ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตรวจปัญหาหมอกควันภาคเหนือ ยอมรับสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นแม้มีฝนตกในพื้นที่ ระบุ อาจจำเป็นต้องประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมสิ่งแวดล้อม หากคุณภาพอากาศยังวิกฤต ขณะเดียวกัน ชี้ การปรับค่ามาตรฐานคุณภาพอากาศอาจไม่เหมาะสมกับประเทศไทย
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งว่า วันนี้ (18 มี.ค.) นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เดินทางติดตามดูแลสถานการณ์หมอกควันและไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ โดยได้เดินทางด้วยเครื่องบินจากกรุงเทพฯ มาลงที่จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเดินทางต่อด้วยเฮลิคอปเตอร์ไปติดตาม และรับทราบสถานการณ์ที่จังหวัดลำปางและจังหวัดลำพูน
นายสุวิทย์ กล่าวที่จังหวัดเชียงใหม่ ว่า การเดินทางมาในครั้งนี้เพื่อมาดูแลควบคุมการดำเนินการแก้ไขปัญหาสถานการณ์หมอกควันและไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ เนื่องจากการดำเนินการที่ผ่านมายังไม่ได้ผลอย่างที่คาดหวัง ขณะที่ล่าสุดกองทัพอากาศได้สนับสนุนเครื่องบินมาช่วยในการทำฝนหลวงด้วย ทั้งนี้แม้ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา(17 มี.ค.) จะมีฝนตกลงมาแต่ก็ยังไม่ได้ทำให้สถานการณ์ปัญหาหมดสิ้นไป ซึ่งปัญหาอุปสรรคที่พบเวลานี้ คือ การเผาในที่โล่งที่ยังคงมีอยู่เป็นจำนวนมากและบริเวณกว้าง โดยหากสถานการณ์นับจากนี้ยังไม่มีแนวโน้มดีขึ้นก็มีความเป็นไปได้ที่อาจจะต้องประกาศเขตควบคุมสิ่งแวดล้อม
ในส่วนของการขอความร่วมมือประเทศเพื่อนบ้าน ในการแก้ไขบรรเทาสถานการณ์หมอกควันและไฟป่านั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้มีการทำหนังสือขอความร่วมมือไปยังประเทศเพื่อนบ้านแล้ว ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือดีในระดับหนึ่ง โดยด้านพม่าพบว่าสถานการณ์การเผาดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ทางด้านลาว ยังไม่ดีเท่าที่ควร ซึ่งจะต้องร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหาต่อไป
นอกจากนี้ นายสุวิทย์ กล่าวถึงความเป็นไปด้ในการปรับค่ามาตรฐานฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 จากไม่เกิน 120 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร เป็นไม่เกิน 50 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลกว่า การปรับเปลี่ยนค่ามาตรฐานดังกล่าว จำเป็นจะต้องพิจารณาความเหมาะสมในหลายด้านของพื้นที่ เนื่องประเทศของเรามีสภาพที่แตกต่างจากประเทศในยุโรปที่ใช้เกณฑ์ดังกล่าว ซึ่งอาจจะไม่เหมาะกับสภาพความเป็นจริงของประเทศเรา
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งว่า วันนี้ (18 มี.ค.) นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เดินทางติดตามดูแลสถานการณ์หมอกควันและไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ โดยได้เดินทางด้วยเครื่องบินจากกรุงเทพฯ มาลงที่จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเดินทางต่อด้วยเฮลิคอปเตอร์ไปติดตาม และรับทราบสถานการณ์ที่จังหวัดลำปางและจังหวัดลำพูน
นายสุวิทย์ กล่าวที่จังหวัดเชียงใหม่ ว่า การเดินทางมาในครั้งนี้เพื่อมาดูแลควบคุมการดำเนินการแก้ไขปัญหาสถานการณ์หมอกควันและไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ เนื่องจากการดำเนินการที่ผ่านมายังไม่ได้ผลอย่างที่คาดหวัง ขณะที่ล่าสุดกองทัพอากาศได้สนับสนุนเครื่องบินมาช่วยในการทำฝนหลวงด้วย ทั้งนี้แม้ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา(17 มี.ค.) จะมีฝนตกลงมาแต่ก็ยังไม่ได้ทำให้สถานการณ์ปัญหาหมดสิ้นไป ซึ่งปัญหาอุปสรรคที่พบเวลานี้ คือ การเผาในที่โล่งที่ยังคงมีอยู่เป็นจำนวนมากและบริเวณกว้าง โดยหากสถานการณ์นับจากนี้ยังไม่มีแนวโน้มดีขึ้นก็มีความเป็นไปได้ที่อาจจะต้องประกาศเขตควบคุมสิ่งแวดล้อม
ในส่วนของการขอความร่วมมือประเทศเพื่อนบ้าน ในการแก้ไขบรรเทาสถานการณ์หมอกควันและไฟป่านั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้มีการทำหนังสือขอความร่วมมือไปยังประเทศเพื่อนบ้านแล้ว ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือดีในระดับหนึ่ง โดยด้านพม่าพบว่าสถานการณ์การเผาดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ทางด้านลาว ยังไม่ดีเท่าที่ควร ซึ่งจะต้องร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหาต่อไป
นอกจากนี้ นายสุวิทย์ กล่าวถึงความเป็นไปด้ในการปรับค่ามาตรฐานฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 จากไม่เกิน 120 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร เป็นไม่เกิน 50 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลกว่า การปรับเปลี่ยนค่ามาตรฐานดังกล่าว จำเป็นจะต้องพิจารณาความเหมาะสมในหลายด้านของพื้นที่ เนื่องประเทศของเรามีสภาพที่แตกต่างจากประเทศในยุโรปที่ใช้เกณฑ์ดังกล่าว ซึ่งอาจจะไม่เหมาะกับสภาพความเป็นจริงของประเทศเรา
