ศูนย์ข่าวศรีราชา -ที่ปรึกษานายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา ระบุการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินมีผลกระทบต่อยอดจองห้องพักล่วงหน้าช่วงสงกรานต์ของเมืองพัทยาจากเดิมที่มีเฉลี่ย 70% อาจเหลือไม่ถึง 20% ชี้หากรัฐบาลเข้มงวดมาตรการรักษาความปลอดภัย ป้องกันการเข้าก่อกวนของกลุ่มคนเสื้อแดงอย่างเต็มที่ เหตุการณ์บุกที่ประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนจนต้องประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินจะไม่เกิดขึ้น
นายธเนศ ศุภรสหัสรังษี ที่ปรึกษานายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา เผยถึงการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินของรัฐบาลเพื่อรักษาความปลอดภัยของกลุ่มผู้นำชาติต่างๆ ที่เดินทางเข้าร่วมประชุม หลังกลุ่มคนเสื้อแดงเข้ายึดโรงแรมรอยัลคลิฟ บีช รีสอร์ท พัทยา จนต้องมีการเลื่อนการประชุมออกไปแบบไม่มีกำหนดว่า การประกาศ พรก.ฉุกเฉินในพื้นที่จังหวัดชลบุรี และเมืองพัทยา ไม่เพียงแต่จะซ้ำเติมสถานการณ์การท่องเที่ยวของเมืองพัทยาทรุดหนักกว่าที่เป็นอยู่ แต่ยังจะทำให้ยอดการจองห้องพักล่วงหน้าในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของเมืองพัทยาอาจลดไม่เหลือ 20 % จากยอดจองเฉลี่ยที่มีประมาณ 70%
ทั้งนี้ตนเห็นว่าการประกาศ พรก.ฉุกเฉินของรัฐบาลเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ซึ่งหากในครั้งแรกที่กลุ่มคนเสื้อแดงก่อความวุ่นวายในเมืองพัทยา รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการใดๆ หรือกำหนดมาตรการเพื่อป้องกันการเสียหายของกลุ่มคนเสื้อแดงอย่างเด็ดขาด ก็จะไม่ต้องมีการประกาศ พรก.ฉุกเฉิน จนสร้างความเสียหายให้กับภาพการท่องเที่ยวรวมของเมืองพัทยาและประเทศชาติเช่นในขณะนี้
“ในความเป็นจริงแล้วพัทยา ไม่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมของกลุ่มคนเสื่อแดง แต่พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมีอยู่จุดเดียวคือพื้นที่โรงแรมรอยัลคลิฟ บีช รีสอร์ทพัทยา ดังนั้นหากจะประกาศพื้นที่ฉุกเฉินก็ควรประกาศในจุดที่มีความวุ่นวายเท่านั้น และในขณะนี้เมื่อกลุ่มคนเสื้อแดงสามารถทำให้การประชุมดังกล่าวยุติลงได้ก็ถือว่าเขาได้ทำบรรลุเป้าหมายแล้ว ”นายธเนศ กล่าว
หวั่นท่องเที่ยวพัทยาตายสนิทในสายตาต่างชาติ
ขณะที่นางโสภิญ เทพจักร กรรมการผู้จัดการ กลุ่มโรงแรมในเครือไดอาน่ากรุ๊ป พัทยา ให้ความเห็นกรณีการประกาศ พรก.ฉุกเฉินในพื้นที่เมืองพัทยาว่า หากรัฐบาลประกาศ พรก.ดังกล่าวหรือมีการดำเนินการที่เด็ดขาดไปก่อนหน้าก็จะไม่เกิดเหตุการณ์ในครั้งนี้ขึ้น ดังนั้นเมื่อมีการประกาศ พ.ร.ก.ในขณะนี้นอกจากจะไม่ส่งผลดีกับประเทศแล้ว ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของเมืองพัทยาก็อาจจะตายสนิดในสายตานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งที่ผ่านมาสถานการณ์การท่องเที่ยวของเมืองพัทยาก็ยังไม่ได้ฟื้นตัวแต่อย่างใด
“เมื่อ 2 วันก่อนนักธุรกิจในเมืองพัทยาเพิ่งจะคุยกันอยู่เลยว่าจะทำอย่างไรดีกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองพัทยา ซึ่งตอนนี้ทุกคนอ่อนใจกันไปหมดแล้ว และก็ไม่รู้ว่าสุดท้ายการท่องเที่ยวของเมืองพัทยา โดยเฉพาะภาพลักษณ์ด้านความปลอดภัยจะตายสนิทในสายตานักท่องเที่ยวต่างชาติหรือไม่ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพียงความสะใจของใครบางคน แต่สิ่งที่กำลังจะเกิดกับประเทศเป็นเรื่องของความเสียหายในระดับมหาศาล” นางโสภิญ กล่าว
