กลุ่มต้านโรงไฟฟ้าบางคล้าเคลื่อนไหวหนัก ขนชาวบ้านชุมนุมแน่นวัดสนามช้าง

ฉะเชิงเทรา - กลุ่มต้านโรงไฟฟ้าบางคล้าเคลื่อนไหวหนัก หลังขนชาวบ้านกว่า 2 พัน มาชุมนุมแน่นวัดสนามช้าง ขณะเวทีประชาพิจารณ์ฟังความเห็นคนในพื้นที่โดยรอบเหลว กลายเป็นเวทีขอมติจากที่ประชุมชาวบ้าน หลังไร้เงาฝ่ายนายทุน และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมด้วย

วันนี้ (15 มี.ค.) ที่ศาลาการเปรียญ วัดสนามช้าง ต.เสม็ดใต้ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ชาวบ้านกว่าสองพันคน ได้เดินทางมารวมตัวชุมนุม เพื่อร่วมรับฟังความเห็นจากเวทีประชาคมของคนในพื้นที่โดยรอบโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม ของบริษัทผู้ผลิตไฟฟ้าภาคเอกชน เพื่อหาข้อยุติเกี่ยวกับการก่อสร้างโรงไฟฟ้า และการเคลื่อนไหวชุมนุมต่อต้าน ระหว่างชาวบ้านกลุ่มผู้คัดค้าน และบริษัท โรงไฟฟ้าพลังงานสยาม จำกัด

ในการประชุมในวันนี้ ทางฝ่ายบริษัทผู้ผลิตไฟฟ้าภาคเอกชน และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไม่ได้เดินทางมาร่วมในการจัดเวทีในครั้งนี้ด้วย แต่กลับมีกลุ่มผู้สนับสนุนในโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าแห่งนี้ ซึ่งเป็นชาวบ้านในตำบลรอบนอก เดินทางเข้ามาร่วมประชุมแทน ซึ่งเป็นประชาชนจากในพื้นที่ ตำบลคลองจุกเฌอ ตำบลบางไผ่ อ.เมืองฉะเชิงเทรา และตำบลคลองขุด อ.บ้านโพธิ์ จึงเกิดการปะทะคารมกันระหว่างแกนนำทั้งสองฝ่าย บนเวทีแสดงความคิดเห็นอย่างรุนแรง

ทั้งนี้ ชาวบ้านในเขตพื้นที่ใกล้โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าทั้ง 4 ตำบล คือ ต.เสม็ดเหนือ ต.เสม็ดใต้ ต.สาวชะโงก และ ต.ท่าทองหลาง ส่วนใหญ่ไม่ยินยอมให้มีการก่อสร้าง ขณะที่ประชาชนในเขตพื้นที่รอบนอก ใน ต.คลองจุกเฌอ ต.บางไผ่ และ ต.คลองขุด ซึ่งนำโดยนักการเมืองท้องถิ่นระดับตำบล เป็นฝ่ายที่มีแนวโน้มที่จะสนับสนุนให้มีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าแห่งนี้

จนสุดท้ายในการจัดเวทีประชาคมครั้งนี้ยังคงหาข้อสรุปที่ชัดเจนที่จะให้มีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าได้หรือไม่ยังไม่ได้ข้อยุติ เนื่องจากทั้งสองฝ่ายต่างยังไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นระหว่างกัน จนทำให้ประชาชนที่เดินทางมาร่วมกับฝ่ายสนับสนุนการก่อสร้างโรงไฟฟ้า ต่างพากันรีบกรูออกจากที่ประชุม และเดินทางกลับทันที ระหว่างการประชุมโต้เถียงกัน

ขณะที่ประชาชนกลุ่มต่อต้านโรงไฟฟ้ายังคงยืนกรานที่จะเคลื่อนไหวต่อต้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าในพื้นที่ต่อไป

นายไพเราะ เลิศศิริ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 71/1 ม.5 ต.เสม็ดใต้ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา (อดีตนายก อบต.เสม็ดใต้) ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวแทนคณะกรรมการไตรภาคี ภาคประชาชน กล่าวว่า ในการมารวมตัวชุมนุมของชาวบ้านในวันนี้ เป็นการมาร่วมกันประชุมชี้แจงทำความเข้าใจ เกี่ยวกับเรื่อง การเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากชาวบ้าน เพื่อหาข้อมติจากในที่ประชุมครั้งนี้ว่า ในการทำประชาพิจารณ์เกี่ยวกับการก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่จะมีขึ้นในอนาคต ระหว่างชาวบ้านในพื้นที่ และฝ่ายของโรงไฟฟ้าว่าจะเปิดรับความความคิดเห็นจากประชาชนจำนวนกี่ตำบล ซึ่งทางฝ่ายของโรงไฟฟ้านั้น ได้เรียกร้องขอให้เปิดเวทีประชาพิจารรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในเขตพื้นที่รอบนอก สถานที่ก่อสร้างโรงไฟฟ้า ในรัศมี 5-10 กม. ทั้งหมดรวม 9 ตำบลด้วย แต่ทางฝ่ายชาวบ้านในพื้นที่การก่อสร้าง ซึ่งจะเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงไม่ยินยอม

ชาวบ้านในพื้นที่จะขอให้มีการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นและลงมติ ด้วยเสียงส่วนใหญ่ จากประชาชนเพียง 4 ตำบล เฉพาะในตำบลที่จะได้รับผลกระทบโดยตรง ที่มีพื้นที่ติดกับโรงไฟฟ้าเท่านั้น

มติที่ประชุมในวันนี้ของชาวบ้าน ได้มีมติที่จะให้ทำเวทีประชาพิจารณ์เพียง 4 ตำบลเท่านั้น และในการโหวตลงคะแนนความเห็นนั้น ให้ใช้วิธีลงคะแนนอย่างเปิดเผย ซึ่งจากมติในวันนี้ ทางฝ่ายคณะกรรมการไตรภาคีภาคประชาชน (ตัวแทนชาวบ้าน) จะได้นำไปเสนอในที่ประชุมร่วมกัน 3 ฝ่าย ร่วมกับคณะกรรมการไตรภาคี จากภาคส่วนราชการ และฝ่ายของตัวแทนโรงไฟฟ้า เพื่อวางกรอบในการดำเนินการให้แล้วเสร็จในทุกข้อต่อไป