ฉะเชิงเทรา- นายก อบต.พร้อมกำนันผู้ใหญ่บ้าน 5 ตำบลรอบพื้นที่โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าภาคเอกชนยั้ว ขนชาวบ้านนับพันชุมนุมปิดล้อมรอบศาลากลางแปดริ้วทวงสิทธิ 3 ข้อ ในการแสดงความคิดเห็นภาคประชาชน หลังถูกแกนนำกลุ่มต่อต้านโรงไฟฟ้าบางคล้าห้ามจุ้นทำประชาพิจารณ์
วันนี้ (17 มี.ค.) เวลา 09.30 น. ที่บริเวณโดยรอบศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้มีกลุ่มชาวบ้านจำนวนกว่า 1 พันคน นำเครื่องปั่นไฟขยายเสียงติดตั้งบนรถยนต์กระบะปิกอัพ เป็นเวทีปราศรัยชั่วคราว เดินทางมาร่วมชุมนุมปิดล้อมศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา หลังจากไม่พอใจที่กลุ่มต่อต้านโรงไฟฟ้าเสม็ดเหนือ-ใต้ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ไม่ให้ประชาชนในพื้นที่ในตำบลโดยรอบโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าภาคเอกชน ของบริษัท โรงไฟฟ้าพลังงานสยาม จำกัด มีส่วนร่วมในการทำประชาพิจารณ์ แสดงความคิดเห็นต่อการก่อสร้างโรงไฟฟ้าดังกล่าว
นายชาลี จิตรประสงค์ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32 ม.3 ต.คลองจุกเฌอ อ.เมืองฉะเชิงเทรา นายก อบต.คลองจุกเฌอ ซึ่งเป็นแกนนำในการชุมนุมเคลื่อนไหวในครั้งนี้กล่าวว่า จากเวทีการประชุมแสดงความคิดเห็นภาคประชาชน ที่ศาลาการเปรียญ วัดสนามช้าง ต.เสม็ดใต้ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 15 มี.ค.52 กลุ่มต่อต้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าบางคล้า ไม่ยินยอมให้ประชาชนในพื้นที่จาก 5 ตำบล โดยรอบโครงการในรัศมี 5 กม.เข้ามามีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น ต่อการทำประชาพิจารณ์ ลงคะแนนโหวตเสียงว่าจะให้มีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าในพื้นที่เกิดขึ้นได้หรือไม่
กลุ่มต่อต้านโรงไฟฟ้าบางคล้าได้ปิดกั้นจะให้มีการรับฟังความคิดเห็นและลงมติ ด้วยเสียงส่วนใหญ่ แต่เฉพาะประชาชนจากในพื้นที่เพียง 4 ตำบลใน อ.บางคล้า คือ ต.เสม็ดเหนือ ต.เสม็ดใต้ ต.สาวชะโงก ต.บางสวน ที่มีพื้นที่ติดกับโรงไฟฟ้าเท่านั้น ขณะที่กลุ่มของตนเห็นว่าควรจะเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นให้ประชาชนในพื้นที่โดยรอบอีก 5 ตำบล ในรัศมีจากโรงไฟฟ้า 5 กม. คือ ต.คลองจุกเฌอ ต.บางไผ่ ซึ่งอยู่ใน อ.เมืองฉะเชิงเทรา และ ต.ดอนทราย ต.คลองขุด ต.สิบเอ็ดศอก ใน อ.บ้านโพธิ์ รวม 9 ตำบลเข้ามามีส่วนร่วมในเวทีดังกล่าวด้วย
ถือเป็นการตัดสิทธิตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ขัดต่อหลักประชาธิปไตยอย่างรุนแรง และอาจสร้างความเสียหายให้แก่ชาวบ้านใน 5 ตำบลที่เหลืออีกด้วย นอกจากนี้ในการโหวตเสียงของประชาชน ต่อการทำประชาพิจารณ์ในการสร้างโรงไฟฟ้า ที่กลุ่มต่อต้านโรงไฟฟ้าเรียกร้องให้มีการโหวตคะแนนเสียงอย่างเปิดเผยนั้นควรเป็นการโหวตเสียงลับ ใช้รูปแบบในการลงคะแนนเสียงโดยเข้าคูหาเหมือนการเลือกตั้ง ตามหลักสากลที่ใช้กันทั่วไป เพราะเป็นสิทธิส่วนบุคคล ที่ประชาชนควรจะมีสิทธิที่จะโหวตเสียงได้ตามความต้องการของตนเอง โดยที่ไม่มีสิ่งใดจากภายนอกมากดดัน
ในวันนี้จึงได้นำประชาชนในพื้นที่ทั้ง 5 ตำบล เดินทางมาเรียกร้องสิทธิ์ดังกล่าว ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยจะยื่นหนังสือในการเรียกร้องสิทธิ์ พร้อมแนบท้ายรายชื่อของประชาชนที่ต้องการเรียกร้องสิทธิ์นั้น ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราให้ได้ในวันนี้
นอกจากการเรียกร้องสิทธิในการมีส่วนร่วมต่อการทำประชาพิจารณ์ ของประชาชนในเขตพื้นที่ 5 ตำบลโดยรอบพื้นที่การก่อสร้างโรงไฟฟ้าแล้ว ในการทำรายงานผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้า (อีไอเอ) นั้น ควรให้บริษัทเอกชนเปิดเผยข้อเท็จจริงให้ประชาชนในพื้นที่ทราบ ก่อนการตัดสินใจลงมติ และขอมีส่วนร่วมสังเกตการณ์ในการประชุมไตรภาคีในทุกครั้งที่มีการประชุมด้วย
สำหรับบรรยากาศในการชุมนุมได้มีการตั้งโต๊ะล่ารายชื่อสนับสนุนการทวงสิทธิจากผู้ชุมนุม และมีแกนนำซึ่งประกอบด้วย นายชาลี จิตรประสงค์ นายก อบต.คลองจุกเฌอ นายชีวิน เพียงอารมณ์ นายก อบต.ดอนทราย นายสมคิด ศรีวิไล นายก อบต.คลองขุด นายมาโนช สุขโขใจ นายก อบต.สิบเอ็ดศอก นายปรีชา ดำรงชีพ กำนันตำบลคลองจุกเฌอ นายสำราญ สุนทรวิทย์ กำนัน ต.บางไผ่ ผลัดกันขึ้นเวทีปราศรัยอย่างเข้มข้นโดยมีประชาชนเข้าร่วมลงชื่อสนับสนุนจำนวนกว่า 600 คน
จากนั้นในเวลา 11.00 น. นายสุขสันต์ วนะภูติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา จึงได้ลงมารับหนังสือจากแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมแทน นายวีรวิทย์ วิวัฒนวานิช ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งติดราชการนอกพื้นที่ พร้อมกล่าวกับผู้ชุมนุมว่า จะนำเรื่องไปนำเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัด โดยที่จะเรียกแกนนำทั้งสองฝ่ายเข้ามาประชุมตกลงกันต่อไป และให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่มาเรียกร้องสิทธิในวันนี้ จัดเตรียมตัวแทนไว้ให้พร้อมที่จะเข้ามาร่วมประชุมต่อไป หลังจากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมจึงได้ยอมสลายการชุมนุมกลับไปในที่สุด
