กาฬสินธุ์ - บรรยากาศการลงพื้นที่ตรวจงานของ รมว.อุตสาหกรรม – รมว.แรงงาน ที่เมืองน้ำดำราบรื่น ไร้เงาเสื้อแดงป่วน ด้าน ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 300 นายทั้งในและนอกเครื่องแบบคุมเข้มทุกจุด ขณะ "ชาญชัย"ชี้ม็อบต่อต้านเป็นเรื่องธรรมดาที่ประชาชนเริ่มชิน เชื่อทุกที่ไม่มีเหตุรุนแรง "ไพฑูรย์"แจงเช็ค 2,000 บาท เผยเตรียมทุ่ม 300 ล้านแก้แรงงานอพยพ
เมื่อวันที่ 8 มีนาคม เวลา 10.00 น. ที่โรงสีรุ่งชัยกิจ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เดินทางเข้าตรวจเยี่ยมเขตอุตสาหกรรม ของจ.กาฬสินธุ์ โดยมีนายนายเสรี ทองอยู่ อุตสาหกรรม จ.กาฬสินธุ์ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหาร อปท.เขตอ.เมือง ให้การต้อนรับท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังมีการแพร่กระจายข่าวกลุ่มม็อบเสื้อแดงกาฬสินธุ์จะรวมกลุ่มขับไล่รัฐมนตรี จนทางคณะเดินทางต้องปรับเปลี่ยนเส้นทางการเดินทางและกำหนดการอย่างกะทันหัน
นายชาญชัย กล่าวว่า ขณะนี้อุตสาหกรรมในแถบภาคอีสานรวมทั้ง จ.กาฬสินธุ์กำลังจะขาดสภาพคล่อง ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่จะต้องเร่งแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน ที่ในส่วนตัวจะนำเรื่องนี้เข้า ครม.เพื่อหาทางแก้ปัญหา แต่ถือว่ายังโชคดีที่ยังไม่มีการลดอัตราการจ้างงานในพื้นที่มากนัก และนอกจากนี้ยังพบว่าโรงงานอุตสาหกรรมในแถบอีสานรวมทั้ง จ.กาฬสินธุ์ ยังขาดโกดังที่จะเก็บผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการที่จะเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวและมันสำปะหลังขาดโอกาส เป็นผลพวงให้เกิดการการเอารัดเอาเปรียบจากกลุ่มนายทุนที่มีกำลังมากกว่า ที่ต่อไปทางกระทรวงอุตสาหกรรมจะหาทางแก้ไขปัญหานี้เช่นกัน
ส่วนในการเดินทางมาครั้งนี้ ได้มอบนโยบายให้กับส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเน้นการเข้าไปแก้ปัญหาให้กับอุตสาหกรรม ทั้งขนาดใหญ่ ขนาดเล็ก ขนาดย่อมและระดับครัวเรือน แต่นโยบายเร่งด่วนที่จะดำเนินการใน 3 – 6 เดือน คือการพัฒนาและส่งเสริมอุตสาหกรรมระดับครอบครัว ขนาดย่อม และขนาดเล็ก โดยจะเอากลุ่มผู้ประกอบการโอทอป ขึ้นทะเบียนรอรับการส่งเสริมต่อไป
ด้านปัญหากลุ่มเสื้อแดงที่ที่ออกมาต่อต้านรัฐบาลและรัฐมนตรีที่เดินปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ทั่วประเทศถือว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะมีมาหลายปีแล้วซึ่งตนเองเชื่อว่าประชาชนเริ่มชินกับเหตุการณ์แบบนี้ ส่วนม็อบหากมีการต่อต้านหรือไล่รัฐมนตรีจริงมันก็ไม่รุนแรงอะไรเพราะไม่มีอะไรเสียหายทั้งทรัพย์ทางราชการและการบาดเจ็บของประชาชน
วันเดียวกันเวลา 13.00 น. ที่ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ นายไพฑูรย์ แก้วทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่ตรวจงานในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างแน่นหนา เนื่องจากในพื้นที่มีข่าวแพร่สะพัดการรวมตัวของกลุ่มเสื้อแดงที่จะเข้ามาป่วนการปฏิบัติหน้าที่ของคณะรัฐมนตรีตลอดทั้งวัน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ส่วนใหญ่มีอาชีพด้านการเกษตรกรรมถึงร้อยละ 75 แต่ในหน้าแล้งหรือหลังฤดูกาลเก็บเกี่ยวจะมีแรงงานอพยพออกนอกพื้นที่จำนวนมาก ในขณะนี้ทางกระทรวงแรงงานได้ทุ่มงบประมาณกว่า 300 ล้านบาทเพื่อนำมาแก้ไขปัญหาในช่วงหน้าแล้งที่จะเน้นการสร้างอาชีพ การฝึกอาชีพ ซึ่งผู้ที่เข้ามาฝึกอาชีพจะมีรายได้มีเบี้ยเลี้ยงเงินเดือนจากทางแรงงานฯ ส่วนภาพรวมขงทั่วประเทศขณะนี้ตัวเลขจากการถูกเลิกจ้างและว่างงานสูงขึ้นตามลำดับที่จะเห็นได้จากการลงทะเบียนรับเช็ค 2,000 บาท ในเดือน ม.ค.มีกว่า 60,000 ราย
