xs
xsm
sm
md
lg

น้ำต้นทุนเหนืออ่างเก็บน้ำเมืองน่านวูบ เกษตรกรเจอเคราะห์ซ้ำ-ศัตรูพืชระบาดเร็ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


น่าน – น้ำต้นทุนเหนืออ่าง-ฝายต่างๆ ทั่วเมืองน่านลดลงกว่าครึ่ง หลังเจอแล้งรุนแรง ขณะที่ชลประทานฯ ยังยืนยัน มีน้ำเพียงพอสำหรับพืชผลทางการเกษตรในเขตชลประทาน แต่อาจวิกฤตส่งผลกระทบต่อพื้นที่นอกเขตชลประทานได้ เกษตรกรเจอเคราะห์ซ้ำโรคระบาดหน้าแล้งมาเร็วกว่าปกติ ทำผลผลิตเสียหายแทบทั้งบาง

นายสมบัติ แปงมูล หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 1 โครงการชลประทานน่าน สำนักชลประทานที่ 2 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ได้ออกสำรวจปริมาณน้ำในฝายสมุน อ.เมืองน่าน เพื่อบริหารจัดการระบบน้ำ ให้เพียงพอต่อพื้นที่การเกษตรในพื้นที่ 5 ตำบล ได้แก่ ต.สะเนียน, ต.ดู่ใต้, ต.ผาสิงห์, ต.ถืมตอง และ ต.ไชยสถาน อำเภอเมืองน่าน มีพื้นที่การเกษตรรวม 7,700 ไร่ เพื่อป้องกันพืชผลทางการเกษตร โดยเฉพาะถั่วเหลือง ไม่ให้ได้รับความเสียหายจากสภาพอากาศที่แห้งแล้ง

ด้าน นายประสพ ศรีสายเชื้อ ชลประทานน่าน เปิดเผยว่า จากการสำรวจปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำและฝายต่างๆ ที่ชลประทานน่านรับผิดชอบ พบว่า อ่างห้วยหวะ อ.ภูเพียง มีปริมาณน้ำน้อยกว่า 30% และอ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก ที่มีปริมาณน้ำในอ่างน้อยกว่า 40%จำนวน 5 แห่ง ได้แก่ อ่างห้วยลากปืน อ่างห้วยขอนแก่น อ่างห้วยข้าวหลาม พื้นที่ อ.สันติสุข อ่างห้วยฝ้า อ.เมือง และ อ่างห้วยแฮน อ.ภูเพียง นอกจากนี้ยังพบว่าอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กอีก 25 แห่ง มีปริมาณน้ำน้อยกว่า 60%

โดยภาพรวมแล้วขณะนี้ อ่างเก็บน้ำขนาดกลางมีปริมาณน้ำโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 70.44% อ่างเก็บน้ำตามโครงการพระราชดำริ มีปริมาณน้ำเฉลี่ย 49.98% และอ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก มีปริมาณน้ำเฉลี่ย 60.11% ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมวางแผนการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้เพียงพอต่อพื้นที่การเกษตรในเขตชลประทานทั้งหมด


ขณะที่เกษตรกรผู้ปลูกผักขาย นอกจากต้องระทมกับสภาพอากาศร้อนและแห้งแล้ง จนพืชผักใบเหลือง เหี่ยวเฉาแล้ว ยังต้องประสบกับปัญหาศัตรูพืชระบาดช่วงหน้าแล้งด้วย ซึ่งล่าสุด เกษตรกรผู้ปลูกผัก 5 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านพระหัต, บ้านร้องตอง, บ้านหนองเต่า, บ้านม่วงตึ๊ดของตำบลม่วงตึ๊ด อ.ภูเพียง จ.น่าน ต้องเร่งสูบน้ำจากแม่น้ำเข้าฉีดไล่ตัวด้วงหมัดที่กำลังระบาดกัดกินใบผักจนเป็นรูพรุนเสียหายแล้วกว่า 10 ไร่

โดยนายวิโมธ ทะนันชัย เกษตรผู้ปลูกผักบ้านศรีบุญเรือง หมู่ 5 ต.ม่วงตึ๊ด อ.ภูเพียง จ.น่าน กล่าวว่า ช่วงหน้าแล้ง ประมาณเดือนเมษายนของทุกปีจะมีศัตรูพืชระบาด ซึ่งเมื่อถึงช่วงนั้นทุกคนจะงดปลูกผักกัน แต่ปีนี้แล้งมาเร็วกว่าปกติ พืชผักที่ปลูกไว้กำลังจะโต แต่ก็ถูกตัวด้วงหมัดระบาดกัดกินใบจนเป็นรูพรุน เสียหายหมดทั้งแปลงขณะนี้ชาวบ้านกำลังเร่งกันสูบน้ำฉีดไล่ตัวด้วงหมัด ซึ่งไม่สามารถป้องกันได้ทั้งหมด แต่ก็หวังว่าจะเสียหายน้อยลง แต่ก็คิดว่าผักที่ปลูกในฤดูนี้คงไม่ได้กำไรแน่นอนเพราะนอกจากเสียหายจากตัวด้วงหมัดแล้ว ยังต้องเสียเงินเพิ่มเพื่อซื้อน้ำมันเบนซินมาใส่เครื่องปั้มสูบน้ำฉีดไล่ด้วงหมัดเพิ่มค่าใช้จ่ายเข้าไปอีก

กำลังโหลดความคิดเห็น