สนธิกำลังจับกุมดีเจหนุ่มสระแก้วซุกยาโคเคนชนิดเกล็ดและผงขาว

สระแก้ว - เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจจังหวัดสระแก้ว สนธิกำลังบุกจับดีเจหนุ่มซุกซ่อนยาโคเคนชนิดเกล็ด 11.26 กรัม ยาโคเคนชนิดผงขาว 0.74 กรัม‏ ในซองบุหรี่

วันนี้ (19 พ.ย.) พ.อ.วสุ เจียมสุข ผบ.หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 12 กองกำลังบูรพา, ร.อ.ชาญ ว่องไวเมธี ผบ.ร้อยทหารพรานที่ 1206 จุดตรวจ อ.05 บ้านคลองลึก, พ.ต.ท.สาคู จั่นจำรัส สวญ.สภ.คลองลึก และนายถาวร ไทยจงรักษ์ นายด่านศุลกากรจังหวัดสระแก้ว ร่วมสนธิกำลังจัดตั้งจุดตรวจสกัดและออกเป็น 3 จุด บริเวณเส้นทางผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก หลังสืบทราบว่า มีขบวนการคนไทยลักลอบนำยาเสพติดให้โทษนำเข้ามาจากฝั่งปอยเปตประเทศกัมพูชาเข้ามาในเขตไทย

จนกระทั่งตรวจพบชายไทยต้องสงสัยและมีพิรุธเดินเข้ามาจากช่องทางผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก มีสภาพอาการมึนเมา พร้อมสะพายกระเป๋าเสื้อผ้าสีแดงคาคดำ พร้อมกล่องกระดาษแข็งขนาดกลาง 1 ใบ และถุงพลาสติกใสใส่อุปกรณ์กล้องวงจรปิด จึงส่งสัญญาณเรียกมาเพื่อขอตรวจค้น

เบื้องต้นตรวจพบยาเสพติดโคเคนชนิดเกล็ดสีขาวออกเหลืองซ่อนอยู่ในซองบุหรี่ยี่ห้อมาร์ลโบโรแดงจำนวน 9 ถุง แยกเป็นถุงขนาดกลาง 3 ถุง ขนาดเล็กแบ่งซอย 6 ถุง ร่วมน้ำหนักยา 11.26 กรัม เจ้าหน้าที่ยังพบโคเคนชนิดผงสีขาวอีกจำนวน 1 ถุง ซ่อนอยู่ในซองบัตรโทรศัพท์น้ำหนัก 0.74 กรัม และยังพบกัญชายัดไส้ในม้วนบุหรี่ อีก 3 มวน และอยู่ในถุงพลาสติกใสขนาดกลางอีกจำนวน 0.55 กรัม

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตรวจค้นภายในกระเป๋าเสื้อผ้ากล่องกระดาษแข็งและถุงอุปกรณ์ พบอุปกรณ์การติดตั้งวงจรปิดจำนวนมาก โน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง สมุดเช็คเงินสดจำนวน 2 เล่ม สมุดเงินฝากธนาคารหมุนเวียนจำนวน 5 เล่ม แยกเป็นธนาคารกสิกรไทย 3 เล่ม ธนาคารกรุงเทพ 2 เล่ม ที่มีเงินหมุนเวียนรายวันนับหลายล้านบาท โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง จึงควบคุมตัวมาสอบสวน

ด้าน พ.ต.ท.สาคู ได้นำตัวมาสอบสวนทราบชื่อ นายวัชระพงษ์ ฤกษวิเศษกุล อายุ 35 ปี บ้านเลขที่ 10 ซอย 10/1 ศรีภูวนารถ ตำบลหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพที่อยู่ในอาการมึนเมายาที่เสพก่อนออกมาจากบ่อนกาสิโนแห่งหนึ่งว่า ตนมีอาชีพ ทำร้านคาแคร์อยู่ที่อำเภอหาดใหญ่ ที่เดินทางเข้ามาในฝั่งปอยเปต เพื่อช่วยเพื่อน ติดตั้งกล้องวงจรปิด ตบแต่งเครื่องเสียงและแสงไฟ ให้กับร้านอาหารเพลย์บอยซีฟู้ด ที่อยู่ติดกับบ่อนคาสิโนสตาร์เวกัส และเป็นดีเจจัดรายการให้กับร้านดังกล่าว

สำหรับยาเสพติดดังกล่าวซื้อมาจากพ่อค้าชาวกัมพูชาในราคาถุงเล็ก 2,500 บาท มาส่งให้ในร้านเพลย์บอยดังกล่าว แต่อ้างว่า เพื่อเก็บไว้เสพเอง และอ้างว่า ไม่รู้ว่าผิดกฏหมาย เนื่องจาก เคยเดินทางมาหลายครั้ง นำยาเสพติดออกไปได้ทุกครั้ง แต่ครั้งนี้มาถูกจับเสียก่อน เจ้าหน้าที่จึงควบคุมผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน เพื่อสืบสวนขยายผล และดำเนินคดีข้อหา เป็นบุคคลลักลอบนำยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ทั้ง 2 ชนิด และประเภท 5 จากประเทศกัมพูชาเข้ามาในประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย และมียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายต่อไป