พิษณุโลก - “แม้ว” ยังโฟนอินปลุกคนเข้ากรุงไม่หยุด ล่าสุดหมดท่า ถึงขั้นประกาศผ่านเวทีพิษณุโลก ติดสินบนคนนำกลับบ้าน “ชีวิตที่เหลือจะชดใช้ให้หมด” แต่ไม่วายถูกเสื้อแดงสองแควหลอกว่ามีคนมาร่วมเวทีกว่า 3 พัน ทั้งที่มีไม่กี่ร้อย ก่อนต่อสายโฟนอินที่ลำปางต่อ ซัดองคมนตรี-องค์กรอิสระไม่หยุด
รายงานข่าวจากจังหวัดพิษณุโลก แจ้งว่า ที่เวทีความจริงวันนี้สัญจร ที่เครือข่ายประชาชนปกป้องประชาธิปไตยแห่งชาติ (กลุ่มพิษณุโลกรวมใจ) นำโดย นายบุญเลิศ เรืองทิม หรือ “เลิศ ไม้เก่า” พร้อมนายภาณุกฤษ์ พัชรอารี จัดขึ้นที่สนามกีฬากลางพิษณุโลก เมื่อคืนที่ผ่านมา (24 มี.ค.) มีคนเสื้อแดงมาร่วมประมาณ 800 คน (ตามวิทยุ สภ.เมืองพิษณุโลกรายงาน) นั้น
ในเวลาประมาณ 20.10 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่กำลังเร่ร่อนอยู่ต่างประเทศ ได้โฟนอินเข้ามาพูดคุยประมาณ 10 นาที มีเนื้อหาคร่าวๆ ระบุว่า ผมจำได้ว่าคุณบุญเลิศ (เลิศ ไม้เก่า) เคยกรีดเลือดให้ผมเมื่อผมไปที่พิษณุโลก พร้อมบอกผมว่า อย่าทิ้งชาวพิษณุโลกนะ ผมมาเป็นนายกรัฐมนตรี รัฐบาลเข้มแข็ง แต่มีคนไม่พอใจ จึงเกิดเหตุการณ์ปฏิวัติเกิดขึ้น ถามว่าปฏิวัติแล้ว พิษณุโลกมีอะไรดีขึ้น พิษณุโลกคือสถานที่ตั้งกองทัพภาค แม่ทัพภาคที่ 3 (พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร แม่ทัพภาคที่ 3 สมัยนั้น) ผิดหวังกลัวโดนย้าย เลยต้องร่วมปฏิวัติ หาว่าผมไม่จงรักภักดี ทั้งที่ไม่เกี่ยวเลย เพราะคนอยากได้อำนาจ วันนี้คนค้าขายไม่ดี ยาเสพติดเยอะ สินค้าเกษตรราคาไม่ดี นักท่องเที่ยวไม่มี เพราะเป็นเผด็จการ ประชาธิปไตยหายไป หลอกชาวโลกว่าเราเป็นประชาธิปไตย แต่ผมไปที่ไหนเขาก็บอกว่า “Thailand is a joke” มีสองมาตรฐาน
“ผมสำนึกบุญคุณของประชาชน ความยิ่งใหญ่จะเกิดขึ้นกับประชาชนถ้า ใครเอาผมกลับ คนนั้นมีบุญคุณกับผม ชีวิตที่เหลือจะชดใช้ให้หมด ผมจะเปิดเผยถึงสาเหตุของการเมืองแตกแยกให้หมดในวันที่ 26 มีนาคมนี้ ผมจะเล่าให้ฟังให้ละเอียดอีกครั้ง วันนี้ผมจำเป็นต้องเขย่าเพื่อให้ตกตะกอน แยกดำ แยกขาว เพื่อบ้านเมืองจะไปได้ ขอให้ผมกลับมารับใช้อีกครั้งหนึ่ง”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อน “ทักษิณ” โฟนอิน แกนนำเสื้อแดงแจ้งกับทักษิณว่ามีประชาชนคนพิษณุโลก 3 พันคน ทำให้วางสายโฟนอินที่จังหวัดลำปางก่อน เพื่อคุยกับคนพิษณุโลก เริ่มสนทนาก็เอ่ยถึงคนชื่อ “บุญเลิศ” ที่กรีดเลือดตอนตนมา สุดท้ายก็ยังขอบคุณบุญเลิศ ที่ไม่ลืมชาวพิษณุโลก แถมทักษิณยังตบท้ายวันนี้โฟนอินไปทั่ว แดงไปทั้งหมด
