ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - อุทยานฯ เขาใหญ่ ขอเฮลิคอปเตอร์ กระทรวงทรัพย์ฯ จากขอนแก่นช่วยบินค้นหาพระธุดงค์ 2 รูปที่พลัดหลงขณะธุดงค์ในเขตอุทยานฯ ต่อเนื่องอีก หลังค้นหาร่วม 2 วันแล้วไม่พบ ด้าน หน.อุทยานฯ เขาใหญ่ ระดมเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่าโดยรอบอุทยานฯ เข้าเสริมรวมเป็น 50 นาย โดยภาคพื้นดินจะเดินปูพรมค้นหาตลอดทุ่งหญ้าเขาแหลม ต่อเนื่องไปถึงเขาร่ม จ.ปราจีนบุรี หากไม่พบในวันนี้ต้องวางแผนค้นหาใหม่และประสานกำลังเข้าช่วย
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการค้นหาพระธุดงค์ 2 รูปที่พลัดหลงเข้าไปในป่าลึกในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มรดกโลก บริเวณทุ่งเขาแหลม อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมาตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา
ล่าสุด วันนี้ (9 มี.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น.นายมาโนช การพนักงาน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เปิดเผยว่า หลังจากเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ได้กระจายกำลังออกค้นหาพระธุดงค์ทั้ง 2 รูปบริเวณทุ่งเขาแหลม ตลอดเมื่อวานนี้ยังไม่พบร่องรอยแต่อย่างใด และพระธุดงค์ไม่ได้ทำตามที่เจ้าหน้าที่แนะนำเมื่อครั้งล่าสุดที่ติดต่อทางโทรศัพท์เมื่อช่วงเย็นวันที่ 7 มี.ค. คือให้ออกมาอยู่ในพื้นที่โล่งหรือจุดไฟเพื่อส่งสัญญาณให้กับเจ้าหน้าที่ชุดค้นหา
อย่างไรก็ตาม ชุดค้นหายังไม่ละความพยายาม จะยังคงค้นหาต่อไปอีก โดยได้ติดต่อขอเฮลิคอปเตอร์จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งจอดประจำการอยู่ที่จังหวัดขอนแก่นมาทำการบินเพื่อค้นหาทางอากาศ เนื่องจากลำเดิมที่ใช้บินคนหาเมื่อวานนี้ (8 มี.ค.) อยู่ระหว่างการซ่อมบำรุง โดยตนได้ขึ้นเครื่องบินไปพร้อมกับเจ้าหน้าที่ในเวลา 10.00 น.วันนี้ (9 มี.ค.)
ในส่วนของภาคพื้นดิน ได้ระดมเจ้าหน้าที่ป่าไม้จากหน่วยพิทักษ์ป่าในพื้นที่โดยรอบเขตอุทยานฯ 10 หน่วยๆ ละ 3 นาย รวม 30 นาย มาเสริมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดค้นหาเดิมที่มีอยู่จำนวน 20 นาย รวม 50 นาย ออกทำการค้นหา โดยเป้าหมายยังอยู่ที่บริเวณทุ่งเขาแหลม อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ต่อเนื่องไปยังเขาร่มเขต จ.ปราจีนบุรี
นายมาโนชกล่าวต่อว่า บริเวณทุ่งหญ้าเขาแหลม เป็นพื้นราบสลับกับป่าทึบ จึงเป็นอุปสรรคต่อการค้นหาของเจ้าหน้าที่ และบริเวณดังกล่าวยังมีสัตว์ป่าชุกชุมจึงน่าเป็นห่วงพระธุดงค์ทั้ง 2 รูปอย่างมาก และจากการติดต่อทางโทรศัพท์ของพระดำ หรือพระสมชาย อายุ 30 ปี ที่ธุดงค์เข้าไปในเขตอุทยานฯ ครั้งล่าสุดเมื่อช่วงเย็นของวันเสาร์ที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา แจ้งออกมาว่า พระธุดงค์อีกรูปที่ไปด้วยกันขาดน้ำเป็นลม แต่ไม่ทราบว่าอยู่ส่วนไหนของอุทยานฯ
ทั้งนี้ จากการสอบถามมารดาของพระดำ ทราบว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พระดำแจ้งว่า จะมาพบพระสหคำ ที่ จ.นครราชสีมา จากนั้นจะเดินธุดงค์ไปยัง จ.ปราจีนบุรี โดยผ่านอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งได้เข้าเดินธุดงค์จากพื้นที่ ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา และเข้ามายังหน่วยพิทักษ์ป่าผากระดาษ น้ำตกมะนาวยักษ์ ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ก่อนที่จะหายไป
นายมาโนช กล่าวว่า จากการสอบถามพระบุญชู เจ้าอาวาสวัดเสาไห้ จ.สุพรรณบุรี ทราบว่า พระดำเคยเดินธุดงค์ในป่าเขตอุทยานทุ่งใหญ่นเรศวรมาหลายครั้งแล้ว ไม่เคยพลัดหลง แต่ป่าในเขตอุทยานฯเขาใหญ่กับทุ่งใหญ่นเรศวรไม่เหมือนกันและพระดำยังไม่เคยมีประสบการณ์ในเส้นทางดังกล่าวอาจทำให้พลัดหลงเข้าไปในป่าลึก
“ทางอุทยานฯ จะค้นหาพระธุดงค์ทั้ง 2 รูปต่ออีก 1 วัน โดยให้เจ้าหน้าที่ในแต่ละจุดเดินลาดตระเวนแบบถี่ยิบขึ้นไปยังพื้นที่เป้าหมาย คือ ทุ่งหญ้าเขาแหลม เพื่อค้นหาให้ละเอียดอีกครั้ง เชื่อว่าหากพระธุดงค์ทั้ง 2 รูปหายเข้าไปในเขตพิทักษ์ป่าทุ่งเขาแหลมจริงน่าจะค้นหาตัวพบ แต่หากไม่พบคงต้องปรับแผนและประสานหน่วยอื่นเข้ามาช่วยค้นหาต่อไป” นายมาโนช กล่าว