ศรีสะเกษ - เผยทหารไทยปะทะเดือดทหารกัมพูชายก 2 เปิดฉากยิงถล่มตลอดแนวชายแดนเขาวิหาร นานกว่า 2 ชั่วโมง ส่งผลทหารไทยเสียชีวิต 2 นาย บาดเจ็บมากกว่า 7 ราย เขมรดับ 2 เจ็บ 9 ราย ด้านรองแม่ทัพภาคที่ 2 นำคณะเจรจาสงบศึกอีกรอบหยุดยิงสิ้นเชิง 17.00 น.เผยทหารเขมรยิงอาร์พีจีถล่มศูนย์โอทอปอุทยานเขาพระวิหารไทยพังยับ ส่วนชุมชนบ้านเรือน-ร้านค้าชาวกัมพูชาบริเวณทางขึ้นปราสาทพระวิหารเกิดเพลิงไหม้-คลังแสงระเบิดต่อเนื่องวอดกว่า 100 หลัง
วันนี้ (3 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.00 น.ที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้เกิดการยิงปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาตลอดแนวการตรึงกำลังทหาร ซึ่งเป็นการเปิดฉากปะทะกันเป็นครั้งที่ 2 ในวันนี้ หลังจากมีการปะทะกันครั้งแรกเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
โดยทหารกัมพูชาได้ใช้ปืน ปรส., ปืน ค.และ เครื่องยิงลูกจรวดอาร์พีจี ยิงถล่มใส่ทหารไทยที่ตรึงกำลังตามแนวชายแดนรอบเขาพระวิหาร โดยเริ่มจากจุดภูมะเขือ ทางทิศตะวันตกของเขาพระวิหารไปตลอดแนว และ มีการยิงปืนใหญ่ในหลายจุด ซึ่งฝ่ายทหารไทยได้ใช้อาวุธประจำกายยิงตอบโต้และได้มีการยิงปะทะกันตลอดแนวที่มีการตรึงกำลังนานกว่า 2 ชั่วโมง
โดยการปะทะกันในครั้งนี้ ทำให้บ้านเรือนของชาวกัมพูชา ซึ่งเป็นชุมชนร้านค้าจำหน่ายของที่ระลึกที่ปลูกสร้างอยู่บริเวณเชิงบันไดทางขึ้นปราสาทพระวิหารได้เกิดเพลิงไหม้ขึ้น ทำให้ร้านค้าของชาวกัมพูชาถูกไฟไหม้ประมาณ 30 หลัง และได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นมาจากบริเวณร้านค้าที่ถูกไฟไหม้หลาย 10 ครั้งติดต่อกัน ซึ่งคาดว่าบริเวณร้านค้าดังกล่าวเป็นจุดที่ทหารกัมพูชาใช้เป็นคลังแสงในการเก็บอาวุธสงครามไว้ต่อสู้กับทหารไทย
จากการปะทะกันในครั้งนี้ ทำให้ทหารไทยเสียชีวิต 2 นาย คือ พลทหารผดุงศักดิ์ หงษา พลทหารสังกัด ร.6 พัน 2 กรมทหารราบที่ 16 ค่ายบดินทร์เดชา จ.ยโสธร และ พลทหารวุฒิไกร เวฬุวนารักษ์ และมีทหารไทยได้รับบาดเจ็บอีกมากกว่า 7 ราย ได้แก่ 1.ส.อ.อานนท์ สีทาน 2.ส.ท.สุริยะ ยิ้มบุตร 3.ส.ท.ศรายุทธ ศรีรัตน์ 4.พลทหารวิจิตร ลี้รัตน์ 5.พลทหารเด็ดเดี่ยว วลัยลักษณ์ 6.พลทหารชัยสิทธิ์ นาเมือง 7.พลทหารอภิวัฒน์ ศรีวริศษ์ ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกันที่บริเวณสถูปคู่ และ ที่ศาลานวดแผนโบราณ ได้รับความเสียหายอย่างหนัก
ส่วนฝ่ายทหารกัมพูชา มีรายงานเสียชีวิต 2 นาย และผู้บาดเจ็บ 9 นาย โดยทางกองกำลังสุรนารี ได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ จำนวน 2 ลำ มารับผู้บาดเจ็บเพื่อส่งต่อไปยังโรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี เพื่อให้แพทย์ทำการรักษาต่อไปแล้ว
