xs
xsm
sm
md
lg

2 เจ๊ พธม.เหนือล่างมุ่งหน้าขยายเครือข่ายเทหน้าตักจับทุจริต-ล้างการเมืองน้ำเน่า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เจ๊นัน –จีรนันท์ อินทร์สุริวงศ์ เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัดดงมูลเหล็ก แห่งปากน้ำโพ นครสวรรค์ ในวันที่ที่เข้าร่วมงานเวทีคอนเสิร์ตการเมือง ที่ พิษณุโลก
ศูนย์ข่าวภาคเหนือ – “2 เจ๊ใหญ่” พันธมิตรฯเหนือล่าง เดินหน้าสร้างเครือข่ายขยายแนวร่วมการเมืองใหม่ พร้อมเปิดใจ “เจ๊นัน –ก๋วยเตี๋ยวเนื้อดงมูลเหล็ก” ศิษย์เก่า มช.เพื่อนหลาน “แม้ว” ผู้ปฏิเสธ “ระบอบทักษิณ” ขณะที่ “เจ๊ศรี – ร้านเพชรทองพรส่งศรี” แห่งเมืองชาละวัน จับมือเครือญาติ คนพรรค “เพื่อไทย” มุ่งตั้งวิทยุ พธม.-กระจายจาน ASTV สร้าง Network ทั่ว 12 อำเภอ

ในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง-ภาคกลางตอนบน ไล่ตั้งแต่อุทัยธานี นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ พิจิตร พิษณุโลก สุโขทัย อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร และตาก ถือเป็นพื้นที่หนึ่ง ที่มีเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ร่วมเคลื่อนไหวอย่างคึกคัก เข้มแข็ง มาตั้งแต่ยุค “เมืองไทยรายสัปดาห์” เมื่อปี 48-49 เป็นต้นมา ต่อเนื่องมาจนถึงการชุมนุม 193 วัน สงครามครั้งสุดท้าย ไล่รัฐบาล “นอมินี” ก่อให้เกิด “แกนนำ” แต่ละจังหวัดมากหน้าหลายตา ซึ่ง “ASTV ผู้จัดการออนไลน์” ได้นำเสนอผ่านหน้า “พันธมิตรฯกู้ชาติ” มาอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตามตลอดระยะเวลาในการเคลื่อนไหวเพื่อล้มล้าง “ระบอบทักษิณ – ไล่รัฐบาลนอมินี” ของ พธม.ภาคเหนือตอนล่างนั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่า มี 2 เจ๊ใหญ่แห่งลุ่มน้ำภาคเหนือตอนล่าง ที่ร่วมสร้างตำนาน “เต็มออก ๆๆๆ” จัดรถนำพี่น้องพันธมิตรฯ มุ่งหน้าเข้าร่วมชุมนุมในกรุงเทพฯ อย่างต่อเนื่อง นั่นคือ “เจ๊ศรี – ชนกวรรณ บุญรักษา เจ้าของร้านเพชรทองพรส่งศรี แห่งเมืองพิจิตร และเจ๊นัน –จีรนันท์ อินทร์สุริวงศ์ เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัดดงมูลเหล็ก แห่งปากน้ำโพ นครสวรรค์”

เจ๊นัน สู่พธม.เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวไม่เอาระบอบทักษิณ

“ASTVผู้จัดการออนไลน์ "มีโอกาสสนทนากับ “เจ๊นัน-ก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัดดงมูลเหล็ก” ขณะที่กำลังสาละวนกับการลวกเส้น – ตักน้ำซุป -ลูกชิ้น ใส่ชามแจกจ่ายให้แก่พี่น้องพันธมิตรฯ ที่เดินทางมาร่วมเวทีคอนเสิร์ตการเมืองครั้งที่ 3 ที่พิษณุโลก เมื่อสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2552 ปรากฏว่า ที่จริงแล้วเธอเป็นศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รหัส 32 ที่มีลูกของ “พายัพ ชินวัตร” หลานของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นประธานรุ่น และเป็นเพื่อน

