเภอท่าลี่ จังหวัดเลย ได้ที่บริเวณตลาดการขายผลไม้ใหม่การค้าโรงเกลือ ตรวจพบ ยาไอซ์จำนวน 2 ถุง ซ่อนอยู่ในกระเป๋ากางเกงยีนส์ด้านหน้า 1 ถุง น้ำหนัก 21.58 กรัม และอีกหนึ่งถุงซ่อนอยู่กระเป๋ากางเกงยีนส์ด้านหลังจำนวน 1 ถุง น้ำหนัก 21.2 กรัม พร้อมเงินสดจำนวน 5 พันบาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง สมุดเงินฝากธนาคารกรุงเทพ สาขาย่อยโคลีเซี่ยมพาราไดส์ภูเก็ต ที่มีเงินหมุนเวียนเข้าออกล่าสุดเมื่อวันที่ 27 เม.ย.พร้อมกับของ นางสาวนริศรา ใจอ่อน สาวไคโยตี้ จำนวนเงิน 421,538.30 บาท และตรวจยึดรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้าซิตี้ สีดำ หมายเลขทะเบียน กธ 943 ภูเก็ต ที่กำลังขยับรถออกจากท้ายตลาดขายผลไม้
จึงทำการสอบสวนเบื้องต้น นายจิระศักดิ์ ให้การยอมรับว่า ทำงานรับจ้างขนยาไอซ์ ร่วมกับนางสาว นริศรา ไคโยตี้ ที่เข้าไปรอรับยาในบ่อนกาสิโนแกรนด์ไดมอนด์ที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา พร้อมอ้างว่า ตนได้รับค่าจ้างเพียง 5 พันบาท ที่มีนายทุนคนเดียวกัน คือ นางสาว มนัสวี ธรรมวงษ์ เป็นผู้จ้างวานนำยาไอซ์ส่งสถานที่เดียวกัน คือ โรงแรมรอยัลพระราม 9
โดย นายจิระศักดิ อ้างว่า ตนอยู่จังหวัดเลย แต่ลงไปอยู่จังหวัดภูเก็ต เนื่องจากได้ภรรยาจังหวัดนั้น แต่ได้เลิกรากันมาได้กว่าปีแล้ว ส่วนอาชีพของตน รับเหมาติดตั้งสเตนเลสและม่านหน้าต่างทั่วไป ได้วิ่งรถขึ้นมาเรื่อยเข้า กทม.และมารู้จักกับ นางสาวนริศรา สาวไคโยตี้ ใน กทม.และได้ชักชวนกันมารับจ้างส่งยาไอซ์ให้กับนายทุน นางสาวมนัสวี ธรรมวงษ์ ดังกล่าว และอ้างว่า เริ่มจะทำงานเป็นครั้งแรก
เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 พร้อมของกลางยาไอซ์ เงินสด รถเก๋งส่งมอบ พ.ต.ท.วรรณดี ศรีสวัสดิ์ พนักงานสอบสวนร้อยเวรประจำ สภ.คลองลึก เพื่อสืบสวนขยายผล และดำเนินคดีข้อหารวมกันมีเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายต่อไป
วันนี้ (29 เม.ย.) หลังจากร้อยทหารพรานที่ 1206 จุดตรวจ อ.05 บ้านคลองลึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เข้าจับกุม นางสาวเอื้องฟ้า ศรีกุมาร เชื้อสายเวียดนาม ซ่อนยาไอซ์ออกมาจากบ่อนกาสิโนสตาร์เวกัส จำนวน 37.47 กรัม ตั้งแต่ช่วงบ่ายเย็นของวันที่ 28 เม.ย.ผ่านมา
ทาง นายศานิตย์ นาคสุขศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว และผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการเร่งปราบปรามยาเสพติดที่ลักลอบนำเข้ามาจากฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา ได้สั่งการระดมสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ ประกอบด้วย พลตรี วลิต โรจน์ภักดี ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา พ.อ.วสุ เจียมสุข ผบ.หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 12 กองกำลังบูรพา พ.ท.เอกรัติ เมธาวัฒนานันท์ รอง ผบ.ฉก.ทพ.12 ร.อ.วิชาญ ว่องไว้เมธี ผบ.ร้อยทหารพรานที่ 1206 จุดตรวจ อ.05 บ้านคลองลึก นายถาวร ไทยจงรักษ์ นายด่านศุลกากรอรัญประเทศ พ.ต.ท.สาคู จั่นจำรัส สวญ.สภ.คลองลึก สนธิกำลังเจ้าหน้าที่รวม 100 นาย กวาดล้างจับกุมขบวนการลักลอบนำยาเสพติดจากประเทศกัมพูชาเข้ามาในเขตไทย ตลอดแนวชายแดน โดยเฉพาะในตลาดการค้าโรงเกลือ ริมการค้าชายแดนฝั่งไทย และขบวนการลักลอบค้ามนุษย์แรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา เพื่อความมั่นคงภายในของประเทศไทย และป้องกันยาเสพติดขยายพันธ์แพร่ระบาดสู่เยาวชนยางรุนแรงมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จนกระทั่ง พ.อ.วสุ เจียมสุข ผบ.หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 12 พ.ท.เอกรัติ เมธาวัฒนานันท์ รอง ผบ.ฉก.