ลำปาง – เหยื่อโรงไฟฟ้าและเหมืองแม่เมาะ 346 ราย จ่อยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองที่ให้ กฟผ.จ่ายค่าชดเชยกรณีก่อผลกระทบ ขณะที่เครือข่ายสิทธิผู้ป่วยแม่เมาะเตรียมจัดตั้งมูลนิธิช่วยเหลือกันเอง โดยใช้เงินจากผู้ป่วยบางส่วนร่วมสมทบทุนก่อตั้ง และอาจขอแบ่ง 10%จากกองทุนพัฒนาคุณภาพชีวิตพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า
นางมะลิวรรณ นาควิโรจน์ เลขาธิการเครือข่ายสิทธิผู้ป่วยแม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง เปิดเผยว่า กรณีศาลปกครองเชียงใหม่ มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 52 มีคำสั่งให้ กฟผ.จ่ายเงินค่าชดเชยความเสียหายเป็นค่าเสื่อมสุขภาพอนามัยและจิตใจแก่ชาวบ้านที่อยู่รอบ ๆ โรงไฟฟ้าแม่เมาะและเหมืองลิกไนต์แม่เมาะ กฟผ. อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง จำนวน 477 ราย ตามพฤติการณ์และความร้ายแรงของการกระทำ ตามปริมาณและจำนวนครั้งที่ กฟผ.ปล่อยก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ทำให้ได้รับผลกระทบ เพียง 131 ราย โดยในจำนวนนี้ 91 ราย ยอมรับคำตัดสินของศาลและจะได้รับค่าชดเชย รายละ 246,900 บาท พร้อมดอกเบี้ย ร้อยละ 7.5 ต่อปี นับจากวันฟ้อง ส่วนอีก 40 ราย ที่ศาลมีคำสั่งจ่ายเงินค่าชดเชยฯ เฉลี่ยรายละ10,000-20,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย ร้อยละ 7.5 และอีก 346 รายที่ศาลมีคำสั่งไม่จ่ายเงินชดเชย จะขอยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาล โดยได้มอบอำนาจให้ทนายความของสภาทนายความยื่นอุทธรณ์ต่อไปเพระเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม
“ส่วนใหญ่ยอมรับคำตัดสิน ส่วนผู้ที่ยื่นอุทธรณ์ก็ใช้สิทธิ์ในการอุทธรณ์ได้ โดยสมาชิกของเครือข่ายฯเกือบทั้งหมด ไม่มีปัญหา ขณะนี้ได้ประสานกับทางบอร์ด กฟผ. เพื่อจ่ายเงินค่าชดเชยตามคำสั่งศาลให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน พร้อมกับเรียกร้องให้ ผู้บริหาร กฟผ.และฝ่ายปกครองในจังหวัดลำปาง ดำเนินการจัดตั้งกองทุนสวัสดิการเยียวยาแก่ผู้ป่วยทั้งหมดตามคำสั่งศาลปกครอง
"เบื้องต้น จะมีการระดมเงินเข้าสมทบกองทุน ซึ่งชาวบ้านจัดใช้วิธีทอดผ้าป่า ส่วนทาง กฟผ.หรือหน่วยงานฝ่ายปกครองจะสมทบร่วมด้วยก็ไม่ขัดข้อง ซึ่งอาจจะขอส่วนแบ่งจากกองทุนพัฒนาคุณภาพชีวิตพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าร้อยละ 10 เข้าสมทบด้วย ทั้งนี้ ชาวบ้านคงจะต้องดูแลกันเองต่อไป ซึ่งอยากจะขอร้องว่า ที่ผ่านมาพวกเราได้รับความเดือดร้อนมายาวนาน ผลจากคำสั่งศาลปกครองเชียงใหม่ ทำให้ชาวบ้านต้องได้รับการดูแลมากขึ้น ซึ่งถือเป็นการเยียวยาให้กับผู้เสียสละทั้งมวล ไม่ว่าจะเจ็บป่วยหรือเสียชีวิตไปก่อนหน้านี้”เลขาธิการเครือข่ายสิทธิผู้ป่วยแม่เมาะ กล่าว
นางมะลิวรรณ นาควิโรจน์ เลขาธิการเครือข่ายสิทธิผู้ป่วยแม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง เปิดเผยว่า กรณีศาลปกครองเชียงใหม่ มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 52 มีคำสั่งให้ กฟผ.จ่ายเงินค่าชดเชยความเสียหายเป็นค่าเสื่อมสุขภาพอนามัยและจิตใจแก่ชาวบ้านที่อยู่รอบ ๆ โรงไฟฟ้าแม่เมาะและเหมืองลิกไนต์แม่เมาะ กฟผ. อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง จำนวน 477 ราย ตามพฤติการณ์และความร้ายแรงของการกระทำ ตามปริมาณและจำนวนครั้งที่ กฟผ.ปล่อยก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ทำให้ได้รับผลกระทบ เพียง 131 ราย โดยในจำนวนนี้ 91 ราย ยอมรับคำตัดสินของศาลและจะได้รับค่าชดเชย รายละ 246,900 บาท พร้อมดอกเบี้ย ร้อยละ 7.5 ต่อปี นับจากวันฟ้อง ส่วนอีก 40 ราย ที่ศาลมีคำสั่งจ่ายเงินค่าชดเชยฯ เฉลี่ยรายละ10,000-20,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย ร้อยละ 7.5 และอีก 346 รายที่ศาลมีคำสั่งไม่จ่ายเงินชดเชย จะขอยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาล โดยได้มอบอำนาจให้ทนายความของสภาทนายความยื่นอุทธรณ์ต่อไปเพระเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม
“ส่วนใหญ่ยอมรับคำตัดสิน ส่วนผู้ที่ยื่นอุทธรณ์ก็ใช้สิทธิ์ในการอุทธรณ์ได้ โดยสมาชิกของเครือข่ายฯเกือบทั้งหมด ไม่มีปัญหา ขณะนี้ได้ประสานกับทางบอร์ด กฟผ. เพื่อจ่ายเงินค่าชดเชยตามคำสั่งศาลให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน พร้อมกับเรียกร้องให้ ผู้บริหาร กฟผ.และฝ่ายปกครองในจังหวัดลำปาง ดำเนินการจัดตั้งกองทุนสวัสดิการเยียวยาแก่ผู้ป่วยทั้งหมดตามคำสั่งศาลปกครอง
"เบื้องต้น จะมีการระดมเงินเข้าสมทบกองทุน ซึ่งชาวบ้านจัดใช้วิธีทอดผ้าป่า ส่วนทาง กฟผ.หรือหน่วยงานฝ่ายปกครองจะสมทบร่วมด้วยก็ไม่ขัดข้อง ซึ่งอาจจะขอส่วนแบ่งจากกองทุนพัฒนาคุณภาพชีวิตพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าร้อยละ 10 เข้าสมทบด้วย ทั้งนี้ ชาวบ้านคงจะต้องดูแลกันเองต่อไป ซึ่งอยากจะขอร้องว่า ที่ผ่านมาพวกเราได้รับความเดือดร้อนมายาวนาน ผลจากคำสั่งศาลปกครองเชียงใหม่ ทำให้ชาวบ้านต้องได้รับการดูแลมากขึ้น ซึ่งถือเป็นการเยียวยาให้กับผู้เสียสละทั้งมวล ไม่ว่าจะเจ็บป่วยหรือเสียชีวิตไปก่อนหน้านี้”เลขาธิการเครือข่ายสิทธิผู้ป่วยแม่เมาะ กล่าว