ผู้ว่าฯลำปางสั่งเข้ม “อปท.-ขรก.” ทุกส่วนช่วยลดการเผาสกัดหมอกควัน

ลำปาง - ผู้ว่าฯลำปาง วาง 10 มาตรการเข้มลดปัญหาหมอกควัน สั่งกำชับ อปท.ข้าราชการในพื้นที่ทุกภาคส่วนให้ช่วยกัน หากขอร้องไม่ได้ผลให้ใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด

วันนี้ (3 มี.ค.) นายอมรพันธุ์ นิมานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง พร้อมด้วย นายสามารถ ลอยฟ้า รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้เป็นประธานในการประชุมหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาหมอกควันของจังหวัด หลังผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางเข้ารับมอบนโยบายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วานนี้ (2 มี.ค.)

ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้สรุปสาเหตุของการเกิดปัญหาหมอกควัน ว่า ส่วนใหญ่ยังคงเกิดจากไฟป่า เนื่องจากที่ผ่านมาฤดูหนาวของลำปางมีช่วงเวลานาน ความแห้งแล้งทำให้ใบไม้ร่วงและทับถมกัน ความร้อนจากแสงอาทิตย์ ทำให้ใบไม้ที่แห้งเกิดลุกเป็นไฟป่าขึ้นหลายแห่งเป็นบริเวณกว้างแตกต่างกัน และเกิดจากฝีมือของมนุษย์ทั้งที่ตั้งใจเผาเพื่อล่าสัตว์ หาของป่า และการเผาหญ้าริมทาง รวมถึงการเผาขยะจากครัวเรือน การเผากลางแจ้งแทนการฝังกลบ และการเผาซังอ้อย ซังข้าวเพื่อเปลี่ยนไปปลูกพืชชนิดอื่นด้วย

ดังนั้น จึงได้กำชับให้ อปท.ทุกแห่ง ข้าราชการ และประชาชน ให้ความร่วมมือในการยุติการเผาป่า เผาหญ้า เผาขยะ และกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกอ้อยลดจำนวนการเผาอ้อยลงให้ได้มากที่สุดหลังพบว่า มีการเผาอ้อยส่งโรงงานน้ำตาลสูงเกือบ 80% ควบคู่ไปกับ 10 มาตรการที่ทางจังหวัดได้ประกาศขอความร่วมมือไปก่อนหน้านี้แล้ว

โดยในวันนี้ได้เน้นย้ำให้ทุกส่วนได้นำกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายอาญา กฎหมายเกี่ยวกับป่าไม้ กฎหมายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม กฎหมายจราจรทางบก และอื่นๆ นำออกมาใช้บังคับโดยเด็ดขาดหากบุคคลใดยังฝ่าฝืนและยังมีการเผาขยะ เผาหญ้า หรืออื่นๆ อันเป็นเหตุทำให้เกิดมลพิษทางอากาศ

นอกจากนี้ ยังขอความร่วมมือไปยังโรงเรียนทุกแห่งให้เด็กนักเรียนช่วย ประชาสัมพันธ์ให้กับผู้ปกครองและญาติพี่น้องให้ยุติการกระทำดังกล่าวด้วย ซึ่งมาตรการที่นำออกมาเสริมดังกล่าวคาดว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์หมอกควันในพื้นที่จังหวัดลำปางให้กลับเข้าสู่สภาวะปกติได้ในไม่ช้า

ล่าสุด จากการวัดปริมาณฝุ่นขนาดเล็กเกิน 10 ไมครอน (PM10) ของพื้นที่ลำปาง วัดได้ 170.9 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) วัดได้ 122 ซึ่งค่าดังกล่าวใกล้เข้าสู่สภาวะปกติแล้ว