สระแก้ว - กกต.จังหวัดสระแก้ว เรียก 4 ล้านบาทข้อหาหมิ่น “กชวรรณ” อดีต สนนท.รับว่าความ เผย 10 เม.ย.มุมมิบแต่งตั้งประธาน กกต.โดยไม่สรรหา แต่ใช้วิธีการหยิบใส่
นายอัมรินทร์ ยี่เฮง เลขาธาการองค์กรประชาธิปไตยภาคประชาชนจังหวัดสระแก้ว เผยว่า เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2552 ที่ผ่านมา ตนได้เดินทางไปศาลประจำจังหวัด ตามนัดกรณีที่ ที่ถูก กกต.จังหวัดฟ้องร้องข้อหาหมิ่นประมาท โดยศาลได้นัดให้มาสืบพยานโจทก์ ในวันที่ 9-11 กันยายน 2552 โดยพนักงานอัยการได้ยื่นคำฟ้องแพ่งของคณะกรรมการการเลือกตั้งให้แก่ศาล ได้เรียกค่าเสียหายจำนวน 4 คน คือ พันเอกสุรียา ปาวรีย์ นายศรันรักษ์ ประสานพันธ์ นายยุทธนา นุชนาท นางสาวอรนุช ไวนุชสิ รวมเป็นจำนวนเงิน 4 ล้านบาท และคิดดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีนับตั้งแต่วันทำละเมิดจนกว่าจะชำระเสร็จ
นายอัมรินทร์ กล่าวว่า วันนี้สิ่งที่ตนทำมานั้นทำเพื่อประโยชน์ส่วนร่วมทั้งสิ้น ไม่เป็นส่วนตัวเลยแม้แต่น้อย กกต.จังหวัดสระแก้ว จะเรียกค่าเสียหาเท่าไรก็เรียกไป แต่ตนเองอยากจะเชิญพ่อแม่พี่น้องประชาชนเข้าร่วมรับฟังในการสืบพยานโจทก์ ในวันที่ 9-11 กันยายนนี้ ส่วนทนายที่จะมาว่าความให้กับทางตนเองนั้นคือ นางสาวกชวรรณ ชัยบุตร อดีตเลขาธิการสมาพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย ตนจึงอยากเชิญชวนให้มารับฟังเพื่อเป็นกรณีศึกษา และเป็นคดีประวัติศาสตร์ ที่ประชาชนควรศึกษา และร่วมพิสูจน์พยานหลักฐานกัน ว่าใครกันที่ปล่อยให้โจรการเมืองเข้าไปปล้นประเทศชาติ
ในขณะนี้ กกต.จังหวัดสระแก้ว เหลือเพีง 3 คน คือ นายสำเนียง จันยาง ซึ่งเป็นทั้งพัฒนาการจังหวัด โยที่ผ่านมาเดินทางไปดูงานกับนักการเมืองบ่อยมาก นายยุทธนา นุชนาทนายอำเภอโคกสูง นายศรันรัตน์ ประสานพันธ์ อดีตผู้พิพากษาสมทบจังหวัดสระแก้ว ส่วน ประธาน กกต.จว.นั้นลาออกเพราะทนแรงเสียดทานทางสังคมไม่ไหวและมีนักการเมืองเดินทางเข้าหาบ่อย ส่วนนางสาวอรนุช ไวนุสิ นั้นเป็นคลังจังหวัดย้ายไปรับตำแหน่งที่จันทบุรี ต้องหมดสภาพจากการเป็น กกต. ซึ่งในขณะนี้มีการเชิญ พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ ผบก.จว.สก และนายนันธวัตร ฐิติพัค อัยการประจำกรม (สคช.) จังหวัดสระแก้ว มาเป็น กกต.จว.ทั้งๆที่ไม่มีการเปิดรับสมัครและสรรหาใหม่แทน 2 ตำแหน่งที่ว่างไว้
