รมช.คลังโวยกลุ่มเสื้อแดงคว่ำประชุมอาเซียนทำประเทศพังยับ

พิจิตร-รมช.คลังฟันธงระบบจัดเก็บภาษีจะต่ำกว่าประมาณการมากสุดเป็นประวัติศาสตร์ เหตุเสื้อแดงคว่ำประชุมกลุ่มผู้นำอาเซียน ย้ำ GDP ตก 3 – 5 % คนจะไม่ลงทุนรวมไปถึงต่างชาติขาดความเชื่อมั่นไทย อีกนานกว่าจะฟื้น

วันนี้(12 เม.ย.) นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังจากร่วมประเพณีรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ เนื่องในวันสงกรานต์ ที่จัดขึ้น ที่จังหวัดพิจิตรบริเวณบึงสีไฟ อ.เมือง จ.พิจิตร โดยได้กล่าวว่าผลกระทบของการคว่ำการประชุมกลุ่มผู้นำอาเซียนโดยคนเสื้อแดงจะส่งผลให้เศรษฐกิจทรุดตัวลงอย่างที่ไม่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ทั้งยังถือเป็นวิกฤติเศรษฐกิจที่หนักหนาสาหัสมาก โดยมีการประมาณการเศรษฐกิจเมืองไทย GDP จะ ติดลบ 3 ถึง 5 % นั่นหมายถึงเศรษฐกิจจะไม่มีการลงทุนแล้วยังจะถดถอยลงอีก และการจัดเก็บรายได้ก็จะต่ำลง จากประมาณการ จากเดิมที่เป็นอยู่มากเป็นประวัติการณ์

ดังนั้นจึงเป็นความจำเป็นองค์กรที่เหลืออยู่องค์กรเดียวที่จะกล้าลงทุน คือ รัฐบาล และจากช่วงนี้ต่อไปภาคเอกชนก็จะไม่มีใครกล้าที่จะลงทุนเพราะขาดความมั่นใจในเสถียรภาพของรัฐบาล เหตุเพราะเสื้อแดงทำป่วน รวมถึงประชาชนก็วิตกจริตไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย ต่างคนก็ต่างเก็บออม เพราะกลัวว่าเศรษฐกิจจะเป็นปัญหา สภาวะการจับจ่ายใช้สอยก็ลดน้อยลง ไม่มีใครกล้าจะควักเงินเพื่อมาลงทุน

วิธีแก้ คือ รัฐบาลผู้เดียวที่จะต้องออกมากระตุ้นเศรษฐกิจทุกวิถีทางไม่ว่าจะเป็นการกู้เงินเพื่อกระจายรายได้ หรือ การลงทุน การจ้างงานต่างๆ อีกด้วยโดยมีการเผยผลการทำวิจัยว่าผู้ที่เดือดร้อนมากที่สุดก็คือ ผู้สูงอายุที่ปลดเกษียน หรือ ผู้ที่รอรับรายได้จากลูกหลานที่จะเป็นผู้ที่ดูแลเมื่อยามแก่ชรา รองลงมาก็คือผู้ที่ตกงานและมนุษย์เงินเดือน ดังนั้นนโยบายรัฐบาลจึงจะดูแลคนชราเป็นพิเศษด้วยการให้เบี้ยยังชีพแน่นอน