เจ๊นัน บอกว่า ก่อนหน้านี้เธอเป็น “ครูอาชีวะ” ที่ไปปฏิบัติราชการหลายพื้นที่ รวมถึงวิทยาลัยอาชีวะกระบี่ – สุราษฎร์ธานี โดยเฉพาะที่สุราษฏร์ฯ เธอเคยสร้างวีรกรรมจนทำให้ผู้อำนวยการต้องถูกสอบมาแล้ว เพราะเธอไม่ยอมทำตามคำสั่ง เพื่อเอาผลประโยชน์จากผู้ปกครองให้เขา จนสุดท้ายก็ทนต่อการบริหารราชการแบบ “ระบอบทักษิณ” ไม่ได้ เพราะมีผลประโยชน์เคลือบแฝงทุกจุด ทุกขั้นตอน จึงลาออกมาลงทุนทำร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัดดงมูลเหล็ก กับเพื่อนที่นครสวรรค์

“ระยะแรกที่มีการชุมนุมของ พธม.ก็เข้าไปร่วมในฐานะคนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน เพราะที่นครสวรรค์ก็มีเวทีฯที่พี่น้องเขาจัดเป็นประจำบริเวณหน้าอุทยานสวรรค์อยู่แล้ว บางช่วงก็เข้ากรุงเทพฯร่วมชุนนุมใหญ่ ต่อมามีการเรียกระดมชุมนุมใหญ่หลายครั้ง เราจึงควักกระเป๋าหารถเพื่อนำคนเข้าร่วม จนรู้ถึงเวทีใหญ่ เจ๊ปอง-อัญชะลี ไพรีรักษ์ ประกาศบนเวทีว่า ให้พี่น้องนครสวรรค์ขึ้นรถได้ที่หน้าร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัดดงมูลเหล็ก เต็มออกๆๆๆๆ....”

เจ๊นัน บอกว่า ตลอดระยะเวลาที่มีการชุมนุม เธอควักทุนไปมากทั้งเงินเก็บที่ได้จากการเออลีรีไทร์ รวมถึงสร้อยทองน้ำหนัก 4 บาท ที่เคยห้อยคอ ไม่นับรวมรายได้จากการขายก๋วยเตี๋ยวเนื้อที่หดหายไประหว่างเดินทางไปร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯ ซึ่งเดือน ๆ หนึ่งในช่วงนั้น เธอเปิดร้านแค่ 2 สัปดาห์ อีก 2 สัปดาห์อยู่กลางวงพันธมิตรฯ อาสาทำงานทุกอย่าง รวมถึงร่วมเป็นการ์ดพันธมิตรฯด้วย

“ช่วงนั้นบางเดือนต้องขอผ่อนค่าเช่าร้านเขา แต่ก็ยอม เพราะตัดสินใจแล้ว รับไม่ได้กับการเมืองระบอบทักษิณ”

เธอบอกว่า นอกจากจะร่วมชุมนุมกับ พธม.อย่างต่อเนื่องแล้ว ในพื้นที่เธอก็เดินหน้าทำหน้าที่ตรวจสอบนักการเมืองไม่หยุด ครั้งหนึ่งเธอเคยร้องเรียนเรื่องงบประมาณช่วยเหลือโรงเรียน ในเขตอำเภอชุมแสง นครสวรรค์ โรงเรียนละ 1.5 ล้านบาท ทั่วทั้งอำเภอ ผ่าน “นักการเมืองหัวหงอก” คนดังปากน้ำโพ แต่ตรวจสอบแล้วอุปกรณ์ที่นำไปให้มีมูลค่าไม่เกิน 5 แสนบาท แล้วอีกล้านกว่าบาทหายไปไหน

ผลของการตรวจสอบเรื่องนี้ ทำให้เธอถูกกลั่นแกล้งสารพัด รถยนต์ที่จอดไว้หน้าร้านก็ถูกขูดขีดเป็นรอยรอบคัน ทำให้ระยะหลังไม่ค่อยนับญาติกับตำรวจเท่าไรนัก แม้แต่ในร้านเธอก็ขึ้นป้ายไว้ชัดเจนว่า “ไม่บริการตำรวจชั่ว” เป็นต้น

