ศูนย์ข่าวศรีราชา - โจรพัทยาบุกเดี่ยวใช้ปืนจี้ลูกจ้างร้านขายของโบราณประธานสภาเมืองพัทยา
วันนี้ (27 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รุดไปตรวจสอบที่บริษัท ซุปเปอร์ ที 1943 จำกัด เลขที่ 59/2 หมู่ 10 ข้างซอย 17 หลังตลาดวัดชัยมงคล หมู่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับ แจ้งมีคนร้ายบุกชิงทรัพย์
ในที่เกิดเหตุเปิดเป็นร้านรับจองตั๋วเครื่องบิน ร้านรับแลกเงินตรา และร้านขายเครื่องโบราณ เข้าตรวจ สอบพบ น.ส.น้ำทิพย์ แตะอู่ อายุ 29 ปี ลูกจ้างร้าน ซึ่งให้การว่าร้านดังกล่าวเป็นของนายทวิช ฉายสว่างวงศ์ ประธานสภาเมืองพัทยา ซึ่งก่อนเกิดเหตุขณะที่กำลังนั่งรอลูกค้าอยู่ในเคาท์เตอร์ได้มีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่นอายุประมาณ 20-24 ปี ขี่รถจักรยายนต์มาจอดหน้าร้าน จากนั้นได้เดินเข้ามาภายในโดยในมือถือถุงกระดาษสีดำ พร้อมกับยื่นถุงกระดาษใบดังกล่าวให้ จึงคิดว่าเป็นถุงเงิน จากนั้นคนร้ายได้ล้วงเอาอาวุธปืนออกมาจากเอว พร้อมกับบังคับให้ส่งเงินในลิ้นชักให้ เมื่อเห็นเช่นนั้นจึงได้วิ่งหลบหนีและตะโกนคนในร้านให้มาช่วย คนร้ายจึงวิ่งออกจากร้านมาขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ขับหลบหนีไปโดยไม่ได้ทรัพย์สินแต่อย่างใด
หลังรับแจ้งแล้วทางเจ้าหน้าที่ได้วิทยุสกัดจับคนร้ายทุกเส้นทางแต่ไม่มีวี่แวว เบื้องต้นได้ทำการสอบสวนผู้เสียหาย ก่อนเร่งติดตามตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
วันนี้ (27 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รุดไปตรวจสอบที่บริษัท ซุปเปอร์ ที 1943 จำกัด เลขที่ 59/2 หมู่ 10 ข้างซอย 17 หลังตลาดวัดชัยมงคล หมู่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับ แจ้งมีคนร้ายบุกชิงทรัพย์
ในที่เกิดเหตุเปิดเป็นร้านรับจองตั๋วเครื่องบิน ร้านรับแลกเงินตรา และร้านขายเครื่องโบราณ เข้าตรวจ สอบพบ น.ส.น้ำทิพย์ แตะอู่ อายุ 29 ปี ลูกจ้างร้าน ซึ่งให้การว่าร้านดังกล่าวเป็นของนายทวิช ฉายสว่างวงศ์ ประธานสภาเมืองพัทยา ซึ่งก่อนเกิดเหตุขณะที่กำลังนั่งรอลูกค้าอยู่ในเคาท์เตอร์ได้มีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่นอายุประมาณ 20-24 ปี ขี่รถจักรยายนต์มาจอดหน้าร้าน จากนั้นได้เดินเข้ามาภายในโดยในมือถือถุงกระดาษสีดำ พร้อมกับยื่นถุงกระดาษใบดังกล่าวให้ จึงคิดว่าเป็นถุงเงิน จากนั้นคนร้ายได้ล้วงเอาอาวุธปืนออกมาจากเอว พร้อมกับบังคับให้ส่งเงินในลิ้นชักให้ เมื่อเห็นเช่นนั้นจึงได้วิ่งหลบหนีและตะโกนคนในร้านให้มาช่วย คนร้ายจึงวิ่งออกจากร้านมาขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ขับหลบหนีไปโดยไม่ได้ทรัพย์สินแต่อย่างใด
หลังรับแจ้งแล้วทางเจ้าหน้าที่ได้วิทยุสกัดจับคนร้ายทุกเส้นทางแต่ไม่มีวี่แวว เบื้องต้นได้ทำการสอบสวนผู้เสียหาย ก่อนเร่งติดตามตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป