อุดรธานี - อุตสาหกรรมอุดรธานี เร่งถ่ายทอดความรู้หลักการ Cluster แก่กลุ่มผู้ประกอบการอุตสาหกรรม หวังก่อให้เกิดร่วมมือในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรม ลดการแข่งขัน เพื่อสร้างความเข้มแข็งและอำนาจการต่อรอง และเพื่อความอยู่รอดของกลุ่มอุตสาหกรรมในอนาคต
วันนี้ (24 มี.ค.) เวลา 10.00 น ที่โรงแรมเจริญศรีแกรนด์รอยัล จังหวัดอุดรธานี นายวิชิต อาวัชนาการ อุตสาหกรรมจังหวัดอุดรธานี ได้เป็นประธานเปิดการอบรม โครงการจัดทำฐานข้อมูลเพื่อการพัฒนาการรวมกลุ่มอุตสาหกรรม Cluster
นายวินัย พรมจันทร์ หัวหน้าฝ่ายโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2552 กระทรวงอุตสาหกรรม ได้ให้สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดอุดรธานี ดำเนินโครงการจัดทำฐานข้อมูลเพื่อการพัฒนาการรวมกลุ่มอุตสาหกรรม (Cluster) โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเป้าหมายตามโครงการของแต่ละพื้นที่ รวมทั้งผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการพัฒนาการรวมกลุ่มอุตสาหกรรม (Cluster) ได้มีความรู้ความเข้าใจ และเห็นประโยชน์ของการรวมกลุ่มในการพัฒนาธุรกิจร่วมกัน รวมทั้งเพื่อเป็นการสร้างเครือข่ายพันธมิตรอันเป็นการต่อยอดไปสู่การกำหนดข้อตกลงร่วมกันในการรวมกลุ่ม เป้าหมาย กลยุทธ์และการเพิ่มขีดความสามารถและศักยภาพในการแข่งขัน
ซึ่งหลักการ Cluster การสำรวจข้อมูลสถานประกอบการและภาคีที่เกี่ยวข้อง การจัดทำฐานข้อมูลและการติดตามประเมินผลโครงการ ซึ่งจะต้องดำเนินการโครงการให้เสร็จสิ้นภายในไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณ
การสัมมนาถ่ายทอดความรู้หลักการ Cluster ให้แก่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมและภาคีที่เกี่ยวข้องในครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมการสัมมนาจากกลุ่มจากกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตเกลือ อุตสาหกรรมการแปรรูปไม้ และอุตสาหกรรมเคาะพ่นสี โดยมีหน่วยงานภาคีภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องจากจังหวัดอุดรธานี รวมจำนวน 110 คน
สำหรับการสัมมนาในครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนวิทยากรที่มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ในการรวมกลุ่มอุตสาหกรรม (Cluster) จากมหาวิทยาลัยราชกัฏอุดรธานี ซึ่งรูปแบบของการสัมมนาในภาคเช้าจะเป็นการบรรยาย อภิปราย ส่วนภาคบ่ายจะเป็นแบ่งกลุ่มย่อยฝึกปฏิบัติตามกลุ่มอุตสาหกรรม
นายวิชิต อาวัชนาการ อุตสาหกรรมจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า ปัจจุบันผู้บริโภคยังต้องการความมั่นใจว่าทุกขั้นตอนของกระบวนการผลิต ตั้งแต่การคัดเลือกและดูแลควบคุมวัตถุดิบซึ่งเป็นต้นน้ำ มีกระบวนการผลิตที่ดีมีคุณภาพและมาตรฐาน สินค้ามีราคาที่เหมาะสมกับคุณภาพและจำนวนเงินที่จ่ายเพื่อซื้อสินค้า เพื่อประโยชน์ของผู้ประกอบ และเพื่อเป็นเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในการผลิตสินค้าให้มีคุณภาพ มีราคาเหมาะสม และตรงตามความต้องการของลูกค้า
