ศูนย์ข่าวศรีราชา - ชาวบ้านนับร้อย ล่ารายชื่อร่วมกำนันตงฉิน แจ้งความดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องขุดหินทะเล ทำหนังสือ เสนอผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี คัดค้านนักธุรกิจชาวไทยรับจ้างปรับพื้นที่เนรมิตชายหาด ขุดหินในทะเล ทำลายสิ่งแวดล้อมเดิมยับเยิน ระดมเรือ 2 ลำ รถแบ็กโฮ 6 คัน รุมขุด เจาะทำลายก้อนหินธรรมชาติในทะเลให้เร็วที่สุด กล่าวโทษเจ้าหน้าที่ขนส่งทางน้ำที่ออกใบอนุญาตไม่ชอบด้วยกฎหมาย ผู้ว่าฯ สั่งหาหลักฐานประกอบความเสียหายจ่อฟันซ้ำ ส่วนนายอำเภอสัตหีบ ยังทำเป็นงงไม่รู้เรื่องให้สอบถามปลัดอำเภอ สาปแช่งทำลายหินลูกช้าง
วันนี้ (3 มี.ค.) นายสมศักดิ์ ทับกลัด กำนันตำบลนาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้นำบัญชีรายชื่อลูกบ้านหมู่ที่ 3 และหมู่ที่ 8 เกือบ 100 คน เป็นหลักฐานเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.ท.ศุภวัฒน์ ลัทธปรีชา พนักงานสอบสวน สภ.ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ดำเนินคดีกับ บริษัท ไอยรา แมนเนจเม้นท์ บางเสร่ จำกัด และผู้เกี่ยวข้องที่ได้ว่าจ้างนักธุรกิจนำรถแบ็กโฮ จำนวน 6 คัน แบ่งเป็น ประเภทขุด 3 คัน เจาะ 2 คัน และเครนยก 1 คัน เรือลากจูงชื่อ อ.อุดมโชค 1 ลำ เรือเหล็กท้องแบนของ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ เบอร์ 92 จำนวน 1 ลำ รถบรรทุก 10 ล้อ มาทำการขุดก้อนหินธรรมชาติขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ และเจาะหินก้อนใหญ่ และหินดานที่ชายหาดหินลูกช้าง หมู่ที่ 3 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
ทั้งนี้ มีการขุด เจาะ ทำลายก้อนหินให้แปรสภาพแล้วมีการเคลื่อนย้ายออกไปจากที่เดิม หลังได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบพื้นที่แต่ไม่สามารถดำเนินการตามกฎหมายได้เพราะ เจ้าหน้าที่จากบริษัท ไอยรา แมนเนจเม้นท์ บางเสร่ จำกัด ได้นำหนังสือขออนุญาตปรับปรุงภูมิทัศน์ จากสำนักงานการขนส่งทางน้ำที่ 6 สาขาพัทยา มาแสดงความถูกต้องว่าได้รับการอนุญาตในการดำเนินการเรียบร้อยแล้ว
หลังจากที่ทราบว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐในพื้นที่ไม่สามารถดำเนินการตามกฎหมายกับการกระทำดังกล่าว ทำให้ นายสมศักดิ์ ทับกลัด กำนันตำบลนาจอมเทียน นายมานะ ญาตเจริญ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 ต.นาจอมเทียน นายดำริห์ รัตนวงศ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 ต.นาจอมเทียน ได้ทำหนังสือจากที่ว่าการอำเภอสัตหีบ เลขที่ ชบ 0171/52 เรื่อง ขอคัดค้านการขุดหินในทะเล
พร้อมแนบบัญชีรายชื่อประชาชนในเขตหมู่ที่ 3 และหมู่ที่ 8 ต.นาจอมเทียน เกือบ 100 คน ที่เข้าร่วมคัดค้านกล่าวโทษข้าราชการ และให้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้กระทำความผิดทุกคน ไปยื่นให้กับ นายสุรพล พงษ์ทัดศิริกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี และได้แนบหนังสืออนุญาตปรับพื้นที่ และปรับภูมิทัศน์จาก สำนักงานขนส่งทางน้ำที่ 6 สาขาพัทยา เลขที่ คค 0315.7.พัทยา/024 เรื่อง อนุญาตให้ปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่บริเวณชายหาดนาจอมเทียน บริเวณในทะเลด้านหน้าที่ดินกรรมสิทธิ์