ทพ. 12 และ ร.อ.ชาญ ว่องไวเมธี ผบ.ร้อยทหารพรานที่ 1206 ขณะที่กำลังตรวจเฝ้าระวัง พบหญิงต้องสงสัย สวมเสื้อลายดอกสีแดงแขนสั้น สวมกางเกงยีนส์ขายาว ยืนถือกระเป๋าหิ้วแบบหญิง อยู่บริเวณท้ายตลาดขายผลไม้ ตลาดการค้าริมชายแดนโรงเกลือฝั่งไทย จึงเรียกขอตรวจค้นเบื้องต้นพบตรวจ ปัสสาวะมีสารเสพติดเข้มสีม่วง พร้อมตรวจพบ ยาไอซ์ชนิดเกล็ดสีขาวบรรจุถุงพลาสติกสีขาว พันด้วยผ้าเทปกาวสีน้ำตาลซ่อนอยู่ใต้ฐานนม โดยสวมยกทรงปิดทับไว้ข้างละ 1 ก้อนๆ ข้างซ้ายของฐานนมมีน้ำหนัก 104 กรัม ก้อนข้างขวา มีน้ำหนักจำนวน 102 กรัม ร่วมเป็นยาไอซ์น้ำหนัก 206 กรัม นำตัวมาสอบสวน
เบื้องต้นทราบชื่อภายหลังว่า นางสาวนริศรา ใจอ่อน อายุ 24 ปี บ้านเลขที่ 52/ หมู่ 2 ตำบลพะทาย อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม มีอาชีพเป็นไคโยตี้แสดงทั่วไป และอยู่ประจำสตาร์แม็กฮอลิวูดล์ ที่อยู่ติดกับบ่อนคาสิโนสตาร์เวกัสฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา พร้อมยอมรับว่า รับยาไอซ์มาจากนายทุนในบ่อนกาสิโนแกรนด์ไดมอนด์ซิตี้ เพื่อนำส่งโรงแรมรอยัลพระราม 9 โดยมี นางสาว มนัสวี ธรรมวงษ์ อายุประมาณ 42 ปี บ้านเลขที่ 37/105 หมู่ 4 ลาดพร้าว กทม.เป็นผู้ว่าจ้างนำส่งก้อนละ 2 หมื่นบาท ร่วมเป็นเงิน 4 หมื่นบาท นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตรวจพบสมุดเงินฝากธนาคารกรุงเทพ สาขาหัวหมาก พบมีเงินเข้าล่าสุดของวันที่ 27 เม.ย.2552 จำนวน 314,806.59 บาท พร้อมยอมรับว่า ทำงานเดินส่งยาให้นายทุนมาหลายครั้ง เนื่องจากตนทำงานเป็นไคโยตี้อยู่ประจำสตาร์แม็กปอยเปต
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ชุดเดิม ได้จับกุม นายจิรศักดิ์ รัตนรัตน์ อายุ 38 ปี บ้านเลขที่ 105 หมู่ 9 ตำบลหนองผือ อำเภอท่าลี่ จังหวัดเลย ได้ที่บริเวณตลาดการขายผลไม้ใหม่การค้าโรงเกลือ ตรวจพบ ยาไอซ์จำนวน 2 ถุง ซ่อนอยู่ในกระเป๋ากางเกงยีนส์ด้านหน้า 1 ถุง น้ำหนัก 21.58 กรัม และอีกหนึ่งถุงซ่อนอยู่กระเป๋ากางเกงยีนส์ด้านหลังจำนวน 1 ถุง น้ำหนัก 21.2 กรัม พร้อมเงินสดจำนวน 5 พันบาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง สมุดเงินฝากธนาคารกรุงเทพ สาขาย่อยโคลีเซี่ยมพาราไดส์ภูเก็ต ที่มีเงินหมุนเวียนเข้าออกล่าสุดเมื่อวันที่ 27 เม.ย.พร้อมกับของ นางสาวนริศรา ใจอ่อน สาวไคโยตี้ จำนวนเงิน 421,538.30 บาท และตรวจยึดรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้าซิตี้ สีดำ หมายเลขทะเบียน กธ 943 ภูเก็ต ที่กำลังขยับรถออกจากท้ายตลาดขายผลไม้
จึงทำการสอบสวนเบื้องต้น นายจิระศักดิ์ ให้การยอมรับว่า ทำงานรับจ้างขนยาไอซ์ ร่วมกับนางสาว นริศรา ไคโยตี้ ที่เข้าไปรอรับยาในบ่อนกาสิโนแกรนด์ไดมอนด์ที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา พร้อมอ้างว่า ตนได้รับค่าจ้างเพียง 5 พันบาท ที่มีนายทุนคนเดียวกัน คือ นางสาว มนัสวี ธรรมวงษ์ เป็นผู้จ้างวานนำยาไอซ์ส่งสถานที่เดียวกัน คือ โรงแรมรอยัลพระราม 9
โดย นายจิระศักดิ อ้างว่า ตนอยู่จังหวัดเลย แต่ลงไปอยู่จังหวัดภูเก็ต เนื่องจากได้ภรรยาจังหวัดนั้น แต่ได้เลิกรากันมาได้กว่าปีแล้ว ส่วนอาชีพของตน รับเหมาติดตั้งสเตนเลสและม่านหน้าต่างทั่วไป ได้วิ่งรถขึ้นมาเรื่อยเข้า กทม.และมารู้จักกับ นางสาวนริศรา สาวไคโยตี้ ใน กทม.และได้ชักชวนกันมารับจ้างส่งยาไอซ์ให้กับนายทุน นางสาวมนัสวี ธรรมวงษ์ ดังกล่าว และอ้างว่า เริ่มจะทำงานเป็นครั้งแรก
เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 พร้อมของกลางยาไอซ์ เงินสด รถเก๋งส่งมอบ พ.ต.ท.วรรณดี ศรีสวัสดิ์ พนักงานสอบสวนร้อยเวรประจำ สภ.คลองลึก เพื่อสืบสวนขยายผล และดำเนินคดีข้อหารวมกันมีเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายต่อไป