ดังนั้น จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน และลดการแข่งขัน เพื่อสร้างความเข้มแข็งและอำนาจการต่อรอง และเพื่อความอยู่รอดของกลุ่มอุตสาหกรรมในอนาคต
วันนี้ (24 มี.ค.) เวลา 10.00 น ที่โรงแรมเจริญศรีแกรนด์รอยัล จังหวัดอุดรธานี นายวิชิต อาวัชนาการ อุตสาหกรรมจังหวัดอุดรธานี ได้เป็นประธานเปิดการอบรม โครงการจัดทำฐานข้อมูลเพื่อการพัฒนาการรวมกลุ่มอุตสาหกรรม Cluster
นายวินัย พรมจันทร์ หัวหน้าฝ่ายโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2552 กระทรวงอุตสาหกรรม ได้ให้สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดอุดรธานี ดำเนินโครงการจัดทำฐานข้อมูลเพื่อการพัฒนาการรวมกลุ่มอุตสาหกรรม (Cluster) โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเป้าหมายตามโครงการของแต่ละพื้นที่ รวมทั้งผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการพัฒนาการรวมกลุ่มอุตสาหกรรม (Cluster) ได้มีความรู้ความเข้าใจ และเห็นประโยชน์ของการรวมกลุ่มในการพัฒนาธุรกิจร่วมกัน รวมทั้งเพื่อเป็นการสร้างเครือข่ายพันธมิตรอันเป็นการต่อยอดไปสู่การกำหนดข้อตกลงร่วมกันในการรวมกลุ่ม เป้าหมาย กลยุทธ์และการเพิ่มขีดความสามารถและศักยภาพในการแข่งขัน
ซึ่งหลักการ Cluster การสำรวจข้อมูลสถานประกอบการและภาคีที่เกี่ยวข้อง การจัดทำฐานข้อมูลและการติดตามประเมินผลโครงการ ซึ่งจะต้องดำเนินการโครงการให้เสร็จสิ้นภายในไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณ
การสัมมนาถ่ายทอดความรู้หลักการ Cluster ให้แก่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมและภาคีที่เกี่ยวข้องในครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมการสัมมนาจากกลุ่มจากกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตเกลือ อุตสาหกรรมการแปรรูปไม้ และอุตสาหกรรมเคาะพ่นสี โดยมีหน่วยงานภาคีภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องจากจังหวัดอุดรธานี รวมจำนวน 110 คน
สำหรับการสัมมนาในครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนวิทยากรที่มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ในการรวมกลุ่มอุตสาหกรรม (Cluster) จากมหาวิทยาลัยราชกัฏอุดรธานี ซึ่งรูปแบบของการสัมมนาในภาคเช้าจะเป็นการบรรยาย อภิปราย ส่วนภาคบ่ายจะเป็นแบ่งกลุ่มย่อยฝึกปฏิบัติตามกลุ่มอุตสาหกรรม
นายวิชิต อาวัชนาการ อุตสาหกรรมจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า ปัจจุบันผู้บริโภคยังต้องการความมั่นใจว่าทุกขั้นตอนของกระบวนการผลิต ตั้งแต่การคัดเลือกและดูแลควบคุมวัตถุดิบซึ่งเป็นต้นน้ำ มีกระบวนการผลิตที่ดีมีคุณภาพและมาตรฐาน สินค้ามีราคาที่เหมาะสมกับคุณภาพและจำนวนเงินที่จ่ายเพื่อซื้อสินค้า เพื่อประโยชน์ของผู้ประกอบ และเพื่อเป็นเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในการผลิตสินค้าให้มีคุณภาพ มีราคาเหมาะสม และตรงตามความต้องการของลูกค้า
ดังนั้น จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน และลดการแข่งขัน เพื่อสร้างความเข้มแข็งและอำนาจการต่อรอง และเพื่อความอยู่รอดของกลุ่มอุตสาหกรรมในอนาคต