ในเบื้องต้น ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีได้รับเรื่องการคัดค้านการขุดหินในทะเล พร้อมกับให้ นายสมศักดิ์ ทับกลัด นำหลักฐานภาพถ่ายความเสียหายทรัพยากรธรรมชาติมาแนบเพิ่มเติมเพื่อเสนออธิบดีกรมขนส่งทางน้ำฯ ให้มาดำเนินการตรวจสอบความถูกต้องต่อไป
นายสมศักดิ์ ทับกลัด กล่าวว่า การที่ นายวิทยา ไชยานุกูลกิตติ หัวหน้าสำนักงานการขนส่งทางน้ำที่ 6 สาขาพัทยา ได้ออกหนังสืออนุญาตให้ บริษัท ไอยรา แมนเนจเม้นท์ บางเสร่ จำกัด เป็นผู้ขอปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่ชายหาดด้วยการรื้อถอนหินโสโครกธรรมชาติขนาดใหญ่ ขนาดกลาง ขนาดเล็ก บรรทุกใส่รถ ใส่เรือ โดยมีการเคลื่อนย้ายออกไปนอกพื้นที่เดิม ซึ่งถือว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการทำลายสภาพแวดล้อม ทำลายทรัพยากรธรรมชาติอย่างร้ายแรง ส่งผลให้ราษฎรขาดวงจรชีวิตในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นการประมง การท่องเที่ยว ซึ่งหนังสืออนุญาตดังกล่าวอาจจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้ประชาชนได้ออกมาร่วมกันคัดค้านการกระทำดังกล่าว พร้อมทั้งให้ทางราชการพิจารณาลงโทษทางวินัยกับ นายวิทยา ไชยานุกูลกิตติ ด้วย
นายชายชาญ เอี่ยมเจริญ นายอำเภอสัตหีบ เปิดเผยว่า เรื่องที่กำนัน และราษฎรได้ร่วมกันแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับ ผู้ประกอบการรับจ้างขุดหิน ปรับภูมิทัศน์หน้าชายหาดหินลูกช้าง หมู่ที่ 3 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ ซึ่งเป็นของ บริษัท ไอยรา แมนเนจเม้นท์ บางเสร่ จำกัด นั้นขณะนี้ยังไม่ทราบรายละเอียด ต้องไปสอบถาม นายสุรเชษฐ์ แก้วคำ ปลัดป้องกันและปราบปราม อำเภอสัตหีบ เพราะคงทราบเรื่องนี้ดี และยังไม่ได้ไปตรวจสอบแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวเฉพาะกิจ รายงานว่า ได้รับทราบจากราษฎรหมู่ที่ 3 และหมู่ที่ 8 ต.นาจอมเทียน ว่า นายทุนได้นำอุปกรณ์ เรือ รถ และรถแบร็คโฮหลายคัน เข้ามาทำลายทรัพยากรธรรมชาติเดิม เป็นวันที่ 3 แล้ว แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่ของรัฐมาดำเนินการแต่อย่างใด ทั้งที่ปรากฏชัดเจนว่าการกระทำดังกล่าวผิดกฎหมาย
ชาวบ้านจึงได้ร่วมกันทำการสาปแช่งการกระทำดังกล่าว พร้อมล่ารายชื่อคัดค้านการดำเนินกิจการ แจ้งความดำเนินคดี เนื่องจากจะทำลายทรัพยากรธรรมชาติแล้ว ทำลายวิถีชีวิตของราษฎร ชาวประมง และทำลายความเชื่อ ก็คือ พบว่าได้นำเรือลาก รถแบล็คโฮเข้ามาขุด เจาะ ก้อนหินลูกช้าง ที่ชาวบ้าน ชาวประมง แต่อดีตยุคปู่ย่าตายายให้ความนับถือ และเชื่อว่าหินใหญ่ก้อนนี้มีความศักดิ์สิทธิ์ มีปรากฏการณ์แปลกให้เห็นกันบ่อย จนเป็นที่กราบไหว้ ขอพรของชาวประมงเมื่อออกหาปลาในทะเล จะปลอดภัย และได้ปลามาจำนวนมาก แต่ขณะนี้นายทุนได้ใช้รถขุด เจาะ ก้อนหินลูกช้าง โดยไม่คำนึงถึงจิตใจชาวบ้าน จึงได้สาปแช่งให้เกิดความหายนะกันให้หมด และเชื่อว่าจะต้องเกิดเหตุร้ายกับคนที่เข้ามาทำลายหินก้อนนี้แน่นอน