อุบลราชธานี - นักวิชาการชี้ “ทักษิณ” เปลี่ยนเป้าโจมตีศาล และองคมนตรี เพื่อสร้างประเด็นข่าวให้สื่อเรียกคะแนนสงสารให้พรรคเพื่อไทย หลังพ่ายในสภาหมดรูป พร้อมเตือนอย่าเร่งสถานการณ์ เพราะไม่เป็นผลดีต่อสังคมและประเทศชาติ
นายสุเชาว์ มีหนองหว้า อาจารย์สาขาการปกครองท้องถิ่น คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี กล่าวถึงท่าทีการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่เปลี่ยนเป้าโจมตีรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มาโจมตีสถานบันศาลและองคมนตรีว่า เกิดจากการอภิปายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ฝ่ายค้านไม่สามารถทำอะไรฝ่ายรัฐบาลได้ จึงเป็นจุดให้ฝ่ายค้านมองว่า ถ้าปล่อยให้รัฐบาลสร้างผลงานอยู่เป็นรัฐบาลได้ยาวนานขึ้น จะส่งผลกระทบต่อคะแนนนิยมฝ่ายค้านลดลง พ.ต.ท.ทักษิณ จึงต้องออกมาพยายามรักษาความนิยมของพรรคเพื่อไทยเอาไว้
สิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณทำได้คือ การสื่อสารกับประชาชนโดยการโฟนอินระหว่างประเทศ แต่จุดขายที่ให้การโฟนอินเป็นที่สนใจของสื่อมวลชนก็ต้องพุ่งเป้าโจมตีเป้าหมายใหญ่ที่เป็นสถาบันหลัก เพื่อทำให้การกระพือข่าวได้อย่างต่อเนื่อง การโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ จะเป็นความรู้สึกที่อินระหว่างฐานเสียงของ พ.ต.ท.ทักษิณกับตัว เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณมักพูดว่า ตัวเขาถูกกลั่นแกล้ง ซึ่งเป็นเรื่องที่ พ.ต.ท.ทักษิณใช้อ้างในการโฟนอินเป็นประจำ
การเปลี่ยนเป้าโจมตีมาที่สถาบันหลัก มีประเด็นหลักคือเพื่อสร้างค่านิยมดึงฐานเสียงที่ยังจงรักภักดีต่อพรรคเพื่อไทยให้กลับมานิยมด้วยคะแนนสงสาร พร้อมใส่ข้อหาว่ามีกลุ่มฝ่ายตรงข้ามร่วมกันปฏิวัติ พ.ต.ท.ทักษิณ จนอยู่ในประเทศไม่ได้
นายสุเชาว์กล่าวต่อว่า แต่การกระทำดังกล่าวจะมีผลเฉพาะมวลชนระดับล่าง สำหรับมวลชนระดับกลางที่ติดตามข้อมูลข่าวสารไม่เชื่อถือ และทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณได้รับผลกระทบต่อเครดิสของตัว พ.ต.ท.ทักษิณเอง
นักวิชาการรายนี้ยังกล่าวเตือนว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณเร่งสถานการณ์ให้สุกงอมเร็วขึ้นไม่เป็นผลดีต่อสังคมและประเทศ เพราะอาจเกิดความรุนแรงขึ้นในประเทศได้
