น่าน – เตรียมพร้อมรับมืออุบัติเหตุช่วงสงกรานต์เต็มที่ ตั้ง 45 จุดตรวจตามเส้นทางหลัก และจุดรองทั่วจังหวัด 224 จุด พร้อมวางกำลังเจ้าหน้าที่อีก 2,000 นาย เฝ้าระวังและออกช่วยเหลือหากเกิดอุบัติเหตุ
นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เปิดเผยว่า ประเพณีสงกรานต์ขึ้นระหว่างวันที่ 13 -15 เมษายน 2552 จังหวัดน่าน ตั้งคำขวัญที่ว่า “สงกรานต์สมานสามัคคี สืบทอดประเพณี ทุกชีวีปลอดภัย”ตามประกาศคำขวัญของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี โดยเน้นเรื่องการสืบทอดประเพณีสงกรานต์ วิธีการเล่นน้ำอย่างถูกต้องตามประเพณีดั้งเดิม ด้วยรูปแบบการเล่นน้ำอย่างสุภาพ สนุกสนานบนพื้นฐาน การสร้างความสมานสามัคคี
โดยมีการกำหนดพื้นที่การเล่นน้ำสงกรานต์ไว้ 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 ถนนสุมนเทวราช เริ่มตั้งแต่บริเวณวัดกู่คำไปจนถึงห้างนราไฮเปอร์มาร์ท ได้จัดให้มีการตั้งซุ้มเล่นน้ำสงกรานต์แบบดั้งเดิมและสุภาพ ด้วยการนำน้ำมารดน้ำและขอพรจากผู้สูงอายุหรือผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ
นอกจากนี้ได้กำหนดให้เล่นน้ำสงกรานต์ ปลอดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ รวมทั้งไม่สวมเสื้อสายเดี่ยวเล่นน้ำสงกรานต์อีกด้วย และส่วนที่ 2 ที่บริเวณลานอเนกประสงค์ริมแม่น้ำน่านกำหนดเป็นเป็นพื้นที่เล่นสาดน้ำแบบสงครามน้ำ ซึ่งทางเทศบาลจะจัดน้ำไว้ให้บริการสำหรับผู้เล่นสาดน้ำตลอดในช่วงเทศกาลสงกรานต์
ในส่วนของการรับมืออุบัติเหตุอุบัติภัยตลอดช่วงเทศกาลสงกรานต์ ได้มีการสั่งการให้เพิ่มจุดตรวจและจุดบริการบนถนนเส้นทางสายหลักรวมทั้งสิ้น 45 จุดตรวจ เพื่อคุมเข้มมาตรการ 3 ม. 2 ข. 1 ร. โดยจะมีตำรวจและอาสาสมัครสลับสับเปลี่ยนให้บริการประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ในถนนสายรองตามหมู่บ้านที่มักเกิดอุบัติเหตุจากวัยรุ่นคึกคะนองเมาแล้วขับเล่นน้ำสงกรานต์จนเกิดอุบัติเหตุ ในปีนี้ก็จะให้ องค์การปกครองท้องถิ่น,อาสาสมัคร อปภร. กำนัน ผู้ใหญ่บ้านตั้งจุดตรวจอีก 224 จุด ซึ่งคาดว่าจะใช้กำลังทั้งสิ้นไม่น้อยกว่า 2 พัน
นายสมศักดิ์ กล่าวต่ออีกว่า ได้สั่งการให้ทุกอำเภอและทุกโรงพยาบาลซักซ้อมแผนจำลองการเกิดอุบัติเหตุหมู่ โดยสมมติว่ามีผู้ป่วยจำนวนมากโดยให้ผู้ที่เกี่ยวข้องซักซ้อมการทำงานว่าถ้ามีเหตุเกิดขึ้นจริงก็สามารถช่วยชีวิตนักท่องเที่ยวและนักเดินทางได้อย่างทันท่วงที
อย่างไรก็ตามปีนี้จังหวัดน่าน ถึงแม้จะไม่ได้มีการตั้งเป้าหมายคาดคะเนผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนนก็ตาม แต่ก็คาดว่าจะไม่เกิดจากสถิติในช่วงระยะเวลาเดียวกันของเทศกาลสงกรานต์ปี 2551 ที่ผ่านมา คือ ยอดอุบัติเหตุรวมทั้งหมด 56 ครั้ง มีจำนวนผู้บาดเจ็บ 64 ราย และเสียชีวิต 8 ราย
นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เปิดเผยว่า ประเพณีสงกรานต์ขึ้นระหว่างวันที่ 13 -15 เมษายน 2552 จังหวัดน่าน ตั้งคำขวัญที่ว่า “สงกรานต์สมานสามัคคี สืบทอดประเพณี ทุกชีวีปลอดภัย”ตามประกาศคำขวัญของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี โดยเน้นเรื่องการสืบทอดประเพณีสงกรานต์ วิธีการเล่นน้ำอย่างถูกต้องตามประเพณีดั้งเดิม ด้วยรูปแบบการเล่นน้ำอย่างสุภาพ สนุกสนานบนพื้นฐาน การสร้างความสมานสามัคคี
โดยมีการกำหนดพื้นที่การเล่นน้ำสงกรานต์ไว้ 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 ถนนสุมนเทวราช เริ่มตั้งแต่บริเวณวัดกู่คำไปจนถึงห้างนราไฮเปอร์มาร์ท ได้จัดให้มีการตั้งซุ้มเล่นน้ำสงกรานต์แบบดั้งเดิมและสุภาพ ด้วยการนำน้ำมารดน้ำและขอพรจากผู้สูงอายุหรือผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ
นอกจากนี้ได้กำหนดให้เล่นน้ำสงกรานต์ ปลอดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ รวมทั้งไม่สวมเสื้อสายเดี่ยวเล่นน้ำสงกรานต์อีกด้วย และส่วนที่ 2 ที่บริเวณลานอเนกประสงค์ริมแม่น้ำน่านกำหนดเป็นเป็นพื้นที่เล่นสาดน้ำแบบสงครามน้ำ ซึ่งทางเทศบาลจะจัดน้ำไว้ให้บริการสำหรับผู้เล่นสาดน้ำตลอดในช่วงเทศกาลสงกรานต์
ในส่วนของการรับมืออุบัติเหตุอุบัติภัยตลอดช่วงเทศกาลสงกรานต์ ได้มีการสั่งการให้เพิ่มจุดตรวจและจุดบริการบนถนนเส้นทางสายหลักรวมทั้งสิ้น 45 จุดตรวจ เพื่อคุมเข้มมาตรการ 3 ม. 2 ข. 1 ร. โดยจะมีตำรวจและอาสาสมัครสลับสับเปลี่ยนให้บริการประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ในถนนสายรองตามหมู่บ้านที่มักเกิดอุบัติเหตุจากวัยรุ่นคึกคะนองเมาแล้วขับเล่นน้ำสงกรานต์จนเกิดอุบัติเหตุ ในปีนี้ก็จะให้ องค์การปกครองท้องถิ่น,อาสาสมัคร อปภร. กำนัน ผู้ใหญ่บ้านตั้งจุดตรวจอีก 224 จุด ซึ่งคาดว่าจะใช้กำลังทั้งสิ้นไม่น้อยกว่า 2 พัน
นายสมศักดิ์ กล่าวต่ออีกว่า ได้สั่งการให้ทุกอำเภอและทุกโรงพยาบาลซักซ้อมแผนจำลองการเกิดอุบัติเหตุหมู่ โดยสมมติว่ามีผู้ป่วยจำนวนมากโดยให้ผู้ที่เกี่ยวข้องซักซ้อมการทำงานว่าถ้ามีเหตุเกิดขึ้นจริงก็สามารถช่วยชีวิตนักท่องเที่ยวและนักเดินทางได้อย่างทันท่วงที
อย่างไรก็ตามปีนี้จังหวัดน่าน ถึงแม้จะไม่ได้มีการตั้งเป้าหมายคาดคะเนผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนนก็ตาม แต่ก็คาดว่าจะไม่เกิดจากสถิติในช่วงระยะเวลาเดียวกันของเทศกาลสงกรานต์ปี 2551 ที่ผ่านมา คือ ยอดอุบัติเหตุรวมทั้งหมด 56 ครั้ง มีจำนวนผู้บาดเจ็บ 64 ราย และเสียชีวิต 8 ราย