หนองคาย - ผู้ประกันตนหนองคายตรวจสอบรายชื่อรอรับเช็ค 2 พันบาท ก่อนถึงวันนัดจ่ายจริง ขณะที่เจ้าหน้าที่พร้อมจ่ายเช็คแล้ว กำหนดจุดจ่ายเช็ค 3 แห่ง ขยายโอกาสรับเช็ค 90 วัน
เมื่อเวลาประมาณ 08.30 น.วันนี้ (25 มี.ค.) ได้มีประชาชนมาตรวจสอบรายชื่อผู้ที่ได้รับเช็คช่วยชาติ 2,000 บาท ที่สำนักงานประกันสังคมจังหวัดหนองคายได้ติดประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับเช็คในแต่ละอำเภอ ซึ่งจังหวัดหนองคายมีผู้ที่ยื่นลงทะเบียนขอรับการช่วยเหลือเช็คในรอบแรกกว่า 5 หมื่นคน ทั้งผู้ประกันตนที่ทำงานอยู่ในสถานประกอบการ ตามมาตรา 33 และผู้ประกันตนที่ถูกเลิกจ้าง ไม่ได้ทำงาน แต่ยังส่งเบี้ยประกันตนอยู่ ตามมาตรา 39 รวมจำนวน 15,757 คน
นายนิพนธ์ เหล่าราช เจ้าพนักงานประกันสังคม กล่าวว่า ขณะนี้ประกันสังคมจังหวัดหนองคายได้รับเช็คจากส่วนกลางแล้วจะนำเก็บรักษาที่ธนาคารอย่างปลอดภัย และเจ้าหน้าที่มีความพร้อมสำหรับการบริการจ่ายเช็คให้กับผู้ประกันตน โดยได้กำหนดแผนงานจ่ายเช็คในวันที่ 26 มี.ค.นี้ ณ ศูนย์การค้าบิ๊กเจียงโลตัสหนองคาย และจะมีการแบ่งจ่ายเช็คตามบัญชีสถานประกอบการนายจ้าง ซึ่งในแต่ละวันจะกำหนดจำนวนผู้ประกันตนและสถานประกอบการให้เหมาะสมกับเวลาและจำนวน
ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความสะดวกสำหรับผู้ประกันตนที่มารับเช็ค เพราะหากผู้ประกันตนมารอรับเช็คพร้อมกันหมดจะทำให้เกิดความยุ่งยากวุ่นวาย จึงได้จัดทำแผนจ่ายเช็ค 3 จุด คือ จ่ายเช็คที่สถานประกอบการที่มีผู้ประกันตนจำนวนมาก, จ่ายที่ที่ว่าการอำเภอ เพราะหลายอำเภออยู่ไกลตัวจังหวัด ซึ่งจะมีการจัดส่งรายชื่อไปให้ผู้ประกันตนได้ตรวจสอบ และกำหนดวันจ่ายเช็คอีกครั้ง
โดยในรอบแรกผู้ประกันตน 15,757 คน คาดว่าน่าจะจ่ายเช็คได้ทั้งหมด แต่หากผู้ประกันตนไม่สามารถมารับเช็คได้ทันก็ได้ขยายกรอบเวลารับเช็คตามวันที่กำหนดออกไปอีก 90 วัน มาติดต่อขอรับที่สำนักงานประกันสังคม โดยจะมีเจ้าหน้าที่จากธนาคารกรุงเทพฯมาตั้งโต๊ะรับจ่ายเช็คให้ที่สำนักงานประกันสังคมจังหวัดหนองคาย
ด้าน นายสิทธิ์ เพ็งศรีโคตร อายุ 49 ปี กล่าวว่า หลังจากได้รับเช็คแล้วจะนำเงินที่ได้ไปซื้อชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียนให้ลูก แต่ก็ยังไม่เข้าใจถึงขั้นตอนการติดต่อรับเช็ค โดยอยากให้เจ้าหน้าที่ชี้แจงอย่างละเอียดเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมา
เช่นเดียวกับนางแสงมณี บุญหยาด อายุ 41 ปี บอกว่า จะนำเงินจำนวน 2,000 บาท นี้เก็บไว้เป็นทุนการศึกษาให้กับลูก ซึ่งอาจจะใช้ได้ไม่นาน แต่ก็ถือว่าเป็นเงินมากพอสมควรเมื่อเทียบกับจำนวนผู้ที่ได้รับเงินทั่วประเทศ และเห็นว่าเป็นโครงการที่ดีของรัฐบาล
ส่วนนางหนูเพียร คล้ายกับคำ อายุ 36 ปี กล่าวว่า เพิ่งถูกเลิกจ้างงานที่กรุงเทพฯ แล้วกลับมาอยู่บ้าน จึงได้มาขอขึ้นทะเบียนประกันตนรับเงิน 2,000 บาท หากว่าได้รับเงินแล้วก็จะนำไปซื้อของใช้ในครัวเรือน พอช่วยให้บรรเทาค่าใช้จ่ายต่อไปได้อีกระยะหนึ่งก่อนจะหางานใหม่ทำ
