ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – สธ.เชียงใหม่ระบุการติดตั้งเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิที่สนามบินยังไม่มีผู้ป่วยต้องสงสัยไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกเดินทางเข้ามาจากต่างประเทศ เผยกำลังเร่งติดตาม 22 นักท่องเที่ยวเม็กซิกัน เพื่อสอบประวัติอย่างละเอียด ขณะที่ ผอ.ท่าอากาศยานเชียงใหม่ยันสถานการณ์ปลอดภัยพร้อมเชิญชวนคนมาเที่ยว
นายแพทย์วัฒนา กาญจนกามล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกว่า หลังจากที่ได้มีการติดตั้งเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และจัดทีมแพทย์พยาบาลไปประจำ เพื่อตรวจสอบผู้โดยสารที่เดินทางเข้ามาจากต่างประเทศ ขณะนี้ได้ทำการตรวจสอบผู้โดยสารที่เดินทางมาแล้ว 4 เที่ยวบิน เป็นเที่ยวบินมาจากหลวงพระบาง (ลาว), สิงคโปร์, กัวลาลัมเปอร์ (มาเลเซีย) และเกาหลีใต้ ซึ่งยังไม่ปรากฏว่ามีผู้ที่มีอาการป่วยเข้าข่ายต้องสงสัย และยืนยันว่ายังไม่มีผู้ต้องสงสัยในจังหวัดเชียงใหม่แต่อย่างใด
ส่วนนักท่องเที่ยวชาวเม็กซิโกที่เดินทางด้วยเครื่องบินเข้ามาอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.52 เป็นต้นมา รวม 22 คนนั้น ขณะนี้ยังไม่พบตัวว่ายังคงพำนักอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่หรือว่าเดินทางกลับไปแล้ว ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการติดตามว่าพักอยู่ที่ใด มีอาการเจ็บป่วยหรือไม่ และมีคนที่เข้าไปเกี่ยวข้องเป็นใครบ้าง เพื่อเป็นการตรวจสอบให้เกิดความแน่ชัดและเฝ้าระวังได้อย่างทันท่วงที
สำหรับการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์นั้น นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า เวลานี้ได้มีการจัดตั้งวอร์รูมเพื่อติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งมีการแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกส่วนเตรียมพร้อมทั้งหมด ทั้งนี้เบื้องต้นได้มีการเตรียมห้องกักผู้ป่วยในกรณีที่พบผู้ติดเชื้อไว้ 38 ห้อง แบ่งเป็นโรงพยาบาลนครพิงค์ 7 ห้อง โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ 8 ห้อง และโรงพยาบาลประจำอำเภอทุกแห่งๆ ละ 1 ห้อง และมีการจัดเตรียมยาต้านไวรัสหรือทามิฟลูไว้ 1,000 ชุด และสำรองอีก 1,000 ชุด รวมทั้งมีการตั้งสายด่วน หมายเลขโทรศัพท์ 0-5322-2666 เพื่อรับแจ้งข้อมูลด้วย
ด้าน ว่าที่เรืออากาศโทจตุรงคพล สดมณี ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ กล่าวว่า ขณะนี้ที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ซึ่งเป็นหนึ่งท่าอากาศยานนานาชาติในประเทศไทย ได้มีมาตรการในการตรวจสอบคัดกรองผู้โดยสารที่เดินทางเข้ามาจากต่างประเทศอย่างเข้มงวด โดยใช้บุคลากรและเจ้าหน้าที่ทางสาธารณสุขมาประจำอยู่ที่ท่าอากาศยาน ซึ่งยังไม่ปรากฎว่ามีผู้ป่วยต้องสงสัยแต่อย่างใด ทั้งนี้ อยากยืนยันไปยังนักท่องเที่ยวว่าสถานการณ์ของจังหวัดเชียงใหม่ยังคงเป็นปกติ จึงอยากเชิญชวนให้มาท่องเที่ยวเหมือนเดิม
นายแพทย์วัฒนา กาญจนกามล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกว่า หลังจากที่ได้มีการติดตั้งเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และจัดทีมแพทย์พยาบาลไปประจำ เพื่อตรวจสอบผู้โดยสารที่เดินทางเข้ามาจากต่างประเทศ ขณะนี้ได้ทำการตรวจสอบผู้โดยสารที่เดินทางมาแล้ว 4 เที่ยวบิน เป็นเที่ยวบินมาจากหลวงพระบาง (ลาว), สิงคโปร์, กัวลาลัมเปอร์ (มาเลเซีย) และเกาหลีใต้ ซึ่งยังไม่ปรากฏว่ามีผู้ที่มีอาการป่วยเข้าข่ายต้องสงสัย และยืนยันว่ายังไม่มีผู้ต้องสงสัยในจังหวัดเชียงใหม่แต่อย่างใด
ส่วนนักท่องเที่ยวชาวเม็กซิโกที่เดินทางด้วยเครื่องบินเข้ามาอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.52 เป็นต้นมา รวม 22 คนนั้น ขณะนี้ยังไม่พบตัวว่ายังคงพำนักอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่หรือว่าเดินทางกลับไปแล้ว ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการติดตามว่าพักอยู่ที่ใด มีอาการเจ็บป่วยหรือไม่ และมีคนที่เข้าไปเกี่ยวข้องเป็นใครบ้าง เพื่อเป็นการตรวจสอบให้เกิดความแน่ชัดและเฝ้าระวังได้อย่างทันท่วงที
สำหรับการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์นั้น นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า เวลานี้ได้มีการจัดตั้งวอร์รูมเพื่อติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งมีการแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกส่วนเตรียมพร้อมทั้งหมด ทั้งนี้เบื้องต้นได้มีการเตรียมห้องกักผู้ป่วยในกรณีที่พบผู้ติดเชื้อไว้ 38 ห้อง แบ่งเป็นโรงพยาบาลนครพิงค์ 7 ห้อง โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ 8 ห้อง และโรงพยาบาลประจำอำเภอทุกแห่งๆ ละ 1 ห้อง และมีการจัดเตรียมยาต้านไวรัสหรือทามิฟลูไว้ 1,000 ชุด และสำรองอีก 1,000 ชุด รวมทั้งมีการตั้งสายด่วน หมายเลขโทรศัพท์ 0-5322-2666 เพื่อรับแจ้งข้อมูลด้วย
ด้าน ว่าที่เรืออากาศโทจตุรงคพล สดมณี ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ กล่าวว่า ขณะนี้ที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ซึ่งเป็นหนึ่งท่าอากาศยานนานาชาติในประเทศไทย ได้มีมาตรการในการตรวจสอบคัดกรองผู้โดยสารที่เดินทางเข้ามาจากต่างประเทศอย่างเข้มงวด โดยใช้บุคลากรและเจ้าหน้าที่ทางสาธารณสุขมาประจำอยู่ที่ท่าอากาศยาน ซึ่งยังไม่ปรากฎว่ามีผู้ป่วยต้องสงสัยแต่อย่างใด ทั้งนี้ อยากยืนยันไปยังนักท่องเที่ยวว่าสถานการณ์ของจังหวัดเชียงใหม่ยังคงเป็นปกติ จึงอยากเชิญชวนให้มาท่องเที่ยวเหมือนเดิม