อย่างไรก็ตามหลังเสร็จศึก 193 วันสงครามครั้งสุดท้าย ก็ทำให้ได้เห็นน้ำใจของพี่น้องพันธมิตรฯ จากทั่วประเทศ ที่มักจะแวะเวียนมาที่ร้านเป็นประจำ ซึ่งทุกคนบอกว่า ที่มาทานที่ร้าน เพราะต้องการมาช่วย ไม่ได้ต้องการให้เจ๊นัน เลี้ยงก๋วยเตี๋ยวฟรีทั้งสิ้น
เจ๊ศรี– ชนกวรรณ บุญรักษา เจ้าของร้านเพชรทองพรส่งศรี แห่งเมืองพิจิตร และหน่อย-พงศ์ธร ศรชา พันธ์ประกาศร่วมกันขยายเครือข่ายพันธมิตรฯให้มากขึ้น
เจ๊นัน ยังฝากเตือนลูกค้าของเธอว่า ถ้าเดินเข้าร้านแล้วเห็นพนักงานเสิร์ฟหน้าตาออกแนวโหด ๆ หน่อยก็ขออย่าได้ตกใจ เพราะล้วนแต่เป็นการ์ดพันธมิตรฯ ที่เคยร่วมทำงานกันมา ที่หลังจากชุมนุมเสร็จแล้ว ก็ติดตามมาทำงานที่ร้านด้วย

เจ๊ศรี -หน่อย ประกาศเดินหน้าขยายแนวร่วมพธม.

อีกหนึ่งเจ๊ ที่ขึ้นชื่อเป็นแถวหน้าของพันธมิตรฯเหนือล่างก็คือ เจ๊ศรี – ชนกวรรณ บุญรักษา เจ้าของร้านเพชรทองพรส่งศรี แห่งเมืองพิจิตร ที่ร่วมกับ “หน่อย-พงศ์ธร ศรชาพันธ์ เจ้าของร้านอาหารตามสั่งเล็ก ๆชื่อร้านอิ่มเอม ในเมืองพิจิตร เครือญาติของ “สุณีย์ เหลืองวิจิตร พรรคเพื่อไทย” เปิดเผยกับ “ASTVผู้จัดการออนไลน์” ว่า หลังจากนี้เธอและเครือข่ายพันธมิตรฯในพิจิตร จะเดินหน้าขยายแนวร่วม พธม.ทั่วทั้งจังหวัด เผยแพร่ประชาธิปไตยให้รากหญ้า – ปลุกสำนึกการเมืองใหม่ พร้อมกับทำหน้าที่ตรวจสอบการเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ทุกระดับ

“เพราะการเมืองเก่า น้ำเน่า มันโกงกันทุกหย่อมหญ้า”

เจ๊ศรี และหน่อย พงศ์ธร บอกว่า ขณะนี้พวกเราวางแผนสร้างองค์กรเครือข่ายให้ครบทั้ง 12 อำเภอของพิจิตร โดยตั้งผู้ประสานงานแต่ละอำเภอขึ้น เพื่อให้ผู้ประสานงานทำหน้าที่ขยายเครือข่ายทุกสาขาอาชีพ กระจายไปทุกจุดของชุมชน ซึ่งจะทำให้การทำงานของพันธมิตรฯในอนาคตเข้มแข็งมากขึ้น

เจ๊ศรี บอกอีกว่า ตอนนี้ในส่วนตัวเธอไม่ต้องการอะไรแล้ว ฐานะทางบ้าน และทางสังคม ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่พร้อม ซึ่งเฉพาะหน้านี้พันธมิตรฯพิจิตร จะตั้งวิทยุชุมชนขึ้น ซึ่งขณะนี้ได้สถานที่แล้ว กำลังหาคลื่นกันอยู่ พร้อมกับกระจายจาน ASTV ให้แก่ชุมชนต่าง ๆ ให้มากที่สุด อย่าง อ.สามง่าม ขณะนี้สถานีอนามัยทุกสถานี ล้วนแต่ติด ASTV หมดแล้ว

“พิจิตร พลังเงียบเยอะมาก มีคนพร้อมสนับสนุนพันธมิตรฯตลอด แต่ไม่ขอออกหน้า ดังนั้น แค่ขอให้บอก ทุกคนพร้อมที่จะจัดให้ เพียงแต่เราต้องจัดระบบเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ให้ดี ไม่ให้เกิดปัญหา ทำให้โปร่งใส ก็จะสามารถขับเคลื่อนในระยะยาวได้อย่างมีพลังแน่นอน”
กำลังโหลดความคิดเห็น