แต่ทาง กกต.จังหวัดสระแก้วจะทำการแต่งตั่งประธานกรรมการการเลือกตั้งใหม่ ในวันที่ 10 เมษายน 2552 เวลา 16.30 น.โดยอ้างว่า กกต.กลางเป็นผู้ทาบทามแบบไม่มีการเปิดรับสมัครแต่อย่างใด เท่ากับว่า กระบวนการของ กกต.กลางนั้นไม่โปรงใส ไม่เปิดโอกาสให้ผู้ที่มีความตั้งใจมาทำงานแสดงวิสัยทัศน์ กกต.จว.เป็นองค์กรที่มีความละเอียดอ่อนและมีผลต่อสังคมการเมืองเป็นอย่างมาก การทำอะไรนั้นต้องเปิดเผยให้ประชาชนรับรู้ทุกอย่างไม่ใช่ทำอย่างเงียบๆ และไม่เปิดเผย
นายอัมรินทร์ เผยต่อว่า เป็นที่น่าสังเกต ว่าทำการเลือกประธานกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนั้นทำอย่างไม่เปิดเผย มีการล็อกตัวเอาไว้ แล้ว 2 คน คือ พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ ผบก.จว.สก.และ นายนันธวัตร ฐิติพัค อัยการประจำกรม (สคช.) จังหวัดสระแก้ว เท่ากับว่านำมาแทน 2 ตำแหน่งที่ขาดหายไปพอดี ทำไมไม่เปิดรับสมัครเพราะยังมีผู้ที่ต้องการทำงานในด้านนี้อีกมาก และตามที่ได้โทรไปสอบถามกับ กกต.นั้น กกต.ได้เปิดเผยว่าเป็นมติของ กกต.กลางได้เลือกเอาสองท่านนี้มาเป็นอยากถามว่า กกต.กลางรู้จักสองท่านนี้ดีได้อย่างไรมีการตรวจสอบพฤติกรรมเชิงลึกหรือไม่ น้าจะเปิดโอกาสให้สังคมได้เข้าไปตรวจสอบด้วย ไม่ใช่แอบเอามาใส่แบบนี้
นายอัมรินทร์ ยี่เฮง เลขาธาการองค์กรประชาธิปไตยภาคประชาชนจังหวัดสระแก้ว เผยว่า เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2552 ที่ผ่านมา ตนได้เดินทางไปศาลประจำจังหวัด ตามนัดกรณีที่ ที่ถูก กกต.จังหวัดฟ้องร้องข้อหาหมิ่นประมาท โดยศาลได้นัดให้มาสืบพยานโจทก์ ในวันที่ 9-11 กันยายน 2552 โดยพนักงานอัยการได้ยื่นคำฟ้องแพ่งของคณะกรรมการการเลือกตั้งให้แก่ศาล ได้เรียกค่าเสียหายจำนวน 4 คน คือ พันเอกสุรียา ปาวรีย์ นายศรันรักษ์ ประสานพันธ์ นายยุทธนา นุชนาท นางสาวอรนุช ไวนุชสิ รวมเป็นจำนวนเงิน 4 ล้านบาท และคิดดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีนับตั้งแต่วันทำละเมิดจนกว่าจะชำระเสร็จ
นายอัมรินทร์ กล่าวว่า วันนี้สิ่งที่ตนทำมานั้นทำเพื่อประโยชน์ส่วนร่วมทั้งสิ้น ไม่เป็นส่วนตัวเลยแม้แต่น้อย กกต.จังหวัดสระแก้ว จะเรียกค่าเสียหาเท่าไรก็เรียกไป แต่ตนเองอยากจะเชิญพ่อแม่พี่น้องประชาชนเข้าร่วมรับฟังในการสืบพยานโจทก์ ในวันที่ 9-11 กันยายนนี้ ส่วนทนายที่จะมาว่าความให้กับทางตนเองนั้นคือ นางสาวกชวรรณ ชัยบุตร อดีตเลขาธิการสมาพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย ตนจึงอยากเชิญชวนให้มารับฟังเพื่อเป็นกรณีศึกษา และเป็นคดีประวัติศาสตร์ ที่ประชาชนควรศึกษา และร่วมพิสูจน์พยานหลักฐานกัน ว่าใครกันที่ปล่อยให้โจรการเมืองเข้าไปปล้นประเทศชาติ
