ระยอง - จังหวัดระยอง เตรียมแผนรับมือผลไม้ล้นตลาด คาดว่า ผลผลิตจะออกสู่ตลาดมากในเดือนพฤษภาคมถึงต้นเดือนมิถุนายน
นายสมคิด อธิพงษ์อาภรณ์ เกษตรจังหวัดระยอง เปิดเผยว่า สถานการณ์ผลไม้ของจังหวัดระยองในปีนี้ออกล่ากว่าปีก่อนๆ ที่ผ่านมา ทั้งทุเรียน มังคุด เงาะ ฯลฯ ซึ่งในปีนี้มีประมาณการผลผลิตที่จะออกสู่ตลาดโดยทุเรียนมีผลผลิตรวม 93,527 ตัน เงาะ 12,923 ตัน มังคุด 14,327 ตัน และลองกอง 2,700 ตัน โดยช่วงระยะเวลาที่มีผลผลิตออกสู่ตลาดมากจะเป็นช่วงปลายเดือนพฤษภาคมถึงต้นเดือนมิถุนายน
เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ทุเรียนกับเงาะจะมีผลผลิตลดน้อยลง เนื่องจากเกษตรกรชาวสวนลดพื้นที่หันไปปลูกยางพาราเพิ่มขึ้น ส่วนมังคุดผลผลิตเพิ่มขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมามีฤดูหนาวที่ยาวนาน ทำให้ผลผลิตติดหลายรุ่น
ในส่วนของการเตรียมการแก้ไขปัญหาราคาผลไม้ตกต่ำในช่วงที่มีผลผลิตออกสู่ตลาดมากนั้น มีการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง สหกรณ์จังหวัด ไปยังสหกรณ์ทั่วประเทศ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กระจายผลผลิตออกไปยัง สกต.เขตภาคเหนือและภาคกลาง สำนักงานการค้าภายในจังหวัดประสานตลาดไปยังส่วนราชการในเขตภาคกลางและภาคเหนือ สำนักงานพาณิชย์จังหวัด ประสานตลาดไปยังส่วนราชการในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร และการนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด กระจายผลผลิตในเขตนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด
อย่างไรก็ตาม จังหวัดยังมีแผนการสำรองเงิน คชก. จำนวนรวม 42 ล้าน มารองรับการแก้ไขปัญหาราคาผลไม้ตกต่ำในช่วงผลผลิตออกสู่ตลาดมากดังกล่าวสำหรับกลุ่มเกษตรกร จำนวน 25 กลุ่ม ที่เข้าร่วมโครงการฯ เพื่อจัดซื้อกล่องบรรจุภัณฑ์ใส่ผลผลิตผลไม้ 20,000 กล่อง (6 ,000,000 บาท) กองทุนหมุนเวียน เงินยืมปลอดดอกเบี้ย (30,000,000 บาท)และชดเชยค่าขนส่งและค่าสูญเสียน้ำหนัก (6,000,000 บาท) ในการกระจายผลผลิต ทุเรียน น้ำหนัก 1,000 ตัน มังคุด 1,000 ตันและเงาะ 1,000 ตัน ไปสู่กลุ่มตลาดในภูมิภาคต่างๆ ในช่วงดังกล่าวอีกด้วย โดยเน้นในเรื่องของคุณภาพผลไม้โดยเฉพาะทุเรียนอย่างเป็นรูปธรรมเป็นหลัก
นายสมคิด อธิพงษ์อาภรณ์ เกษตรจังหวัดระยอง เปิดเผยว่า สถานการณ์ผลไม้ของจังหวัดระยองในปีนี้ออกล่ากว่าปีก่อนๆ ที่ผ่านมา ทั้งทุเรียน มังคุด เงาะ ฯลฯ ซึ่งในปีนี้มีประมาณการผลผลิตที่จะออกสู่ตลาดโดยทุเรียนมีผลผลิตรวม 93,527 ตัน เงาะ 12,923 ตัน มังคุด 14,327 ตัน และลองกอง 2,700 ตัน โดยช่วงระยะเวลาที่มีผลผลิตออกสู่ตลาดมากจะเป็นช่วงปลายเดือนพฤษภาคมถึงต้นเดือนมิถุนายน
เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ทุเรียนกับเงาะจะมีผลผลิตลดน้อยลง เนื่องจากเกษตรกรชาวสวนลดพื้นที่หันไปปลูกยางพาราเพิ่มขึ้น ส่วนมังคุดผลผลิตเพิ่มขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมามีฤดูหนาวที่ยาวนาน ทำให้ผลผลิตติดหลายรุ่น
ในส่วนของการเตรียมการแก้ไขปัญหาราคาผลไม้ตกต่ำในช่วงที่มีผลผลิตออกสู่ตลาดมากนั้น มีการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง สหกรณ์จังหวัด ไปยังสหกรณ์ทั่วประเทศ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กระจายผลผลิตออกไปยัง สกต.เขตภาคเหนือและภาคกลาง สำนักงานการค้าภายในจังหวัดประสานตลาดไปยังส่วนราชการในเขตภาคกลางและภาคเหนือ สำนักงานพาณิชย์จังหวัด ประสานตลาดไปยังส่วนราชการในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร และการนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด กระจายผลผลิตในเขตนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด
อย่างไรก็ตาม จังหวัดยังมีแผนการสำรองเงิน คชก. จำนวนรวม 42 ล้าน มารองรับการแก้ไขปัญหาราคาผลไม้ตกต่ำในช่วงผลผลิตออกสู่ตลาดมากดังกล่าวสำหรับกลุ่มเกษตรกร จำนวน 25 กลุ่ม ที่เข้าร่วมโครงการฯ เพื่อจัดซื้อกล่องบรรจุภัณฑ์ใส่ผลผลิตผลไม้ 20,000 กล่อง (6 ,000,000 บาท) กองทุนหมุนเวียน เงินยืมปลอดดอกเบี้ย (30,000,000 บาท)และชดเชยค่าขนส่งและค่าสูญเสียน้ำหนัก (6,000,000 บาท) ในการกระจายผลผลิต ทุเรียน น้ำหนัก 1,000 ตัน มังคุด 1,000 ตันและเงาะ 1,000 ตัน ไปสู่กลุ่มตลาดในภูมิภาคต่างๆ ในช่วงดังกล่าวอีกด้วย โดยเน้นในเรื่องของคุณภาพผลไม้โดยเฉพาะทุเรียนอย่างเป็นรูปธรรมเป็นหลัก