ส่วนเดือน ก.พ.สูงถึง 100,000 กว่าราย ที่ถือว่าสูงเพิ่มมากขึ้นเรื่อง และเป็นสิ่งหนึ่งที่กำลังสร้างความหนักใจให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่จะเข้าไปแก้ไขปัญหา อย่างไรก็ตามในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ทั้ง 18 อำเภอ ในเดือน ม.ค. – เดือน ก.พ. มีผู้ว่างงานจำนวน 1,410 คน โดยส่วนใหญ่เป็นผู้ถูกเลิกจ้างจากกรุงเทพฯ และเขตปริมณฑล และจังหวัดอื่น ๆ ส่วนในพื้นที่กาฬสินธุ์เองมีผู้ถูกเลิกจ้างจำนวน 51 รายเท่านั้น ซึ่งการลงพื้นที่สมาชิกกลุ่มอาชีพที่จ.กาฬสินธุ์ ได้มอบนโยบายในการเตรียมความพร้อมรับแรงงานคืนถิ่นจากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ
โดยจะเน้นให้บุคลากรในสังกัดกระทรวงแรงงานได้รับรู้ในแนวทางในการช่วยเหลือผู้ถูกเลิกจ้าง ว่างงาน ของกระทรวงฯ รวมถึงการสร้างโอกาสในการประกอบอาชีพอิสระ หรือปรับเปลี่ยนอาชีพแก่ผู้ถูกเลิกจ้าง ว่างงานและประชาชนทั่วไป
นายไพฑูรย์ กล่าวอีกว่า ในเรื่องของเช็ค 2,000 บาทที่จะมีการมอบในวันที่ 26 มีนนาคม นี้ ขณะนี้ได้มีการระดมเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงแรงงาน นำเช็คไปมอบให้กับผู้ที่มีรายชื่อที่ได้เช็คถึงสถานประกอบการหรือที่ทำงาน โดยจะต้องมีหลักฐานการรับมอบคือ บัตรประจำตัวประชาชน ทั้งนี้เพื่อป้องกันปัญหาเช็คปลอม การปลอมลายเซ็นและการเปลี่ยนมือผู้ถือเช็ค และมั่นใจว่าทุกอย่างจะลงตัวไม่มีปัญหาแน่นอน
สำหรับบรรยากาศการดูแลความปลอดภัยเป็นไปอย่างเข้มงวด โดย พล.ต.ต.คณิสร น้อยนารถ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ควบคุมการปฏิบัติงานด้วยตนเอง ที่ได้มีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบกว่า 300 นายคุมเข้มทุกจุดที่ คณะรัฐมนตรีลงพื้นที่ปฏิบัติงาน แต่ก็ไร้เงาของกลุ่มเสื้อแดงกาฬสินธุ์เข้าไปป่วน
เมื่อวันที่ 8 มีนาคม เวลา 10.00 น. ที่โรงสีรุ่งชัยกิจ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เดินทางเข้าตรวจเยี่ยมเขตอุตสาหกรรม ของจ.กาฬสินธุ์ โดยมีนายนายเสรี ทองอยู่ อุตสาหกรรม จ.กาฬสินธุ์ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหาร อปท.เขตอ.เมือง ให้การต้อนรับท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังมีการแพร่กระจายข่าวกลุ่มม็อบเสื้อแดงกาฬสินธุ์จะรวมกลุ่มขับไล่รัฐมนตรี จนทางคณะเดินทางต้องปรับเปลี่ยนเส้นทางการเดินทางและกำหนดการอย่างกะทันหัน
นายชาญชัย กล่าวว่า ขณะนี้อุตสาหกรรมในแถบภาคอีสานรวมทั้ง จ.กาฬสินธุ์กำลังจะขาดสภาพคล่อง ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่จะต้องเร่งแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน ที่ในส่วนตัวจะนำเรื่องนี้เข้า ครม.เพื่อหาทางแก้ปัญหา แต่ถือว่ายังโชคดีที่ยังไม่มีการลดอัตราการจ้างงานในพื้นที่มากนัก และนอกจากนี้ยังพบว่าโรงงานอุตสาหกรรมในแถบอีสานรวมทั้ง จ.กาฬสินธุ์ ยังขาดโกดังที่จะเก็บผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการที่จะเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวและมันสำปะหลังขาดโอกาส เป็นผลพวงให้เกิดการการเอารัดเอาเปรียบจากกลุ่มนายทุนที่มีกำลังมากกว่า ที่ต่อไปทางกระทรวงอุตสาหกรรมจะหาทางแก้ไขปัญหานี้เช่นกัน
