สุโขทัย – ชาวบ้านโวยอุทยานประวัติศาสตร์ฯ กล่าวหารุกที่ “อุทยานฯ สุโขทัย” ยันทำกิน-อยู่อาศัยมานานหลายสิบปี บางรายได้รับเป็นมรดกตกทอดจากรุ่นพ่อรุ่นแม่ พร้อมเสียภาษีและมีเอกสาร ภ.บ.ท.5 ในมือแล้ว
รายงานข่าวจากจังหวัดสุโขทัย แจ้งว่า วันนี้ (11 มี.ค.) นายภาคภูมิ อยู่พูล นักโบราณคดี อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ได้นำคณะผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบพื้นที่บริเวณเขตโบราณสถานชั้นนอก ตรงข้ามวัดสะพานหิน หมู่ 10 ต.เมืองเก่า อ.เมืองสุโขทัย หลังตกเป็นข่าวว่ามีชาวบ้านบุกรุก ตัดต้นไม้ ถางป่า รวมทั้งล้อมรั้วลวดหนาม เพื่อแบ่งเขตครอบครอง และทำเป็นไร่อ้อย ปลูกมันสำปะหลัง ทั้งมีการลงเสาไฟฟ้าเข้าไปยังที่พักอาศัยของชาวบ้าน รวมพื้นที่ กว่า 400 ไร่
นายภาคภูมิชี้แจงว่า พื้นที่ดังกล่าวมีชาวบ้านอยู่อาศัย และครอบครองทำกินก่อนที่กรมศิลปากรจะเข้ามามีบทบาทในการดูแล โดยมากจะไม่มีเอกสารสิทธิ แต่ก็ได้อะลุ่มอล่วยให้สามารถครอบครองทำกินได้ ส่วนการสร้างรีสอร์ต เกสต์เฮาส์ ไม่พบว่ามีการบุกรุกพื้นที่อุทยานฯ และส่วนใหญ่มีเอกสารสิทธิ เป็น น.ส.3 หรือโฉนดที่ดิน
อย่างไรก็ตาม หากพบว่ามีการบุกรุกปรับเปลี่ยนสภาพภูมิประเทศ ทำลายภูมิทัศน์ หรือเนินโบราณสถาน เพื่อปรับพื้นที่ทำเกษตรกรรม ทางกรมศิลป์ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย ทันที
ด้าน ด.ต.อนงค์ มีแก้ว เจ้าของบ้านเลขที่ 199 หมู่ 10 ต.เมืองเก่า ซึ่งครอบครองที่ดินรวม 12 ไร่ บริเวณตรงข้ามวัดสะพานหิน เปิดเผยว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นมรดกที่รับต่อมาจากมารดา และครอบครองทำกินกันมาเกือบ 20 ปีแล้ว และมีใบ ภ.บ.ท.5 เสียภาษีบำรุงท้องที่ มาโดยตลอด
“ส่วนชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงก็เช่นกัน มีการเสียภาษี และครอบครองทำกินกันมานานหลายสิบปีแล้ว กรณีมีการทุบทำลายกำแพงดินโบราณ ในเขตโบราณสถานคูเมืองชั้นใน จนกลายเป็นถนนทางเข้าออกทะลุกำแพงนั้น ก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานหลายปีมากแล้ว” ด.ต.อนงค์ กล่าว