ในขณะนี้ กกต.จังหวัดสระแก้ว เหลือเพีง 3 คน คือ นายสำเนียง จันยาง ซึ่งเป็นทั้งพัฒนาการจังหวัด โยที่ผ่านมาเดินทางไปดูงานกับนักการเมืองบ่อยมาก นายยุทธนา นุชนาทนายอำเภอโคกสูง นายศรันรัตน์ ประสานพันธ์ อดีตผู้พิพากษาสมทบจังหวัดสระแก้ว ส่วน ประธาน กกต.จว.นั้นลาออกเพราะทนแรงเสียดทานทางสังคมไม่ไหวและมีนักการเมืองเดินทางเข้าหาบ่อย ส่วนนางสาวอรนุช ไวนุสิ นั้นเป็นคลังจังหวัดย้ายไปรับตำแหน่งที่จันทบุรี ต้องหมดสภาพจากการเป็น กกต. ซึ่งในขณะนี้มีการเชิญ พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ ผบก.จว.สก และนายนันธวัตร ฐิติพัค อัยการประจำกรม (สคช.) จังหวัดสระแก้ว มาเป็น กกต.จว.ทั้งๆที่ไม่มีการเปิดรับสมัครและสรรหาใหม่แทน 2 ตำแหน่งที่ว่างไว้
แต่ทาง กกต.จังหวัดสระแก้วจะทำการแต่งตั่งประธานกรรมการการเลือกตั้งใหม่ ในวันที่ 10 เมษายน 2552 เวลา 16.30 น.โดยอ้างว่า กกต.กลางเป็นผู้ทาบทามแบบไม่มีการเปิดรับสมัครแต่อย่างใด เท่ากับว่า กระบวนการของ กกต.กลางนั้นไม่โปรงใส ไม่เปิดโอกาสให้ผู้ที่มีความตั้งใจมาทำงานแสดงวิสัยทัศน์ กกต.จว.เป็นองค์กรที่มีความละเอียดอ่อนและมีผลต่อสังคมการเมืองเป็นอย่างมาก การทำอะไรนั้นต้องเปิดเผยให้ประชาชนรับรู้ทุกอย่างไม่ใช่ทำอย่างเงียบๆ และไม่เปิดเผย
นายอัมรินทร์ เผยต่อว่า เป็นที่น่าสังเกต ว่าทำการเลือกประธานกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนั้นทำอย่างไม่เปิดเผย มีการล็อกตัวเอาไว้ แล้ว 2 คน คือ พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ ผบก.จว.สก.และ นายนันธวัตร ฐิติพัค อัยการประจำกรม (สคช.) จังหวัดสระแก้ว เท่ากับว่านำมาแทน 2 ตำแหน่งที่ขาดหายไปพอดี ทำไมไม่เปิดรับสมัครเพราะยังมีผู้ที่ต้องการทำงานในด้านนี้อีกมาก และตามที่ได้โทรไปสอบถามกับ กกต.นั้น กกต.ได้เปิดเผยว่าเป็นมติของ กกต.กลางได้เลือกเอาสองท่านนี้มาเป็นอยากถามว่า กกต.กลางรู้จักสองท่านนี้ดีได้อย่างไรมีการตรวจสอบพฤติกรรมเชิงลึกหรือไม่ น้าจะเปิดโอกาสให้สังคมได้เข้าไปตรวจสอบด้วย ไม่ใช่แอบเอามาใส่แบบนี้