ตราด - ตลาดเช้าหาดเล็ก การค้าหดตัว พ่อค้าโอดลดกว่าครึ่ง เหตุเศรษฐกิจไม่ดี ระบุ ตม.เข้มงวดเข้า-ออก ขณะที่เศรษฐกิจแย่ ราคาสินค้าแพงไม่จูงใจซื้อ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตราดว่า ตลาดเช้าชายแดนบ้านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ซึ่งจะเป็นตลาดชายแดน ที่ทุกวันจะมีพ่อค้า-แม่ค้าชาว จ.เกาะกง ประเทศกัมพูชาเดินทางข้ามจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก ในเวลา 07.00 น. ของทุกวัน จำนวน 200-300 คนเพื่อซื้อสินค้าทั้งอาหารสด ผลไม้ ผัก และปลาน้ำจืด
ปรากฏว่า หลังจากด่านชายแดนเปิดแล้ว พ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาต่างรีบมาซื้อสินค้าในตลาด แล้วนำขึ้นรถเข็นกลับไปสู่จุดผ่านแดนถาวรบ้าน หาดเล็ก เพื่อเดินทางกลับ จ.เกาะกง อย่างไรก็ตาม บรรยากาศคงเป็นไปด้วยความซบเซา พ่อค้าแม่ค้าไทยขายสินค้าได้ไม่มากเหมือนทุกวัน และพ่อค้าแม่ค้า จ.เกาะกง ก็เลือกซื้อสินค้าเฉพาะที่สั่งซื้อไว้เท่านั้น ขณะที่สินค้าอื่นๆ ไม่สนใจ รวมทั้งยังมีราคาแพงกว่าเดิม
นายชาตรี ไข่แก้ว พ่อค้าขายผลไม้จาก จ.จันทบุรี ที่นำทุเรียนพันธุ์กระดุม, มะละกอ, ลองกอง มาจำหน่ายในตลาดชายแดนบ้านหาดเล็ก กล่าวว่า รายได้ไม่ดีเหมือนก่อน เนื่องจากราคมผลไม้มีราคาสูงขึ้น โดยทุเรียนพันธุ์กระดุม ราคา 42 บาท/กก.,พันธุ์หมอนทอง 56 บาท/กก. ซึ่งราคาผลไม้มีราคาสูงกว่าทุกปี โดยราคาแพงมาจากต้นทาง คือ ที่สวนผลไม้ ส่วนผลไม้พ่อค้า-แม่ค้ากัมพูชาไม่สนใจมากนัก ที่สนใจก็ซื้อไปเฉพาะที่สั่งเท่านั้น ซึ่งผลไม้เหล่านี้มีราคาแพงเกินไป ทำให้ชาวกัมพูชาไม่ซื้อไปรับประทาน อีกทั้งผลไม้ จากเวียดนามทั้งทุเรียนและเงาะก็เข้ามาตีตลาดสินค้าไทยและมีราคาถูกกว่าด้วย ขณะเดียวกันเศรษฐกิจของกัมพูชา ก็ไม่ดีเช่นเดียวกับไทย ฮ่องกงก็สั่งซื้อไป ที่ผ่านมายอดขายลดลงกว่า 50%
ขณะที่ นางวิมล สังข์ทอง แม่ค้าขายผักผลไม้และสินค้าอื่นๆ กล่าวว่า เศรษฐกิจไม่ดีทำให้ชาวกัมพูชาไม่มี กำลังซื้อ พ่อค้าแม่ค้าเกาะกงจึงซื้อสินค้าน้อยลงและเท่าที่จำเป็น ยอดขายสินค้าที่ตลาดหาดเล็ก ที่เคยได้รับวันละ 1-2 ล้านบาท และมีพ่อค้าแม่ค้ามาขายอย่างคึกคัก ภาพนั้นหายไป พ่อค้าแม่ค้ากัมพูชาซื้อสินค้าบางชนิดและซื้อ เท่าที่สั่งซื้อไว้เท่านั้น ยอดขายไม่น่าจะเกิน 1 ล้านบาท/วัน ขณะเดียวกันกับการตั้งตลาดในพื้นที่ปัจจุบันห่างจากชาย แดนถึง 900-1,000 เมตร พ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาต้องนั่งรถจักรยานยนต์รับจ้างเข้ามาทำให้ไม่สะดวก
“พื้นที่การค้าปัจจุบันไม่สะดวกและไม่มีที่วางขายสินค้ามาก การเข้าออกชายแดนมีการเข้มงวดมากขึ้น เศรษฐกิจของไทยและกัมพูชาก็ไม่ดีจึงทำให้มูลค่าการซื้อสินค้าของกัมพูชามีแนวโน้มลดลงในอนาคตอันใกล้นี้ ส่วนเรื่องความขัดแย้งระหว่าง 2 ประเทศไม่น่าจะมีส่วนเข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องนี้มากนัก”