ต่อมาเวลา 16.25 น.วันเดียวกันนี้ พล.ต.ธวัชชัย สมุทรสาคร รองแม่ทัพภาคที่ 2 และคณะ ได้เดินทางขึ้นไปที่วัดแก้วศิขาคีรีสะวาระ บนเขาพระวิหาร เพื่อเจรจากับ พล.ท.ชอทาวี ผบ.ภูมิภาคทหารประจำ จ.พระวิหาร และ พล.ท.ซรัย ดึ๊ก ผู้บัญชากองพลสนับสนุนที่ 3 ของกัมพูชา เป็นครั้งที่ 2 เพื่อเจรจายุติการสู้รบในครั้งนี้ ซึ่งการเจรจาก็ได้ผล โดยทั้งสองฝ่ายได้สั่งหยุดยิงกันอย่างสิ้นเชิงเมื่อเวลาประมาณ 17.00 น.ที่ผ่านมา
ทางด้าน พล.ต.ธวัชชัย สมุทรสาคร รองแม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า การที่มีการยิงปะทะกันขึ้นในรอบ 2 ครั้งนี้เป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นมาอีกครั้ง อีกทั้งอยู่ในช่วงที่ทหารทั้ง 2 ฝ่ายต่างระมัดระวังตัวกันอยู่แล้ว จึงได้เกิดการยิงปะทะกันขึ้น และขณะนี้เหตุการณ์ก็ได้เข้าสู่ภาวะปกติเช่นเดิมแล้ว ซึ่งตนจะได้รายงานข้อเท็จจริงทั้งหมดที่เกิดขึ้นไปให้ พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 ได้ทราบต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับการยิงปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาในครั้งนี้เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี ที่มีการปะทะกันถึง 2 ครั้งในวันเดียว คือ ช่วงเช้า 1 ครั้ง และช่วงบ่าย 1 ครั้ง ส่งผลให้ทหารกัมพูชา ซึ่งมีรายงานข่าวแจ้งว่าเสียชีวิต 2 นาย บาดเจ็บ 9 นาย ส่วนทหารไทยเสียชีวิต 2 นาย และบาดเจ็บอีก 7-10 รนาย โดยขณะนี้ทางผู้บังคับบัญชาหน่วยเหนือของทหารทั้ง 2 ฝ่ายได้สั่งกำชับให้ทหารทุกนายอยู่ในกรอบ ไม่กระทำการใดที่เป็นการยั่วยุฝ่ายตรงข้าม เพื่อไม่ให้เกิดการปะทะกันอีกต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในระหว่างที่มีการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชานั้น ปรากฏว่า ลูกระเบิดอาร์พีจีที่ถูกยิงมาจากฝ่ายกัมพูชาได้เข้ามาตกลงใส่หลังคาศูนย์จำหน่ายสินค้าโอทอป 1 ลูก ทำให้หลังคาของศูนย์จำหน่ายสินค้าโอทอป บนอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารได้รับความเสียหายพังยับเยิน และยังมีลูกระเบิดอาร์พีจีอีก 1 ลูกตกที่บริเวณถนนหน้าร้านค้าบนอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร แต่ไม่ระเบิด ซึ่งเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้ระเบิดได้ทำการเก็บกู้ออกไปแล้ว และล่าสุด มีรายงานข่าวแจ้งว่า ที่บริเวณชุมชนบ้านเรือน-ร้านค้าของชาวกัมพูชา บริเวณทางขึ้นปราสาทพระวิหารได้ถูกเพลิงไหม้เสียหายจำนวนกว่า 100 หลังคาแล้ว
