รื้อกลับแล้วของเล่นลูกเศรษฐีราคาเฉียดล้านบาท

ฉะเชิงเทรา - ยอมรื้อถอนยกกลับไปแล้ว เครื่องเล่นเด็กราคาสุดแพงหูฉี่ หลังชาวบ้านรับไม่ได้กับโปรเจกต์โครงการเครื่องเล่นลูกเศรษฐีราคาสูงลิ่วเฉียดหนึ่งล้านบาท ขณะนายกเล็กเกาะขนุนแจงยึดหลักการมีส่วนร่วมของชุมชน ยอมส่งคืนเพื่อลดปัญหาความขัดแย้งในชุมชน

วันนี้ (27 เม.ย.) เวลา 14.30 น. นางเตือนใจ เบ้าพาระ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 738 ม.2 ต.เกาะขนุน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นประธานชุมชนซอยวารีสมาน ในเขตเทศบาลตำบลเกาะขนุน กล่าวว่า ขณะนี้ทางบริษัท สไลเดอร์เวิลด์ ซิสเต็มส์ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 192/16 ม.2 ต.สามโคก อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ได้ส่งคนงานมารื้อถอน ยกเครื่องเล่นภายในสนามเด็กเล่นวัดพงษาราม กลับไปจนหมดแล้ว

หลังจากที่ชาวบ้าน และคณะกรรมการชุมชนไม่ยอมเซ็นรับสินค้า เครื่องเล่นเด็ก ที่ทางเทศบาลตำบลเกาะขนุน จัดซื้อมาให้จำนวน 6 ชิ้น ในราคาสูงถึง 938,000 บาท ซึ่งประกอบด้วย อุปกรณ์สนามเด็กเล่นชุดหอพิเศษ ที่จัดซื้อมาในราคา 712,700 บาท เครื่องเล่นลอดอุโมงค์ ราคา 32,300 บาท ชุดม้ากระดก 2 ที่นั่ง ราคา 19,500 บาท สิงโตทะเลสปริง ราคา 59,800 บาท ฉลามหัวค้อนสปริง ราคา 59,800 บาท ชุดปีนป่ายเชือก ราคา 41,100 บาท และ ป้ายแสดงวิธีการใช้งาน ราคา 13,800 บาท เพราะเห็นว่ามีราคาแพงสูงเกินกว่าความต้องการของชาวบ้าน ถึงเกือบหนึ่งล้านบาท

ขณะที่ นายวัฒนา สุขโภชน์ นายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลเกาะขนุน เจ้าของโครงการจัดซื้อเครื่องเล่นเด็กให้แก่ชาวชุมชนซอยวารีสมาน กล่าวว่า หลังจากที่ทางเทศบาลได้แจ้งปัญหาข้อขัดข้องที่เกิดขึ้นไปยังบริษัทผู้รับเหมา ทางบริษัทจึงได้มาติดต่อขอยกเครื่องเล่นทั้งหมดกลับคืนไป หากทางเทศบาลมีความประสงค์จะขอยกเลิกสัญญา โดยที่จะไม่ติดใจ หรือเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ จากทางเทศบาล

ทั้งนี้ ทางเทศบาลจะยังคงโครงการไว้ก่อน เพื่อรอการทำประชาคมชุมชนที่จะมีขึ้นในวันที่ 14 พ.ค.นี้ ว่าจะยกเลิกโครงการ หรือจะเปลี่ยนผู้รับเหมารายใหม่ เนื่องจากโครงการดังกล่าวชุมชนเป็นฝ่ายเสนอมา เราก็ทำให้ และไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้งขึ้นในชุมชน หากมีช่องทางออกโดยที่ไม่ติดขัดกับระเบียบ ก็ยินดีที่จะทำการแก้ไขให้ หากมีเหตุผลเพียงพอที่จะนำไปอ้างกับฝ่ายบริษัทผู้รับเหมา ซึ่งเราก็ยินดีรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน โดยต้องการให้ประชาชนมีส่วนร่วม ตามนโยบายในการบริหารงานของเทศบาล เมื่อเห็นสิ่งใดไม่ดี ไม่ถูกต้องก็ให้โต้แย้งมา ถือเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว

ด้าน นายราชันต์ เดชศรี อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 460/1 ม.2 ชาวบ้านในชุมชน กล่าวว่า ชาวบ้านไม่อยากให้มีการยกเลิกโครงการ เพราะโครงการสนามเด็กเล่นแห่งนี้ เป็นความต้องการของคนส่วนใหญ่ในชุมชนที่ผ่านการทำประชาคมหมู่บ้าน แต่ไม่ใช่การจัดซื้อของเล่นเด็ก ด้วยเงินงบประมาณจำนวนมหาศาล ในราคาสินค้าที่แพงถึงขนาดนี้ เอาแต่พอประมาณ ให้เด็กๆในชุมชนได้มีของเล่นก็พอแล้ว ในราคาสัก 2-3 แสนบาท เท่ากับราคาจัดซื้อของเทศบาลท้องถิ่นแห่งอื่นๆ ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน ที่สามารถจัดซื้อเครื่องเล่นเด็ก ที่มีลักษณะคล้ายกันนี้ ได้ในราคาดังกล่าว “ไม่ใช่ชาวบ้านไม่ต้องการ แต่อยากได้ความโปร่งใสมากกว่านี้”

ขณะที่เด็กๆ ในชุมชนซอยวารีสมาน ต่างวนเวียนเข้ามาดูของเล่น ที่จะถูกยกกลับคืนไปด้วยความเสียดาย และอยากเข้าไปเล่นอีก แต่ได้ถูกทางเทศบาลนำแผงเหล็ก และเชือกมากันพื้นที่ไว้ พร้อมกับขึ้นป้ายว่า “กรุณางดใช้ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ” ไว้ก่อนหน้าแล้ว