พิจิตร – จังหวัดฯ ยันจำนำข้าวนาปรับเมืองชาละวันราบรื่น เกษตรกรนำข้าวเข้าโครงการแล้วกว่า 1.5 แสนตัน รวมวงเงิน 1,500 ล้านบาท ขณะที่ข้าวหอมจังหวัดได้ข้อยุติ หลัง ครม.อนุมัติจ่ายเงินเพิ่มตันละพันบาท
นายยุทธนา วิริยะกิตติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เปิดเผยว่า โครงการรับจำนำข้าวนาปรังของจังหวัดพิจิตรขณะนี้ถือว่าเป็นช่วงปลายฤดูกาลแล้ว โดยมีชาวนานำข้าวเปลือกนาปรังมาจำนำแล้ว 11,670 ราย ปริมาณข้าว 155,750 ตัน คิดเป็นเงิน 1,500 ล้านบาท ตามใบประทวน ซึ่งมีปัญหาเพียงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่เป็นช่วงวันหยุดตามประกาศของรัฐบาลและวันหยุดสงกรานต์ทำให้เอกสารคั่งค้างเป็นจำนวนมากชาวนาจึงไปเบิกเงินไม่ได้
เมื่อเปิดทำการจึงมีการเร่งส่งมอบใบประทวนให้ชาวนาต่างสามารถนำไปขึ้นเงินกับ ธ.ก.ส.ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้เกิดการสะพัดทางเศรษฐกิจในการจับจ่ายใช้สอยเพื่อลงทุนทำการเกษตรในฤดูกาลต่อไป
สำหรับโรงสีที่เข้าร่วมโครงการขณะนี้มี 23 ราย ซึ่งขณะนี้ พล.ต.ต.ชวลิต ชาญเวชช์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร ได้ร่วมกับนายประธาน นรรัตน์ พาณิชย์จังหวัด เข้าตรวจสต๊อกเพื่อป้องกันการทุจริตอย่างเข้มงวดแล้ว และไม่พบสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด
ส่วนกรณีเรื่องการจ่ายเงินเพิ่มให้กับชาวนาที่ปลูกข้าวหอมจังหวัดและจะต้องได้เงินเพิ่มอีกตันละ 1 พันบาท ตามมติ ครม. ก็ปรากฏว่ามีชาวนาที่ทำนาบนพื้นที่ขนาดใหญ่ได้ข้าวจำนวนมากมูลค่ากว่า 5 แสนบาท ซึ่งเกินวงเงินที่รัฐกำหนดมีเพียง 20-30 ราย ที่จะรับเงินเพิ่มตามมติ ครม. ไม่ได้ จนเกิดมีข้อพิพาทจังหวัดได้แก้ปัญหาด้วยการให้โรงสีเป็นผู้รับผิดชอบไปได้เรียบร้อยแล้ว
สำหรับโครงการรับจำนำข้าวของจังหวัดพิจิตรในอนาคตอาจจะต้องมีทั้งปี เพราะข้าวนาปรังรอบ 2 ราวเดือนมิถุนายน-พฤษภาคม ก็จะมีผลผลิตข้าวออกมาอีกระรอกหนึ่ง แต่ราคาซื้อขายในท้องตลาดขณะนี้ขยับราคาขึ้นสูงมาถึงตันละ 9,500-10,500 บาท ซึ่งชาวนาก็หันไปซื้อขายกันด้วยเงินสดก็มากขึ้น อย่างไรก็ตาม โครงการรับจำนำก็อาจจะต้องมีอยู่เพื่อสร้างความมั่นใจในกับเกษตรกรในการประกันราคาผลผลิตต่อไป