ตลาดส่งออกอัญมณีแม่สอดทรุดหนักหลังมะกันออกกฎเหล็กห้ามนำเข้าอัญมณีพม่า

ตาก - ตลาดอัญมณีแม่สอด กระทบหนัก หลังอเมริกา ออกกฎเหล็ก Tom Lantos Block Burmese JADE (Junta’s Anti –Democratic Efforts) Act of 2008 ห้ามนำเข้าทับทิมและหยกพม่า ส่งผลกระทบลุกลามทั่วโลก-ผู้ประกอบการประชุมรับมือ เข้าพบ ส.ส.และวุฒิสมาชิกสหรัฐขอยกเลิก แต่ผู้นำอเมริกา ยึดหลักสิทธิมนุษยชน ทำให้แก้ไขยาก-แจง JADE Act 2008 กระทบประชาชน ไม่ใช่กระทบผู้นำพม่า

เมื่อเร็วๆ นี้ คณะกรรมการธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับหอการค้าไทย ได้จัดการประชุมสัญจรขึ้นที่ห้องประชุมหอการค้าจังหวัดตาก (แม่สอด) โดยมีกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจอัญมณีแลเครื่องประดับ จากแม่สอด-กรุงเทพ-เชียงใหม่-จันทบุรี-และกาญจนบุรี เข้าร่วมประชุมกว่า 50 คน

นายวิชัย อัศรัสกร นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับในฐานะประธานคณะกรรมการธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับหอการค้าไทย เปิดเผยว่า การประชุมสัญจรที่อำเภอแม่สอดก็ เพื่อสร้างเครือข่ายและความสัมพันธ์ของผู้ประกอบการอัญมณี และเพื่อให้ผู้ประกอบการได้นำเสนอปัญหาอุปสรรคในช่วงที่การค้าอัญมณี ได้รับผลกระทบกับยอดจำหน่ายในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ และสิ่งสำคัญที่มีการประชุมครั้งนี้ เนื่องจากการค้าอัญมณีฯ กำลังได้รับผลกระทบอย่างหนักกับมาตรการทางกฎหมายของประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ได้ออกประกาศบังคับใช้กฎหมาย Tom Lantos Block Burmese JADE (Junta’s Anti –Democratic Efforts) Act of 2008 หรือที่เรียกว่า JADE Act 2008 ซึ่งได้ออกมาเมื่อประมาณเดือนกรกฎาคม 2551 ลงนามโดย นายจอร์จ ดับเบิลยู บุช ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาในขณะนั้น โดยห้ามนำทับทิม-หยกจากพม่า รวมถึงเครื่องประดับที่มีทับทิมและหยกจากพม่าเป็นส่วนประกอบเข้าไปยังอเมริกา ทั้งจากการส่งตรงจากพม่าหรือผ่านประเทศที่ 3 ซึ่งส่วนใหญ่ผ่านจากไทยด้านตลาดอัญมณีแม่สอด

นายวิชัย กล่าวอีกว่า มาตรการ JADE Act 2008 ที่สหรัฐอเมริกา ออกมาบังคับใช้นั้นมุ่งหวังทางการเมืองที่ต้องการตัดเส้นทางการไหลเข้าของเงินทุนที่สนับสนุนรัฐบาลเผด็จการพม่า SPDC แต่ได้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่ออุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับนานาชาติ โดยเฉพาะกับประเทศผู้ผลิตและส่งออกทับทิมเจียระไนและตกแต่งโดยเฉพาะประเทศไทย การบังคับใช้กฎหมาย Tom Lantos Block Burmese JADE (Junta’s Anti –Democratic Efforts) Act of 2008 หรือที่เรียกว่า JADE Act 2008 จึงมีส่วนทำให้ตลาดส่งออกต่างประเทศอัญมณีลดลงเพราะอเมริกาคือจุดศูนย์รวมใหญ่ที่มีเงินไหลเวียนต่อปีจำนวนมาก เมื่อบังคับใช้ JADE Act จึงส่งผลกระทบโดยตรงกับประชาชน แต่ไม่กระทบกับผู้นำพม่าที่อเมริกาหวังตัดรายได้

“ผมเคยเดินทางไปพบกับ ส.ส.และวุฒิสมาชิก ของอเมริกา รวมทั้งกงสุล อเมริกาในกรุงเทพ หลังนายบารัค โอบามา ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เพื่อขอให้มีการแก้กฎหมาย Tom Lantos Block Burmese JADE (Junta’s Anti –Democratic Efforts) Act of 2008 แต่แนวทางการแก้ไขในปัจจุบันคงเป็นไปได้ยากเพราะ ผู้นำสหรัฐมุ่งเน้นเรื่องสิทธิมนุษยชน-ประชาธิปไตย ผมจึงให้ทางผู้ประกอบการคนไทย ต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์การค้าที่แปรเปลี่ยนไป คือ พึ่งตัวเองและปรับกลยุทธในการค้าอัญมณี” นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับในฐานะประธานคณะกรรมการธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับหอการค้าไทย กล่าวในที่สุด

ด้าน นายบรรพต ก่อเกียรติเจริญ ประธานหอการค้าจังหวัดตาก กล่าวว่าพม่าเป็นแหล่งวัตถุดิบอัญมณีที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมจากนานาชาติมากที่สุด มีสีสันสวยงาม โดยเฉพาะทับทิมและหยก ร้อยละ 90 ที่มีจำหน่ายทั่วโลกนำมาจากพม่าโดยผ่านทาง อ.แม่สอด จ.ตาก โดยมีข้อมูลจากสำนักงานสถิติ กระทรวงวางแผนและพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติพม่า ว่าพม่าผลิตทับทิมได้ปีละมากกว่า 1 ล้านกะรัต และเคยผลิตทับทิมได้สูงสุด 3.35 ล้านกะรัต ในช่วงปี 2547-2548 โดยมีแหล่งผลิตมาจาก 2 แห่ง คือ เมืองโมกก Mogok และเมืองมองซู Mong Hsu และกำลังเริ่มทำเหมืองเพิ่มเติมที่เมืองนายา Namya ส่วนหยกนั้นมาจากทางรัฐคะฉิ่น ซึ่งพม่าสามารถผลิตหยกได้ปีละกว่า 10,000 ตัน และผลิตได้สูงสุดในช่วงปี 2550-2551 กว่า 20,235 ตัน ทำให้แม่สอด เป็นเมืองที่มีมนต์เสน่ห์ในการค้าอัญมณีและเครื่องประดับ เพราะเป็นจุดนำเข้าจากพม่า แต่ด้วยมาตรการที่เข้มงวดของอเมริกา ส่งผลกระทบให้กับตลาดการค้าอย่างมาก

“ผู้ประกอบการจำเป็นต้องรักษาตลาดและฐานการผลิตและส่งออกในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ โดยปรับตัวตั้งรับและต้องรุกเมื่อมีโอกาส สิ่งหนึ่งที่ทำได้ดีที่สุดในช่วงนี้คือการออกโรดโชว์ไปตามต่างจังหวัด สร้างและขยายตลาดในต่างจังหวัด เมื่อวิกฤตเศรษฐกิจผ่านพ้นไปก็ให้เป็นโอกาสสำหรับผู้ค้าอัญมณีและเครื่องประดับอีกครั้ง” ประธานหอการค้าจังหวัดตาก กล่าวในที่สุด