ขบวนการโจรกรรมรถส่งขายพม่าชุก ทหารพรานรวบได้อีกคาน้ำเมย

ตาก – ทหารพรานยึดรถยนต์ถูกโจรกรรมข้ามแดนอีก หลังสืบสวนพบเส้นทางท้ายบ้านวังตะเคียนริมแม่น้ำเมยเป็นเส้นทางลักลอบส่งไปพม่า

รายงานข่าวจาก อ.แม่สอด จ.ตาก แจ้งว่า พ.อ.นพดล วัชรจิตบวร ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 35 ในฐานะผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 ได้ทำการสืบสวน-สอบสวน ทราบว่าบริเวณเส้นทางเลียบชายแดนไทย-พม่า ท้ายหมู่บ้านวังตะเคียนใต้ หมู่ 7 บ้านวังตะเคียน หมู่ 4 ตำบลท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก เป็นเส้นทางที่มีการโจรกรรมรถยนต์และรถอื่นๆ ข้ามแดนไปส่งขายในฝั่งพม่าที่บริเวณบ้านเยปู่ โดยถนนสายดังกล่าวมีการโจรกรรมรถมาหลายครั้ง อย่างต่อเนื่อง จึงได้สั่งการให้ ร.อ.ปรีชา ชมชาติ ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 3507 นำกำลังไปดักซุ่มเพื่อจับกุม

ล่าสุด พบผู้ต้องสงสัยได้นำรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ถณ-1738 กรุงเทพมหานคร ข้างประตูรถติดเครื่องหมาย คำว่า TRANE วิ่งผ่านมาและเมื่อถึงบริเวณท้ายบ้านวังตะเคียนใต้ และด้านฝั่งตรงฝั่งพม่านั้นเป็นเขตอิทธิพลของกองกำลังกะเหรี่ยงพุทธ DKBA ผู้ต้องสงสัยเป็นชายอายุประมาณ 30 ปี ได้พยายามติดต่อกับฝั่งตรงข้ามเพื่อเตรียมนำรถยนต์คันดังกล่าวข้ามฝั่ง เจ้าหน้าที่ทหารพรานจึงได้เรียกและแสดงตัวเพื่อขอตรวจค้นและตรวจสอบ แต่ผู้ต้องหาเห็นดังนั้นไหวตัวทันว่ายน้ำข้ามแม่น้ำเมยไปฝั่งพม่า เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึดรถยนต์คันดังกล่าวไว้เบื้องต้นสงสัยว่าเป็นรถที่ถูกโจรกรรมมา จึงลงบันทึกการจับกุมและส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่สอด เพื่อขยายผลและติดตามเจ้าของรถยนต์เพื่อมารับรถคืนต่อไป

รายงานข่าวแจ้งว่า บริเวณดังกล่าวเป็นจุดที่มีการนำรถยนต์ข้ามแดนโดยใช้เรือต่อกันเป็นแพเพื่อนำรถยนต์จากฝั่งไทยไปขายยังฝั่งพม่า ซึ่งเมื่อไม่กี่วันก่อนทหารพรานเพิ่งยึดรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไมตี้เอ็กซ์ สีขาว ทะเบียน ผฉ-8618 เชียงใหม่ ขณะกำลังจะถูกโจรกรรมข้ามฝั่งจากจากไปพม่าและสามารถกู้คืนมาได้ ทำให้ทหารและหน่วยงานด้านความมั่นคงอื่นๆ ได้เพิ่มาตรการเฝ้าระวังการโจรกรรมรถข้ามแดนบริเวณท้ายบ้านวังตะเคียนใต้มากยิ่งขึ้น เจ้าหน้าที่ทหารพรานนายหนึ่ง กล่าวว่า รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ที่ถูกนำข้ามแม่น้ำเมยจากฝั่งไทยไปพม่าบริเวณ เส้นทางดังกล่าวจะมี 3 รูปแบบ คือ 1.เป็นรถที่ถูกโจรกรรมมา 2.เป็นรถที่หนีไฟแนนซ์ (หนีการผ่อนส่ง) และ 3.เป็นรถที่ซื้อมือสองมาเพื่อนำไปส่งขายฝั่งพม่ามาตามออเดอร์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องมีการตรวจยึดและทำการสืบสวน-สอบสวน ทุกคันเนื่องจากบริเวณชายแดนจุดดังกล่าวไม่ใช่จุดที่อนุญาตให้นำออก และส่วนใหญ่จะเป็นรถที่นำออกโดยผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่จึงเพิ่มความเข้มงวดและตรวจยึดจุดจับ