ส่วนในการเดินทางมาครั้งนี้ ได้มอบนโยบายให้กับส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเน้นการเข้าไปแก้ปัญหาให้กับอุตสาหกรรม ทั้งขนาดใหญ่ ขนาดเล็ก ขนาดย่อมและระดับครัวเรือน แต่นโยบายเร่งด่วนที่จะดำเนินการใน 3 – 6 เดือน คือการพัฒนาและส่งเสริมอุตสาหกรรมระดับครอบครัว ขนาดย่อม และขนาดเล็ก โดยจะเอากลุ่มผู้ประกอบการโอทอป ขึ้นทะเบียนรอรับการส่งเสริมต่อไป
ด้านปัญหากลุ่มเสื้อแดงที่ที่ออกมาต่อต้านรัฐบาลและรัฐมนตรีที่เดินปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ทั่วประเทศถือว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะมีมาหลายปีแล้วซึ่งตนเองเชื่อว่าประชาชนเริ่มชินกับเหตุการณ์แบบนี้ ส่วนม็อบหากมีการต่อต้านหรือไล่รัฐมนตรีจริงมันก็ไม่รุนแรงอะไรเพราะไม่มีอะไรเสียหายทั้งทรัพย์ทางราชการและการบาดเจ็บของประชาชน
วันเดียวกันเวลา 13.00 น. ที่ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ นายไพฑูรย์ แก้วทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่ตรวจงานในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างแน่นหนา เนื่องจากในพื้นที่มีข่าวแพร่สะพัดการรวมตัวของกลุ่มเสื้อแดงที่จะเข้ามาป่วนการปฏิบัติหน้าที่ของคณะรัฐมนตรีตลอดทั้งวัน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ส่วนใหญ่มีอาชีพด้านการเกษตรกรรมถึงร้อยละ 75 แต่ในหน้าแล้งหรือหลังฤดูกาลเก็บเกี่ยวจะมีแรงงานอพยพออกนอกพื้นที่จำนวนมาก ในขณะนี้ทางกระทรวงแรงงานได้ทุ่มงบประมาณกว่า 300 ล้านบาทเพื่อนำมาแก้ไขปัญหาในช่วงหน้าแล้งที่จะเน้นการสร้างอาชีพ การฝึกอาชีพ ซึ่งผู้ที่เข้ามาฝึกอาชีพจะมีรายได้มีเบี้ยเลี้ยงเงินเดือนจากทางแรงงานฯ ส่วนภาพรวมขงทั่วประเทศขณะนี้ตัวเลขจากการถูกเลิกจ้างและว่างงานสูงขึ้นตามลำดับที่จะเห็นได้จากการลงทะเบียนรับเช็ค 2,000 บาท ในเดือน ม.ค.มีกว่า 60,000 ราย
ส่วนเดือน ก.พ.สูงถึง 100,000 กว่าราย ที่ถือว่าสูงเพิ่มมากขึ้นเรื่อง และเป็นสิ่งหนึ่งที่กำลังสร้างความหนักใจให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่จะเข้าไปแก้ไขปัญหา อย่างไรก็ตามในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ทั้ง 18 อำเภอ ในเดือน ม.ค. – เดือน ก.พ. มีผู้ว่างงานจำนวน 1,410 คน โดยส่วนใหญ่เป็นผู้ถูกเลิกจ้างจากกรุงเทพฯ และเขตปริมณฑล และจังหวัดอื่น ๆ ส่วนในพื้นที่กาฬสินธุ์เองมีผู้ถูกเลิกจ้างจำนวน 51 รายเท่านั้น ซึ่งการลงพื้นที่สมาชิกกลุ่มอาชีพที่จ.กาฬสินธุ์ ได้มอบนโยบายในการเตรียมความพร้อมรับแรงงานคืนถิ่นจากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ
โดยจะเน้นให้บุคลากรในสังกัดกระทรวงแรงงานได้รับรู้ในแนวทางในการช่วยเหลือผู้ถูกเลิกจ้าง ว่างงาน ของกระทรวงฯ รวมถึงการสร้างโอกาสในการประกอบอาชีพอิสระ หรือปรับเปลี่ยนอาชีพแก่ผู้ถูกเลิกจ้าง ว่างงานและประชาชนทั่วไป
นายไพฑูรย์ กล่าวอีกว่า ในเรื่องของเช็ค 2,000 บาทที่จะมีการมอบในวันที่ 26 มีนนาคม นี้ ขณะนี้ได้มีการระดมเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงแรงงาน นำเช็คไปมอบให้กับผู้ที่มีรายชื่อที่ได้เช็คถึงสถานประกอบการหรือที่ทำงาน โดยจะต้องมีหลักฐานการรับมอบคือ บัตรประจำตัวประชาชน ทั้งนี้เพื่อป้องกันปัญหาเช็คปลอม การปลอมลายเซ็นและการเปลี่ยนมือผู้ถือเช็ค และมั่นใจว่าทุกอย่างจะลงตัวไม่มีปัญหาแน่นอน
สำหรับบรรยากาศการดูแลความปลอดภัยเป็นไปอย่างเข้มงวด โดย พล.ต.ต.คณิสร น้อยนารถ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ควบคุมการปฏิบัติงานด้วยตนเอง ที่ได้มีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบกว่า 300 นายคุมเข้มทุกจุดที่ คณะรัฐมนตรีลงพื้นที่ปฏิบัติงาน แต่ก็ไร้เงาของกลุ่มเสื้อแดงกาฬสินธุ์เข้าไปป่วน
