ศูนย์ข่าวขอนแก่น - บรรยากาศการเล่นน้ำสงกรานต์ในจังหวัดขอนแก่นเต็มไปด้วยความสนุกสนาน แม้ในช่วงที่ผ่านมาจะยังมีการชุมนุมของคนเสื้อแดงบริเวณถนนหน้าศาลากลางจังหวัด และการเคลื่อนขบวนแห่ของคนเสื้อแดงไปปิดถนนมิตรภาพและเผายางรถยนต์หน้าประตูเมืองใกล้บริเวณจัดงานสุดยอดสงกรานต์อีสานเทศกาลดอกคูนเสียงแคนและถนนข้าวเหนียว แต่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติก็ยังคงหลั่งไหลเล่นน้ำสงกรานต์ที่ถนนข้าวเหนียวอย่างคึกคัก
จังหวัดขอนแก่นมีการจัดงานประเพณีสุดยอดสงกรานต์อีสาน เทศกาลดอกคูน-เสียงแคน และถนนข้าวเหนียว ประจำปี 2552 กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-15 เมษายน 2552 โดยวันนี้(15เม.ย.) ชาวขอนแก่นและนักท่องเที่ยวออกมาเล่นน้ำสงกรานต์จำนวนมากกว่าวันที่ผ่านๆ มา เนื่องจากเป็นวันสุดท้ายของการจัดงาน จึงออกมาเล่นกันอย่างเต็มที่
โดยเฉพาะบริเวณถนนข้าวเหนียวคึกคักเป็นอย่างมาก โดยในปี 2552 นอกจากเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเล่นน้ำสงกรานต์แล้ว ยังมีกิจกรรมหลายอย่าง อาทิกล่องข้าวเหนียวยักษ์ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นไปชมทิวทัศน์เมืองขอนแก่น
โดยภายในกล่องข้าวเหนียวมีการฉีดน้ำสปริงเกอร์ให้ความชุ่มฉ่ำตามประเพณี สร้างความพอใจให้กับนักท่องเที่ยวอย่างมาก
สำหรับปีนี้สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ยังคงส่งเสริมและสืบสานคุณค่าประเพณีปีใหม่ไทยแก่ คนรุ่นใหม่ให้มีค่านิยมที่สนุกได้โดยไม่ต้องมีแอลกอฮอล์ภายใต้แนวคิดที่ว่า “สนุก ปลอดภัย ไร้แอลกอฮอล์”
ส่วนบริเวณภายในงานยังมีกิจกรรมที่สร้างสีสันให้นักท่องเที่ยวสนุกสนานได้ ตลอดระยะเวลาการจัดงาน เช่น การประกวดหมากหุ่งตำ (ส้มตำ) ลำซิ่ง-การทำบุญตักบาตร และรดน้ำขอพรผู้สูงอายุ, การออกร้านจำหน่ายสินค้า โอทอป, การประกวดเขยหลากสี สามีทำได้, การแข่งขันฟุตซอล, การแข่งขันเต้นบีบอย, การแข่งขันตะกร้อลอดห่วงอาชีพชิงชนะเลิศระดับประเทศไทย และมหกรรมคอนเสิร์ตหมอลำลูกทุ่งชื่อดัง 8 วัน 8 คืน
อย่างไรก็ตาม การจัดงานประเพณีสุดยอดสงกรานต์อีสาน เทศกาลดอกคูน-เสียงแคน และถนนข้าวเหนียว ประจำปี 2552 นี้ เกิดขึ้นท่ามกระแสความปั่นป่วนของกลุ่มม็อบเสื้อแดง แต่เมื่อเหตุการคลี่คลายชาวขอนแก่นจำนวนไม่น้อยก็เลี้ยงฉลองกันพร้อมทำอาหารแจกจ่ายผู้มาเล่นน้ำสงกรานต์
โดยประชาชนบางคนกล่าวว่าภูมิใจในการทำงานของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งดำเนินการในการควบคุมสถานการณ์ด้วยความดี และความรอบคอบ แม้ฝ่ายผู้ชุมนุมจะมีแกนนำที่จิตใจชั่วร้ายทำลายทรัพย์สินของชาติและหวังให้เกิดการสูญเสียมากกว่านี้ แต่นายกรัฐมนตรีก็สามารถควบคุมเหตุด้วยวุฒิภาวะผู้นำสูงคู่กับจริยธรรม จนประเทศไทยกลับมาสู่สภาวะคลี่คลายขึ้น
สำหรับบรรยากาศการเดินทางกลับไปทำงานที่กรุงเทพฯ เริ่มมีประชาชนทะยอยเดินทางกลับแล้วตั้งแต่ช่วงสายที่ผ่านมา เนื่องจากหลายคนเป็นพนักงานบริษัทเอกชน ซึ่งแม้รัฐบาลจะประกาศวันหยุดราชการเพิ่ม แต่ไม่เกี่ยวกับเอกชน
อีกทั้งผู้ที่จองตั๋วเดินทางระบุวันเวลาล่วงหน้า จึงต้องเดินทางกลับตามกำหนด ทำให้บรรยากาศที่สถานีขนส่งและสถานีรถปรับอากาศเริ่มหนาแน่น