สำหรับตลาดชายแดนบ้านหาดเล็กจะมีพ่อค้าแม่ค้าชายแดนขายอยู่จำนวน 20-30 แห่ง ขณะที่พ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาจะเข้ามาวันละ 200-300 คน และมีมูลค่าการค้า 2-3 ล้านบาทต่อวัน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตราดว่า ตลาดเช้าชายแดนบ้านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ซึ่งจะเป็นตลาดชายแดน ที่ทุกวันจะมีพ่อค้า-แม่ค้าชาว จ.เกาะกง ประเทศกัมพูชาเดินทางข้ามจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก ในเวลา 07.00 น. ของทุกวัน จำนวน 200-300 คนเพื่อซื้อสินค้าทั้งอาหารสด ผลไม้ ผัก และปลาน้ำจืด
ปรากฏว่า หลังจากด่านชายแดนเปิดแล้ว พ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาต่างรีบมาซื้อสินค้าในตลาด แล้วนำขึ้นรถเข็นกลับไปสู่จุดผ่านแดนถาวรบ้าน หาดเล็ก เพื่อเดินทางกลับ จ.เกาะกง อย่างไรก็ตาม บรรยากาศคงเป็นไปด้วยความซบเซา พ่อค้าแม่ค้าไทยขายสินค้าได้ไม่มากเหมือนทุกวัน และพ่อค้าแม่ค้า จ.เกาะกง ก็เลือกซื้อสินค้าเฉพาะที่สั่งซื้อไว้เท่านั้น ขณะที่สินค้าอื่นๆ ไม่สนใจ รวมทั้งยังมีราคาแพงกว่าเดิม
นายชาตรี ไข่แก้ว พ่อค้าขายผลไม้จาก จ.จันทบุรี ที่นำทุเรียนพันธุ์กระดุม, มะละกอ, ลองกอง มาจำหน่ายในตลาดชายแดนบ้านหาดเล็ก กล่าวว่า รายได้ไม่ดีเหมือนก่อน เนื่องจากราคมผลไม้มีราคาสูงขึ้น โดยทุเรียนพันธุ์กระดุม ราคา 42 บาท/กก.,พันธุ์หมอนทอง 56 บาท/กก. ซึ่งราคาผลไม้มีราคาสูงกว่าทุกปี โดยราคาแพงมาจากต้นทาง คือ ที่สวนผลไม้ ส่วนผลไม้พ่อค้า-แม่ค้ากัมพูชาไม่สนใจมากนัก ที่สนใจก็ซื้อไปเฉพาะที่สั่งเท่านั้น ซึ่งผลไม้เหล่านี้มีราคาแพงเกินไป ทำให้ชาวกัมพูชาไม่ซื้อไปรับประทาน อีกทั้งผลไม้ จากเวียดนามทั้งทุเรียนและเงาะก็เข้ามาตีตลาดสินค้าไทยและมีราคาถูกกว่าด้วย ขณะเดียวกันเศรษฐกิจของกัมพูชา ก็ไม่ดีเช่นเดียวกับไทย ฮ่องกงก็สั่งซื้อไป ที่ผ่านมายอดขายลดลงกว่า 50%
ขณะที่ นางวิมล สังข์ทอง แม่ค้าขายผักผลไม้และสินค้าอื่นๆ กล่าวว่า เศรษฐกิจไม่ดีทำให้ชาวกัมพูชาไม่มี กำลังซื้อ พ่อค้าแม่ค้าเกาะกงจึงซื้อสินค้าน้อยลงและเท่าที่จำเป็น ยอดขายสินค้าที่ตลาดหาดเล็ก ที่เคยได้รับวันละ 1-2 ล้านบาท และมีพ่อค้าแม่ค้ามาขายอย่างคึกคัก ภาพนั้นหายไป พ่อค้าแม่ค้ากัมพูชาซื้อสินค้าบางชนิดและซื้อ เท่าที่สั่งซื้อไว้เท่านั้น ยอดขายไม่น่าจะเกิน 1 ล้านบาท/วัน ขณะเดียวกันกับการตั้งตลาดในพื้นที่ปัจจุบันห่างจากชาย แดนถึง 900-1,000 เมตร พ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาต้องนั่งรถจักรยานยนต์รับจ้างเข้ามาทำให้ไม่สะดวก
“พื้นที่การค้าปัจจุบันไม่สะดวกและไม่มีที่วางขายสินค้ามาก การเข้าออกชายแดนมีการเข้มงวดมากขึ้น เศรษฐกิจของไทยและกัมพูชาก็ไม่ดีจึงทำให้มูลค่าการซื้อสินค้าของกัมพูชามีแนวโน้มลดลงในอนาคตอันใกล้นี้ ส่วนเรื่องความขัดแย้งระหว่าง 2 ประเทศไม่น่าจะมีส่วนเข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องนี้มากนัก”
สำหรับตลาดชายแดนบ้านหาดเล็กจะมีพ่อค้าแม่ค้าชายแดนขายอยู่จำนวน 20-30 แห่ง ขณะที่พ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาจะเข้ามาวันละ 200-300 คน และมีมูลค่าการค้า 2-3 ล้านบาทต่อวัน