เช่นเดียวกับเวทีเสื้อแดงที่ลำปาง ซึ่งชมรมฮักลำปาง 51 นำโดย นายรัฐชัย อินทราย จัดงานเลี้ยงโต๊ะจีนขึ้น 200 โต๊ะ แต่ก็มีผู้เข้าร่วมไม่เต็มตามเป้าหมาย แม้ว่าจะมีกลุ่มเสื้อแดงจาก เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน มาร่วมก็ตามนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โฟนอินเข้ามาในเวลาประมาณ 21.20 น.ว่า หากคนเสื้อแดงจำนวนมากพอต้องการให้ตนกลับบ้าน ตนก็จะกลับ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ เพราะปัจจุบันที่หลายคนบอกว่าประชาธิปไตยที่แท้แล้วไม่ใช่ประชาธิปไตยที่แท้จริง ต่างประเทศที่รู้เรื่องก็หัวเราะ และเห็นประเทศไทยเป็นตัวตลกไปแล้ว
ส่วนปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นยอมรับว่าแก้ยากเพราะเป็นปัญหาทั่วโลกประกอบกับปัญหาภายในด้วยยิ่งแก้ยากเข้าไปใหญ่ แต่ถามตนว่าจะแก้ได้ไหม ก็จะบอกว่าเมื่อก่อนปัญหายากกว่านี้ตนก็แก้มาแล้ว ปัญหาแค่นี้ตนใช้เวลาแค่สองปีครึ่งก็แก้ได้แล้ว สมัยผมเป็นหนี้มากกว่านี้ยังชำระหนี้ไปได้แล้ว แต่ขณะนี้เงินมีเยอะกว่าหนี้มีน้อยกว่าพอเข้ารับตำแหน่งก็ต้องมาร่วมเป็นหนี้แล้ว
หลังจากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ย้อนถามคนเสื้อแดงว่า ปัจจุบันปัญหายาเสพติดมีเยอะไหม เป็นหนี้กันเยอะไหม มีคนยากจนเยอะไหม ขายของได้ไหม สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ตนเป็นห่วง ซึ่งอยากมาทำงานแก้ปัญหาให้ประชาชนทั้งประเทศ หากตนได้กลับ ตนจะใช้เวลาเพียงสองปีครึ่งประชาชนจะหายยากจนทั้งประเทศ โดยบอกว่าตนมีวิธีในการแก้ปัญหาโดยไม่ต้องไปกู้ยืมเงิน
ฉะนั้น หากต้องการให้ตนเองกลับก็ต้องไปช่วยกัน และขอให้ไปที่กรุงเทพฯ ตนจะโทรศัพท์เข้ามาทุกวัน และตนจะเล่าให้ฟังว่ามีใครกลั่นแกล้งตนอย่างไร และจะบอกวิธีแก้ปัญหาทุกเรื่องเป็นขั้นเป็นตอนไม่ว่าจะเป็นการแก้ปัญหาทางการเมือง ปัญหาเศรษฐกิจ ฯลฯ หากเชื่อก็ดี แต่หากไม่เชื่อประชาชนก็จะจนไปเรื่อยๆ
ก่อนจบการสนทนา พ.ต.ท.ทักษิณ ได้กล่าวว่า ปัจจุบันนี้ความเป็นธรรมไม่มี องค์กรอิสระก็ไม่มีความเป็นธรรม ซึ่งในวันที่ 26 มีนาคมนี้ตนจะเล่าให้ฟัง
ส่วนเรื่องขององคมนตรี มีหลายคนบอกว่าไม่อยากให้ตนไปยุ่งกับองคมนตรี แต่ตนบอกว่า ถ้าเป็นองคมนตรีต้องไม่ยุ่งการเมือง แต่ที่ผ่านมามีองคมนตรีหลายคนไปยุ่งการเมือง การเมืองก็เลยต้องไปยุ่งด้วย เมื่อองคมนตรีไปยุ่งการเมืองก็เป็นคนธรรมดาไม่ใช่องคมนตรีแล้ว องคมนตรีเหล่านี้ทำให้พระเจ้าอยู่หัวทุกข์ใจ โดยการเอาพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งท่านอยู่ที่สูง เอาท่านลงมายุ่งการเมือง และสุดท้ายได้ย้ำว่าหากคนเสื้อแดงไปรวมกันที่กรุงเทพฯ กี่วันก็ตามตนก็จะโฟนอินทุกวันเช่นกัน